บทความเรื่องอย่าไปพูด หากลูกๆต้องการจะพูดให้พ่อแม่ฟัง

**บทความ: อย่าไปพูด หากลูกๆ ต้องการจะพูดให้พ่อแม่รับฟัง**

ในทุกวันนี้ การสื่อสารระหว่างพ่อแม่และลูกเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว แต่หลายครั้งที่พ่อแม่อาจไม่รู้ตัวว่าการพูดหรือแทรกแซงการสนทนาของลูกๆ อาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและการเปิดเผยตัวตนของลูกได้ การให้ลูกมีโอกาสพูดและได้รับฟังอย่างจริงจังถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นใจและสุขภาพจิตที่ดีของพวกเขา

### ความสำคัญของการฟัง

การฟังที่ดีหมายถึงการให้ความสำคัญกับสิ่งที่ลูกพูด โดยไม่ขัดจังหวะหรือแทรกแซง และให้โอกาสพวกเขาได้แสดงออกถึงความรู้สึก ความคิด และประสบการณ์ของตัวเอง ซึ่งการฟังอย่างตั้งใจไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกรู้สึกมีค่า แต่ยังช่วยให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยในการเปิดใจเกี่ยวกับปัญหาหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขา

### ผลกระทบจากการพูดขัดจังหวะ

1. **ทำให้ลูกไม่กล้าพูด**  

   หากพ่อแม่มักพูดขัดจังหวะเมื่อมีการสนทนา ลูกๆ อาจรู้สึกว่าความคิดเห็นหรือความรู้สึกของตนไม่สำคัญ ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดในอนาคต

2. **ลดทอนความมั่นใจ**  

   การไม่สามารถสื่อสารความคิดได้อาจทำให้ลูกเกิดความรู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงที่พวกเขาต้องการการสนับสนุนและคำแนะนำจากพ่อแม่

3. **เกิดความเข้าใจผิด**  

   เมื่อพ่อแม่ไม่ได้ฟังในสิ่งที่ลูกพูด อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือการตีความที่ผิดพลาดเกี่ยวกับความรู้สึกและสถานการณ์ที่ลูกเผชิญอยู่

4. **ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกเสื่อมโทรม**  

   การที่พ่อแม่ไม่รับฟังลูกๆ อาจทำให้เกิดความห่างเหินและความรู้สึกไม่เข้าใจกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การทะเลาะหรือความตึงเครียดในครอบครัว

### วิธีการส่งเสริมการฟังที่ดี

1. **สร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร**  

   ให้ลูกมีพื้นที่ในการพูดคุย โดยไม่รู้สึกว่าถูกตัดสินหรือถูกควบคุม เช่น การนั่งพูดคุยในห้องที่เงียบสงบ หรือขณะทำกิจกรรมร่วมกัน

2. **ใช้ภาษากายที่เปิดกว้าง**  

   แสดงให้ลูกเห็นว่าพ่อแม่สนใจที่จะฟัง เช่น การตั้งใจมองตา การพยักหน้า หรือการแสดงความเห็นในสิ่งที่ลูกพูด

3. **หลีกเลี่ยงการขัดจังหวะ**  

   พยายามไม่ขัดจังหวะหรือพูดแทรกเมื่อลูกกำลังพูด ให้โอกาสพวกเขาได้แสดงความคิดจนจบก่อนที่พ่อแม่จะให้ความเห็น

4. **ตั้งคำถามเพื่อให้ลูกพูดมากขึ้น**  

   ใช้คำถามที่เปิดกว้าง เพื่อกระตุ้นให้ลูกพูดมากขึ้น เช่น "เจ้ารู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้?" หรือ "เจ้าคิดว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น?"

5. **ยอมรับความคิดเห็นและความรู้สึกของลูก**  

   แม้จะไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของลูก พ่อแม่ก็ควรแสดงความเข้าใจและเคารพในความรู้สึกของพวกเขา โดยไม่ทำให้รู้สึกว่าผิดหรือไม่เหมาะสม

### สรุป

การให้ลูกๆ ได้พูดและรับฟังอย่างจริงจังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูก เมื่อพ่อแม่ให้ความสำคัญกับการฟังลูก จะช่วยให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นใจในตัวเอง และสามารถสื่อสารความรู้สึกและความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต ความรักและการสนับสนุนจากพ่อแม่จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างครอบครัวที่มีความสุขและเข้มแข็ง.

**นิทานเรื่อง: อ้ายจำเรียนอย่าไปพูด หากลูกๆ ต้องการจะพูดให้พ่อแม่ฟัง**

ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีเด็กชายชื่อ "อ้ายจำเรียน" เขาเป็นเด็กที่ชอบพูดคุยและมีความคิดสร้างสรรค์ แต่พ่อแม่ของเขามักจะยุ่งอยู่กับงาน ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกได้พูดคุยกันมากนัก เมื่ออ้ายจำเรียนพยายามพูด แต่พ่อแม่ก็กลับพูดขัดจังหวะหรือไม่สนใจ ทำให้เขารู้สึกน้อยใจและไม่มั่นใจในตัวเอง

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังนั่งเล่นอยู่ในสวน เขาได้พบกับ "น้าปู" ชายชราผู้เป็นที่เคารพในหมู่บ้าน น้าปูเห็นอ้ายจำเรียนมีท่าทางเศร้า จึงเข้ามานั่งข้างๆ และถามว่า "เด็กน้อย ทำไมเจ้าถึงดูเศร้าเช่นนี้?"

อ้ายจำเรียนจึงเล่าให้ฟังถึงความรู้สึกที่พ่อแม่ไม่ค่อยรับฟังเมื่อเขาพูด ถึงแม้ว่าเขาจะมีความคิดที่อยากจะแบ่งปัน น้าปูฟังแล้วก็พยักหน้าและกล่าวว่า "เด็กน้อย ความรู้สึกของเจ้าเป็นเรื่องสำคัญมาก การสื่อสารเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี แต่เจ้าต้องรู้ว่าบางครั้งพ่อแม่อาจยุ่งเกินไปในการทำงาน"

น้าปูแนะนำว่า "ลองหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพูดคุยกับพ่อแม่ เช่น ตอนที่พวกเขาพักผ่อน หรือขณะทำกิจกรรมร่วมกัน และเมื่อเจ้าได้พูด อย่าลืมตั้งใจให้พวกเขาฟังอย่างเต็มที่"

อ้ายจำเรียนคิดตามคำแนะนำของน้าปู และในวันถัดมา เขาตัดสินใจที่จะรอจนกว่าพ่อแม่จะว่างและอยู่ในอารมณ์ดี เมื่อถึงเวลานั้น เขาจึงเริ่มเล่าเรื่องราวในโรงเรียนเกี่ยวกับเพื่อนใหม่และกิจกรรมที่เขาชอบทำ พ่อแม่ของเขาได้ตั้งใจฟังและตอบสนองด้วยความสนใจ

หลังจากนั้น อ้ายจำเรียนรู้สึกมีความสุขมากขึ้น เขาได้แชร์ความคิดและความรู้สึกของตนได้อย่างเต็มที่ และพ่อแม่ก็เริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งที่ลูกพูดมากขึ้น ทั้งคู่เริ่มมีการสนทนากันอย่างเปิดเผยและเต็มไปด้วยความรัก

**คติธรรมสอนใจ:** ความสามารถในการสื่อสารและการฟังเป็นสิ่งสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก การให้โอกาสให้ลูกได้พูดและฟังอย่างตั้งใจ จะช่วยสร้างความเข้าใจและความรักในครอบครัวมากยิ่งขึ้น.

ขอสรุปเสริมทิ้งท้ายว่า  สิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกวัยรุ่นเชื่อใจพ่อแม่ คือ การที่พวกเขารู้สึกว่าเสียงของตนเองมีคนรับฟัง บ่อยครั้งพ่อแม่มักติดพฤติกรรมสอนหรือให้คำแนะนำตลอดเวลาโดยที่ไม่รู้ตัว เพียงแค่ลูกเกริ่นประโยคแรก พ่อแม่ก็พูดต่อเสียยาว ยังไม่ทันฟังลูกให้จบ หากเป็นเช่นนี้บ่อยเข้า ลูกอาจไม่อยากเล่าอะไรให้ฟังอีกเลย การฟัง ช่วยให้พ่อแม่เข้าใจมุมมอง และสถานการณ์ของลูกโดยไม่ด่วนตัดสิน หากฟังลูกจนจบ พ่อแม่อาจให้คำแนะนำที่ดีขึ้นได้ 

ลองเริ่มคำถามด้วยคำว่า “อะไร” หรือ “อย่างไร” แทนการใช้คำว่า “ทำไม” ซึ่งอาจทำให้ลูกรู้สึกถูกตัดสิน ลองเปรียบเทียบระหว่างการถามว่า “อะไรที่ทำให้ลูกสอบตกวิชานี้” หรือ “ลูกสอบตกวิชานี้ได้อย่างไร” กับ “ทำไมลูกถึงสอบตกวิชานี้”

จะพบว่า คำว่า “อะไร” หรือ “อย่างไร” ช่วยเปิดโอกาสให้เด็กได้อธิบายเหตุผลมากกว่า ในขณะที่การตอบคำถามว่า “ทำไม” อาจทำให้เด็กๆ รู้สึกเหมือนถูกสอบสวนเพราะสงสัยว่าพวกเขาเป็นคนผิด

อยากสนับสนุนบทความและนิทานของอ้ายจำเรียนด้วยการให้ติ้ปเพื่อเป็นกำลังใจในการทำคอนเทนต์ต่อไปได้ที่👇นี่

พร้อมเพย์/ทรูมันนี่วอเลทเบอร์

0892718015

จำเรียน จันทร์รักษา

แอดไลน์ไอดี tel0892718015