นิทานอีสป
ผู้แต่ง : อีสป

ในยามเช้าอันแสนสดใส หมาจิ้งจอกยื่นจมูกอันเฉียบไวของมันไปตามราวป่า เพื่อเสาะหาของกิน มันเห็นกาตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ่งไม้เหนือหัว แน่นอนว่านี่ย่อมไม่ใช่อีกาตัวแรกที่เจ้าจิ้งจอกเคยเห็น แต่ครั้งนี้สิ่งที่ทำให้มันสนใจจนต้องหยุดมองเป็นครั้งที่สองก็คือเจ้าอีกาผู้โชคดีมีเนยแข็งอยู่ในปากของมันก้อนหนึ่ง
"ไม่จำเป็นต้องไปหาไกลแล้ว" หมาจิ้งจอกเจ้าเล่ห์คิด "นี่แหละคืออาหารเช้าอันแสนโอชะของข้า"
ว่าแล้วมันก็วิ่งเหยาะๆ ไปยังโคนต้นไม้ซึ่งอีกาเกาะอยู่และมองขึ้นไปด้วยความชื่นชม มันร้องว่า "อรุณสวัสดิ์ สิ่งมีชีวิตที่แสนงดงาม"
อีกาเอียงคอข้างหนึ่ง มองหมาจิ้งจอกด้วยความแคลงใจ ทว่ามันคาบเนยแข็งไว้ในปากแน่น ไม่ยอมตอบรับคำทักทายของหมาจิ้งจอกเลย
"ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเสน่ห์เหลือเกิน" หมาจิ้งจอกกล่าว "ขนของมันส่องประกายเป็นยิ่งนัก รูปร่างก็งดงาม ทั้งยังมีปีกอันมหัศจรรย์ นกแสนสวยเช่นนี้ย่อมต้องมีเสียงที่ไพเราะเพราะพริ้งมากเป็นแน่ ในเมื่อทุกอย่างในตัวมันสุดจะสมบูรณ์แบบ มันจะร้องเพลงให้ข้าฟังสักเพลงได้ไหมหนอ ข้ารู้ดีว่าข้าควรยกย่องให้มันเป็นราชินีแห่งนกทั้งหลาย"
เมื่อได้ฟังคำยกยอปอปั้นเหล่านี้ อีกาก็ลืมข้อกังขาทั้งปวงรวมถึงอาหารเช้าของมันด้วย มันอยากได้ชื่อว่าราชินีแห่งนกเหลือเกิน
ดังนั้นมันจึงอ้าปากกว้างส่งเสียงร้องดังที่สุดออกมา และแล้วเนยแข็งก็ล่วงหล่นลงมาเข้าปากหมาจิ้งจอกซึ่งอ้ารอรับอยู่พอดิบพอดี
"ขอบคุณ" หมาจิ้งจอกกล่าวเสียงหวานขณะเดินจากไป "แม้ว่าจะแหบห้าวไปสักหน่อย แต่เสียงเจ้าก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ ว่าแต่สติปัญญาของเจ้าอยู่ที่ไหนหรือ"
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
คนสอพลอมีชีวิตอยู่บนความเสียหายของผู้ที่เชื่อฟังพวกเขา
นิทานอีสป เรื่อง กัปตันกับผู้โดยสาร

เรือข้ามฝากลำหนึ่งได้บรรทุกผู้โดยสารที่ต้องการข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งมาเต็มลำ ผู้โดยสารทุกคนต่างหลงไหลกับภาพของท้องทะเล อันงดงามและเงียบสงบ เหล่าปลาต่างก็กำลังแหวกว่ายอยู่ในกระแสน้ำ พร้อมกับหมู่นกนางนวลที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าใส

ไม่นานนัก ท้องทะเลนั้นก็เริ่มก่อตัวเป็นคลื่นขนาดใหญ่ อีกทั้งลมพายุพัดโหมกระหน่ำจนเรือโคลงเคลงไปมาในเกลียวคลื่น ทำให้ผู้โดยสารต่างพากันหวาดกลัวว่าจะมีชีวิตรอดหรือไม่

ในที่สุดเมื่อคลื่นลมสงบ มีเพียงแสงแดดอ่อนและรุ้งกินน้ำอันงดงามพาดผ่าน เหล่าผู้โดยสารทั้งหมดต่างพากันตกตะลึงกับความงามของสายรุ้งนั้น พร้อมทั้งรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเรือถูกบังคับมาอีกด้านหนึ่งพร้อมกับจอดเทียบท่า กัปตันเรือเดินจึงกล่าวกับทุกคนบนเรือว่า "ชีวิตคนเราก็เหมือนกับทะเล มีทั้งสุขสงบและทุกข์เข็ญแสนสาหัสปะปนกันไป"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า"ชีวิตเต็มไปด้วยทุกข์และสุขอันประกอบด้วยเหตุปัจจัย จงตั้งมั่นด้วยสติและปัญญาเพื่อก้าวพ้นทุกข์
นิทานอีสป เรื่อง จูปิเตอร์และลิงไม่มีหาง
ผู้แต่ง : อีสป

อยู่มาวันหนึ่งเทพจูปิเตอร์ มีความประสงค์ให้เหล่าสัตว์บนสรวงสวรรค์มาชุมนุมต่อพระพักตร์โดยพร้อมเพรียงกัน และมีความประสงค์ให้นำลูกๆ มาด้วย เพื่อคัดเลือกว่าสัตว์ตัวใดมีลูกที่งดงามที่สุด
แม่ลิงไม่มีหางพาลูกๆ ของมันมาเข้าเฝ้าเทพจูปิเตอร์ก่อนสัตว์ทั้งหลาย เจ้าลิงโอบกอดลูกไว้ในอ้อมแขนด้วยความรักอันเปี่ยมล้น เทพจูปิเตอร์เห็นพฤติกรรมของแม่ลิง ตึงตัดสินว่า "ครอบครัวของแม่ลิงไม่มีหางงดงามที่สุด"
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่ที่สุด ถ้ายังไม่ได้เปรียบเทียบกับอย่างอื่น
นิทานอีสป เรื่อง ชายหนุ่มกับม้าพยศ
ผู้แต่ง : อีสป

ชายหนุ่มคนหนึ่งคิดว่าตนเองเป็นคนขี่ม้าที่เก่งที่สุด เมื่อเห็นม้ากินหญ้าอยู่ริมคอกจึงกระโดดขึ้นไปบนหลังม้า แต่หารู้ไม่ว่าม้านั้นไม่พร้อมที่จะยังให้ขี่ มันรู้สึกหนักเหมือนอะไรอยู่บนหลัง มันตกใจและยากที่จะตวบคุมตนเอง มันจึงวิ่งเตลิดเปิดเปิงไปข้างหน้าอย่างไร้ทิศทาง ชายหนุ่มคนนั้นไม่รู้จะทำเช่นไร เขาได้แต่ตกใจ
ม้ามุ่งหน้าด้วยความรวดเร็วปานจรวด ทันใดนั้นเพื่อนของคนขี่ม้าเห็นจึงร้องถามว่า
"นี่! เจ้าจะรีบไปไหนกัน ม้าของเจ้านี่มันช่างรวดเร็วดีจัง"
"ข้าก็ไม่รู้ว่ามันจะรีบร้อนไปไหน เพราะตัวข้าไม่ได้บอกให้มันออกวิ่งเลย มันพาข้าไปเองต่างหาก"
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
ทำการสิ่งใดต้องคิดให้รอบคอบถึงผลเสียที่จะตามมา
ผู้แต่ง : อีสป

ณ ท้องฟ้าสีครามกว้างใหญ่ หมู่เมฆก้อนขาวล่องลอยไปกับสายลมอย่างมีความสุข ขณะที่หมู่เมฆกำลังลอยละล่องอยู่นั้น เมฆก้อนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า
"วันนี้พวกเราจะลอยไปไหนกันดี แต่วันนี้สายลมกำลังดี ฉันอยากจะลอบไปกับสายลมเรื่อยๆ"
"ฉันเห็นด้วย"
หลายเสียงจากก้อนเมฆขาวต่างตอบไปในทางเดียวกัน
เวลานั้นยังมีห่านป่ากำลังบินด้วยความพยายามอยู่บนท้องฟ้าสีครามเพื่อที่จะหาอาหาร ขณะที่บินอยู่นั้นก็พบกับกลุ่มก้อนเมฆสีขาวที่กำลังลอยละล่องกับสายลมไปในทางตรงกันข้าม หมู่เมฆก้อนขาวเมื่อเห็นห่านป่า เมฆขาวก้อนหนึ่งจึงพูดทักกับห่านป่า
"สวัสดีจ้ะห่านป่า เธอกำลังจะไปที่ไหนจ้ะ"
"ฉันกำลังจะไปหาอาหาร"
"ว่าไปแล้วนะห่านป่า เธอเห็นไหม พวกเราเนี่ยเหมือนกันเลยนะ ได้โบยบินอยู่บนท้องฟ้าสีครามเหมือนกัน"
ห่านป่าได้ยินเช่นนั้นจึงตอบกลับไปว่า
"ไม่เหมือนกันหรอกนะเมฆขาว ที่จริงแล้วเวลาที่ฉันบินทุกครั้งฉันจะต้องต่อสู้กับสายลมเสมอ แตกต่างจากพวกเธอที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสายลม"
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
ผู้ที่กำลังพยายามนั้น ย่อมเหนื่อยกว่าผู้ที่สำเร็จแล้ว
นิทานอีสป เรื่อง พระจันทร์ในบ่อน้ำ
ผู้แต่ง : อีสป

ในขณะที่พ่อค้าเดินทางไกลผ่านมาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง พ่อค้าเดินไปเรื่อยๆ จนพบกับกลุ่มคนกลุ่มใหญ่กำลังอยู่ล้อมรอบบ่อน้ำนอกหมู่บ้าน พวกเขากำลังจะลงไปในบ่อน้ำ พ่อค้าเห็นเข้าจึงถามว่า
"พวกท่านจะลงไปในบ่อน้ำทำไมหรือ?"
คนเหล่านั้นร้องตอบพ่อค้าว่า
"ทำไมเล่า พวกเรามีเหตุผลที่จะลงไปในบ่อน้ำ ท่านเข้ามาดูสิพระจันทร์หกคะเมนลบไปในบ่อน้ำ และพวกเราก็กำลังจะลงไปเอามันขึ้นมาให้ได้"
กลุ่มคนพูดจบ พ่อค้าจึงระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นแล้วบอกกับกลุ่มคนว่า
"พวกท่านจงมองขึ้นไปบนท้องฟ้า พระจันทร์ที่เห็นในบ่อน้ำมันคือเงาของพระจันทร์"
แต่กลุ่มคนเหล่านั้นไม่เชื่อ แถมยังทำร้ายร่างกายพ่อค้าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
บางคนโง่เขลาเบาปัญญาเกินกว่าจะสอนให้รับฟังผู้อื่นได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น