นิทานชีวิต

 นิทานเรื่อง "ถ้าล้มจะได้อะไร
ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มชื่อว่า "อ้ายจำเรียน" เขามักจะสนใจในกีฬาและการแข่งขันต่าง ๆ โดยเฉพาะกีฬาวิ่ง แต่เขามักจะรู้สึกว่าตนเองวิ่งช้าเมื่อเทียบกับเพื่อน ๆ

วันหนึ่งมีการจัดการแข่งขันวิ่งในหมู่บ้าน อ้ายจำเรียนตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน แม้ว่าจะรู้ว่าตนเองอาจจะแพ้ แต่เขาก็คิดว่าการได้ลองวิ่งก็เป็นสิ่งที่ดี

เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น อ้ายจำเรียนพยายามวิ่งอย่างเต็มที่ แต่ระหว่างทางเขาเกิดสะดุดล้มลงไปกับพื้น ทำให้เขาได้รับบาดแผลที่เข่าและมือ เขารู้สึกเจ็บปวดมาก และความคิดที่จะยอมแพ้เริ่มเกิดขึ้นในใจ

ในขณะที่เขานั่งอยู่บนพื้น เขาได้ยินเสียงเชียร์จากผู้คนรอบข้าง "สู้ ๆ อ้ายจำเรียน! อย่ายอมแพ้!" เสียงเหล่านั้นกระตุ้นให้เขาคิดถึงสิ่งที่สำคัญ เขาจำได้ว่า ทุกคนในชีวิตต้องพบกับอุปสรรคและความล้มเหลว ถ้าเขายอมแพ้ เขาก็จะไม่ได้เรียนรู้หรือพัฒนาตนเองเลย

อ้ายจำเรียนตัดสินใจที่จะลุกขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะเจ็บปวด แต่เขาก็เริ่มวิ่งต่อไป ด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่น เขาไม่สนใจบาดแผลที่เกิดขึ้นกับร่างกาย แต่สนใจเพียงแค่เส้นชัย

ในที่สุด อ้ายจำเรียนสามารถวิ่งเข้าเส้นชัยได้ แม้ว่าเขาจะมาเป็นคนสุดท้าย แต่เขารู้สึกภูมิใจในตัวเองที่ไม่ยอมแพ้ เขาได้เรียนรู้ว่าความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นโอกาสในการเติบโต

 คติสอนใจ
"ถ้าล้มเราอาจจะได้แผล แต่ถ้ายอมแพ้เราอาจจะไม่ได้อะไรเลย"

การล้มลงไม่ใช่ความพ่ายแพ้  
แต่คือโอกาสให้เราเรียนรู้  
แม้จะเจ็บปวดหรือเกิดแผลเป็น  
มันคือรางวัลจากการไม่ยอมแพ้  

ในชีวิตมีอุปสรรคมากมาย  
แต่จงอย่าหยุดเดินทางเพราะความกลัว  
การล้มครั้งแล้วครั้งเล่าคือบทเรียน  
ที่ทำให้เรากล้าและแข็งแกร่งขึ้น  

ถ้ายอมแพ้ก็จะไม่เห็นอนาคต  
เหมือนกับการปิดกั้นความฝันของเรา  
ให้ความพยายามเป็นแรงผลักดัน  
เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคและก้าวต่อไป  

จงกล้าล้มและลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง  
เพราะทุกครั้งที่เรายืนหยัดสู้  
มันจะนำเราไปสู่ความสำเร็จ  
ซึ่งรออยู่ที่ปลายทางแห่งความพยายาม  

อยากสนับสนุนบทความและนิทานของอ้ายจำเรียนด้วยการให้คิ้วเพื่อเป็นกำลังใจในการทำคอนเทนต์ต่อไปได้ที่👇นี่
พร้อมเพย์/ทรูมันนี่วอเลทเบอร์
0892718015
จำเรียน จันทร์รักษา
แอดไลน์ไอดี tel0892718015

นิทานเรื่อง "ความยินดี
ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มชื่อว่า "อ้ายจำเรียน" เขาเป็นเด็กที่มีความใฝ่ฝันอยากจะมีชีวิตที่ดี มีเงินทอง และของเล่นมากมายเหมือนกับเพื่อน ๆ ในหมู่บ้าน

วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนได้ยินข่าวเกี่ยวกับตลาดนัดที่จะมีขึ้นในหมู่บ้าน ในตลาดนัดนี้จะมีของเล่นและของกินมากมายที่เขาอยากได้ แต่เมื่อเขามองดูเงินในกระเป๋า กลับพบว่าเขามีเงินเพียงน้อยนิด

อ้ายจำเรียนรู้สึกผิดหวังมาก เขาเห็นเพื่อน ๆ ซื้อของเล่นที่เขาชอบกัน แต่เขากลับไม่มีเงินพอที่จะซื้อของเล่นนั้นได้ ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและอิจฉาเพื่อน ๆ ที่มีของเล่นมากมาย

แต่เมื่อเขาเดินไปถึงร้านขายของเล่น เขาเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่บนม้านั่ง เด็กหญิงมีตุ๊กตาเพียงตัวเดียว แต่เธอกลับยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุข อ้ายจำเรียนรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นเด็กหญิงมีความสุขทั้ง ๆ ที่มีเพียงสิ่งของเล็กน้อย

“ทำไมเธอถึงมีความสุขนัก?” อ้ายจำเรียนถามเด็กหญิง

“ฉันมีตุ๊กตาเพียงตัวเดียว แต่ฉันรักและดูแลมันมาก ฉันคิดว่ามันคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน” เด็กหญิงตอบด้วยรอยยิ้ม

คำพูดของเด็กหญิงทำให้อ้ายจำเรียนเริ่มคิด เขาเริ่มรู้สึกว่าเขาควรจะพอใจในสิ่งที่มีอยู่ และไม่จำเป็นต้องมีของเล่นมากมายเพื่อจะมีความสุข

อ้ายจำเรียนตัดสินใจที่จะซื้อขนมเล็ก ๆ ให้ตัวเองแทน เขานั่งลงกับเด็กหญิงและแบ่งปันขนมให้เธอด้วย ทั้งสองเล่นตุ๊กตาและขนมด้วยกัน ทำให้ทั้งคู่มีความสุขและหัวเราะไปด้วยกัน

หลังจากวันนั้น อ้ายจำเรียนรู้ที่จะพอใจในสิ่งที่มี เขาเริ่มเห็นคุณค่าของความสุขจากการใช้เวลาร่วมกับเพื่อน ๆ และแบ่งปันสิ่งดี ๆ แทนการมองหาสิ่งที่ตัวเองไม่มี

คติสอนใจ
“พอใจเท่าที่มี ยินดีเท่าที่ได้”

นิทานเรื่องไม่มีอะไรคงที่
ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มชื่อว่า "อ้ายจำเรียน" เขาเป็นคนที่มักจะมีความสุขและร่าเริง แต่เมื่อเขาเผชิญกับปัญหาหรือความทุกข์ เขาจะรู้สึกท้อแท้และคิดว่าความทุกข์นั้นจะอยู่กับเขาตลอดไป

วันหนึ่ง ขณะเดินเล่นในป่า อ้ายจำเรียนพบกับคนแก่คนหนึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ คนแก่มีใบหน้าที่อบอุ่นและมีรอยยิ้มที่สดใส อ้ายจำเรียนเข้าไปถามคนแก่ว่า “ทำไมท่านถึงดูมีความสุขในขณะที่ผู้คนมักจะมีความทุกข์?”

คนแก่ยิ้มและตอบว่า “เพราะฉันรู้ว่าไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป แม้กระทั่งความทุกข์ที่เข้ามา มันก็จะจากไปในที่สุด”

อ้ายจำเรียนรู้สึกสงสัยและถามต่อว่า “ท่านแน่ใจหรือว่าอย่างนั้น? ความทุกข์ของฉันมันหนักมาก ฉันกลัวว่าจะไม่มีวันหายไป”

คนแก่หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “ลองมาฟังเรื่องราวของฉันสิ” 

คนแก่เริ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเขา ว่าครั้งหนึ่งเขาก็เคยมีความทุกข์อย่างมากเมื่อสูญเสียคนที่เขารัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความทุกข์นั้นค่อย ๆ จางหาย และเขาก็ได้เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีกครั้ง

“ในขณะที่ฉันอยู่กับความทุกข์ ฉันมักจะนึกถึงช่วงเวลาที่มีความสุข และรู้ว่าชีวิตมีขึ้นและลง” คนแก่พูดต่อ “ทุกอย่างล้วนมีเวลาเป็นของมันเอง ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์หรือความสุข มันจะมาและไปเสมอ”

อ้ายจำเรียนเริ่มเข้าใจในสิ่งที่คนแก่พูด เขารู้สึกถึงความหวังและแรงบันดาลใจที่จะก้าวผ่านความทุกข์ไปให้ได้

“ขอบคุณท่านมากค่ะ ฉันจะพยายามคิดบวกและเชื่อว่าความทุกข์จะผ่านไป” อ้ายจำเรียนพูดด้วยรอยยิ้ม

หลังจากวันนั้น อ้ายจำเรียนเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง แม้ในวันที่เขารู้สึกทุกข์ เขาก็ยังคงมองโลกในแง่ดี และรู้ว่าความทุกข์นั้นจะไม่อยู่กับเขาตลอดไป

คติสอนใจ

“ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป แม้กระทั่งความทุกข์ที่เข้ามา แต่เดี๋ยวก็จะจากไป” 

ความทุกข์ที่เข้ามาในชีวิต  
ย่อมมีวันหมดสิ้นไปเป็นธรรมดา  
อย่าได้เศร้าใจหรือท้อถอย  
เพราะมันเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น  

ในทุกช่วงเวลาที่ผ่านเข้ามา  
มีความสุขซ่อนอยู่ให้ค้นหา  
จงมีสติรอเวลาให้ทุกข์คลาย  
เมื่อใดที่เรายอมรับความจริง  

เพียงแค่เราไม่ยอมแพ้ต่อชะตา  
เดินหน้าต่อไปอย่างมั่นใจ  
ทุกข์หรือสุขก็เป็นบทเรียน  
ให้เราเติบโตในวันต่อไป  

จงใช้ชีวิตอย่างมีสติ  
ยิ้มรับความทุกข์และความสุข  
เพราะไม่มีอะไรอยู่ตลอดไป  
วันหนึ่งมันจะผ่านไปแน่นอน  

 นิทานเรื่องผู้ที่กล้ายิ้มให้ความทุกข์"
ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีเด็กชายชื่อ "อ้ายจำเรียน" เขาเป็นเด็กที่มีนิสัยร่าเริงและยิ้มแย้มเสมอ ไม่ว่าเขาจะต้องเผชิญกับปัญหาอะไร เขามักจะพยายามยิ้มและหาทางออกเสมอ

วันหนึ่ง ในหมู่บ้านเกิดภัยพิบัติ น้ำท่วมทำให้บ้านเรือนหลายหลังเสียหาย ผู้คนในหมู่บ้านรู้สึกวิตกกังวลและเครียดกันมาก แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังเศร้า อ้ายจำเรียนกลับเลือกที่จะยิ้ม เขาพูดกับเพื่อน ๆ ว่า “เราจะต้องช่วยกัน สู้ไปด้วยกันนะ! ยิ้มให้ความทุกข์แล้วมันจะเบาบางลง!”

แม้จะมีผู้คนมากมายที่รู้สึกท้อแท้ แต่คำพูดของอ้ายจำเรียนทำให้ทุกคนเริ่มมีกำลังใจขึ้น เขาเริ่มพาเพื่อน ๆ ไปช่วยกันทำความสะอาดบ้านเรือนที่เสียหาย และจัดหาสิ่งของจำเป็นให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ

ขณะที่พวกเขาทำงานร่วมกัน อ้ายจำเรียนยังชวนเพื่อน ๆ หัวเราะเล่นกันในระหว่างทำงาน เพื่อให้บรรยากาศสดชื่นและสนุกสนาน แม้ว่าปัญหาน้ำท่วมจะยังไม่หมดไป แต่ทุกคนกลับรู้สึกมีความสุขในขณะที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

หลังจากที่น้ำลดลง ผู้คนในหมู่บ้านได้กลับมาสร้างบ้านใหม่ด้วยกัน อ้ายจำเรียนและเพื่อน ๆ ยังคงช่วยกันอย่างไม่ลดละ เขามักจะพูดว่า “ผู้ที่แข็งแกร่งคือผู้ที่กล้ายิ้มให้ความทุกข์ และผู้ที่มีความสุขคือผู้ที่หัวเราะให้อุปสรรค”

ในที่สุด หมู่บ้านกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผู้คนรู้สึกขอบคุณอ้ายจำเรียนที่ทำให้พวกเขาเห็นความสำคัญของการยิ้มและหัวเราะ แม้ในวันที่มืดมนที่สุด

### คติสอนใจ
“ผู้ที่แข็งแกร่งคือผู้ที่กล้ายิ้มให้ความทุกข์ ผู้ที่มีความสุขคือผู้ที่หัวเราะให้อุปสรรค”

### บทกลอนสอนใจเรื่อง “ผู้ที่แข็งแกร่งคือผู้ที่กล้ายิ้มให้ความทุกข์ ผู้ที่มีความสุขคือผู้ที่หัวเราะให้อุปสรรค” โดย อ้ายจำเรียน

ในชีวิตเราต้องเจออุปสรรคมากมาย  
ทั้งทุกข์ใจและสุขสันต์ชั้นเยี่ยม  
ผู้กล้าใช้ยิ้มอย่างแข็งแกร่ง  
เผชิญทุกสิ่งด้วยใจที่เบิกบาน  

เมื่อพบเจอความทุกข์หนักหน่วง  
อย่าท้อถอยใจล้าหรือยอมแพ้  
เพียงแค่ยิ้มออกมาให้สดใส  
แค่นั้นเองทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลง  

หากอุปสรรคมาเยือนให้เจอ  
จงหัวเราะฟันฝ่าด้วยความกล้า  
ทุกปัญหาจะกลายเป็นบทเรียน  
ชีวิตเริ่มต้นใหม่จากการรบ   

ผู้ที่มีความสุขคือคนหัวเราะ  
แม้ทุกข์ล้อมรอบอย่าพึ่งแคร์  
อยู่กับปัจจุบันอย่าเก็บมาผูกพัน  
ทุกสิ่งจะผ่านไปในเวลา  

จงเดินต่อไปในทางที่เลือก  
ยิ้มให้กับทุกความทุกข์ที่มา  
จงทำใจให้สงบไม่ขุ่นมัว  
ในชีวิตนี้สู้ต่อไปอย่างแข็งแกร่ง  

บทกลอนสอนใจ
อ้ายจำเรียนจงฟังให้ดี  
ชีวิตในอดีตคือครูสอนให้รู้  
ทุกบทเรียนที่เคยผ่านมาเป็นทุน  
แค่เราตั้งใจเรียนรู้ให้ชัดเจน

ผิดพลาดคือโอกาสที่จะเรียนรู้  
อย่ายอมแพ้ให้กับโชคชะตา  
ในแต่ละวันคือโอกาสใหม่  
เริ่มต้นใหม่ได้เสมอเมื่อมีใจ

ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเถิดหนา  
อนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้า  
จงเชื่อมั่นในตนเองให้เต็มที่  
ชีวิตที่เหลืออยู่คือโอกาสให้เธอเติบโต

เดินต่อไปอย่าหยุดยั้ง  
แม้มีหนทางยากลำบากจงอดทน  
เพราะชีวิตในอดีตคือบทเรียน  
สร้างสรรค์อนาคตให้สดใสในทุกวันนิทาน

เรื่อง “ชีวิตเริ่มใหม่ได้เสมอ
ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มชื่อว่าอ้ายจำเรียน เขาเป็นคนที่มีความฝันอยากเป็นช่างทำเครื่องดนตรีที่มีชื่อเสียง แต่เขามักจะรู้สึกท้อแท้กับอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามาขวางทาง

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาเห็นเด็กๆ กำลังเล่นดนตรีจากเครื่องดนตรีที่เขาทำเอง เด็กๆ เล่นกันอย่างสนุกสนาน แต่เมื่อเขามองไปที่เครื่องดนตรีที่ยังไม่สมบูรณ์ เขาก็รู้สึกหมดกำลังใจ สับสนในความฝันของตัวเอง

อ้ายจำเรียนคิดในใจว่า “ทำไมฉันถึงไม่สามารถทำให้มันออกมาดีได้สักที? ฉันควรจะเลิกแล้วหรือไม่?” เขานั่งมองเด็กๆ เล่นไปอย่างนั้น จนกระทั่งมีผู้เฒ่าผ่านมาที่เห็นอ้ายจำเรียนท่าทางหดหู่

ผู้เฒ่ามาหยุดอยู่ข้างๆ และพูดว่า “เด็กหนุ่มเอ๋ย ทำไมเจ้าถึงดูเศร้าเช่นนี้?”

“ข้าไม่รู้จะทำเครื่องดนตรีให้ดีขึ้นได้อย่างไร ข้าทำไปก็ล้มเหลวอยู่เรื่อย” อ้ายจำเรียนตอบด้วยน้ำเสียงเศร้า

ผู้เฒ่ายิ้มให้และพูดว่า “จงจำไว้ว่า ชีวิตของเราเริ่มใหม่ได้เสมอ ถ้าเราไม่คิดจะยอมแพ้ หากเจ้าไม่ลองทำอีกครั้ง เจ้าจะไม่มีวันรู้ว่าตนเองสามารถทำได้หรือไม่”

คำพูดของผู้เฒ่าทำให้อ้ายจำเรียนรู้สึกตื่นขึ้น เขาตัดสินใจว่าจะไม่ยอมแพ้และจะพยายามทำเครื่องดนตรีของเขาให้ดีขึ้น เขากลับบ้านและเริ่มทำงานใหม่อีกครั้งด้วยความมุ่งมั่น

วันแล้ววันเล่า อ้ายจำเรียนตั้งใจทำเครื่องดนตรีอย่างเต็มที่ แม้จะมีหลายครั้งที่เขาเจออุปสรรค แต่เขาก็ไม่ยอมให้ความผิดหวังมาครอบงำ เขาเรียนรู้จากความผิดพลาดและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

ในที่สุด อ้ายจำเรียนสามารถสร้างเครื่องดนตรีที่มีเสียงไพเราะได้สำเร็จ และเมื่อเด็กๆ ในหมู่บ้านได้ยินเสียงดนตรีจากเครื่องดนตรีที่เขาทำ ทุกคนต่างดีใจและชื่นชมในความสามารถของเขา

“ดูสิ! เขาทำได้จริงๆ!” เด็กๆ ตะโกนด้วยความตื่นเต้น ขณะที่อ้ายจำเรียนยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เรื่องราวของอ้ายจำเรียนสอนให้รู้ว่า แม้จะล้มเหลวหลายครั้ง ก็ยังมีโอกาสเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ขอเพียงแค่เราไม่ยอมแพ้และพยายามต่อไป
 บทกลอนสอนใจเรื่อง “ชีวิตเราเริ่มใหม่ได้เสมอ ถ้าเราไม่คิดจะยอมแพ้”

เมื่อชีวิตต้องพบกับทางเลือน  
อย่าเพิ่งท้อใจให้พ่ายแพ้  
ความผิดหวังไม่ทำให้ใจแหลกแป  
เริ่มใหม่เสมอ หากมีความหวัง

จงก้าวเดินต่อไปให้ไม่หยุด  
แม้ทางขรุขระก็ไม่ใช่เรื่องหนัก  
เมื่อใจมั่นคง สิ่งดีๆ ก็จะมาถึง  
พร้อมแรงใจใหม่ที่สร้างมา

จงฝ่าฟันอุปสรรคด้วยความตั้งใจ  
ความมุ่งมั่นจะนำพาไปสู่ชัยชนะ  
ชีวิตยังมีโอกาสรอให้เจอ  
เริ่มใหม่เสมอ ถ้าเราไม่คิดยอมแพ้

นิทานเรื่อง ชีวิตที่ผ่านมาคือครู

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ มีชายหนุ่มชื่อว่า "อ้ายจำเรียน" อ้ายจำเรียนเป็นคนที่มักจะผิดพลาดและทำผิดหลายครั้งในชีวิต แม้จะมีความพยายามอย่างเต็มที่ แต่บางครั้งความผิดพลาดก็ทำให้เขารู้สึกท้อแท้และอยากจะยอมแพ้

วันหนึ่ง ขณะเดินอยู่ในป่า อ้ายจำเรียนได้พบกับผู้เฒ่าผู้หนึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ผู้เฒ่ามีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้และประสบการณ์ อ้ายจำเรียนเข้าไปทักทายและเล่าความทุกข์ใจให้ผู้เฒ่าฟัง 

“ทำไมชีวิตของข้าถึงเต็มไปด้วยความผิดพลาด?” อ้ายจำเรียนถามด้วยน้ำเสียงเศร้า

ผู้เฒ่ายิ้มและตอบว่า “ลูกเอ๋ย ชีวิตที่ผ่านมานั้นคือครูที่ดีที่สุด มันสอนให้เจ้ารู้ว่าความผิดพลาดคือบทเรียน หากเจ้าสามารถเรียนรู้จากมัน เจ้าจะมีโอกาสใหม่ในอนาคต”

อ้ายจำเรียนตั้งใจฟัง ผู้เฒ่าต่อไปว่า “ทุกครั้งที่เจ้าผิดพลาด จงคิดว่ามันคือโอกาสในการเติบโต หากเจ้าหยุดที่จะเรียนรู้ เจ้าจะไม่มีวันก้าวหน้า”

อ้ายจำเรียนเริ่มเข้าใจว่า ความผิดพลาดไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ เมื่อเขากลับไปที่หมู่บ้าน เขาตัดสินใจที่จะไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคและนำบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดไปใช้ในชีวิต

ในวันถัดมา อ้ายจำเรียนเริ่มทำการเกษตร เขาฝึกฝนและทดลองปลูกพืชหลากหลายชนิด บางครั้งเขาก็เจอปัญหา แต่เขาไม่ยอมให้มันทำให้เขาหมดกำลังใจ เขาเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและปรับปรุงอยู่เสมอ

เมื่อเวลาผ่านไป ผลผลิตของเขาเริ่มดีขึ้น อ้ายจำเรียนได้รับการยอมรับจากชาวบ้านว่าเป็นเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ เขาได้สร้างชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความสุขและความสำเร็จ

วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนกลับไปหาผู้เฒ่าที่เขาพบในป่า เขาบอกว่า “ขอบคุณท่านที่สอนให้ผมเข้าใจว่า ชีวิตที่ผ่านมาคือครู และชีวิตที่เหลืออยู่คือโอกาส” 

ผู้เฒ่าหัวเราะอย่างมีความสุขและกล่าวว่า “จงจำไว้นะลูก ความสำเร็จที่แท้จริงคือการไม่ยอมแพ้ และการเรียนรู้ที่จะเติบโตจากความผิดพลาด”

ตั้งแต่นั้นมา อ้ายจำเรียนไม่เคยลืมบทเรียนนี้ เขาได้กลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และนำความรู้ที่ได้รับไปสอนคนอื่นๆ ในหมู่บ้านอีกด้วย

### บทกลอนสอนใจ

อ้ายจำเรียนจงฟังให้ดี  
ชีวิตในอดีตคือครูสอนให้รู้  
ทุกบทเรียนที่เคยผ่านมาเป็นทุน  
แค่เราตั้งใจเรียนรู้ให้ชัดเจน

ผิดพลาดคือโอกาสที่จะเรียนรู้  
อย่ายอมแพ้ให้กับโชคชะตา  
ในแต่ละวันคือโอกาสใหม่  
เริ่มต้นใหม่ได้เสมอเมื่อมีใจ

ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเถิดหนา  
อนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้า  
จงเชื่อมั่นในตนเองให้เต็มที่  
ชีวิตที่เหลืออยู่คือโอกาสให้เธอเติบโต

เดินต่อไปอย่าหยุดยั้ง  
แม้มีหนทางยากลำบากจงอดทน  
เพราะชีวิตในอดีตคือบทเรียน  
สร้างสรรค์อนาคตให้สดใสในทุกวัน

อยากสนับสนุนบทความและนิทานของอ้ายจำเรียนด้วยการให้คิ้วเพื่อเป็นกำลังใจในการทำคอนเทนต์ต่อไปได้ที่👇นี่
พร้อมเพย์/ทรูมันนี่วอเลทเบอร์
0892718015
จำเรียน จันทร์รักษา
แอดไลน์ไอดี tel0892718015


นิทานเรื่อง "นกไม่กลัวกิ่งไม้หัก
ในสมัยโบราณ มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่า อ้ายจำเรียน เขาเป็นคนขยันทำงาน แต่มีความกังวลอยู่เสมอเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนได้ไปฟังพระพุทธเจ้าตรัสสอนที่วัด โดยมีพระสงฆ์หลายรูปมาประชุมกันอยู่ นะท้องสนามหลวง

เมื่อพระพุทธเจ้าเห็นความวิตกกังวลในใบหน้าของอ้ายจำเรียน พระองค์จึงตรัสว่า “ดูกรอ้ายจำเรียน นกไม่กลัวกิ่งไม้หัก ไม่ใช่ว่ามันมั่นใจในกิ่งไม้ แต่มั่นใจในปีกของมัน”

อ้ายจำเรียนฟังแล้วรู้สึกสงสัย จึงถามว่า “พระองค์หมายถึงอะไรครับ?”

พระพุทธเจ้าตรัสต่อว่า “นกมีปีกเป็นของตน มันรู้ว่ามันสามารถบินได้ แม้จะมีอุปสรรคเป็นกิ่งไม้ที่อาจหัก มันยังเลือกที่จะบิน เพราะมันมั่นใจในความสามารถของตน ดังนั้น หากเจ้ามีความมั่นใจในตัวเองและความสามารถที่เจ้ามี เจ้าก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ได้”

อ้ายจำเรียนฟังแล้วเริ่มเข้าใจ เขาคิดว่าถ้าเขามั่นใจในความสามารถของตนเอง และพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เขาก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

หลังจากนั้น อ้ายจำเรียนเริ่มลงมือทำในสิ่งที่เขาใฝ่ฝัน และแม้จะมีอุปสรรคมากมาย แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ เขาพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดเขาสามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้

 บทกวีสอนใจ
อ้ายจำเรียนเอ๋ยจงมั่นใจในตน
ในกาลแห่งชีวิต เรามีฝัน  
ความหวังย่อมมี พาผ่านคืนวัน  
แม้มีอุปสรรค เราต้องเผชิญ  
มั่นใจในตน อย่ายอมแพ้กัน

นกในฟ้ากว้าง บินไปไกล  
แม้จะมีกิ่งไม้ หักไปสักใบ  
ไม่กลัวในกิ่งไม้ กลัวในใจ  
มั่นใจในปีก แรงฝีมือพาไป

หากเจ้ามีใจ เข้มแข็งกล้าหาญ  
จะก้าวผ่านทุกข์ สุขผุดผ่องแผ้ว  
ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ใจเจ้าจะพาน  
มั่นใจในความฝัน ย่อมได้สิ่งแน่
จงเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆอัายจำเรียนเอ๋ย



นิทานเรื่อง "ความสุขและความทุกข์"
ในยุคสมัยหนึ่ง ณ ดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา มีพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดสัตว์โลกในเมืองหนึ่ง มีผู้คนมากมายมานั่งรอบพระองค์เพื่อฟังธรรมเทศนา

เมื่อทุกคนสงบจิตใจ พระพุทธเจ้าทรงเริ่มแสดงธรรมตรัสว่า "ดูกรอ้ายจำเรียนเอ๋ย ความสุขทำให้เรามีรอยยิ้ม" พระองค์ทรงยิ้มอย่างอบอุ่นทำให้ทุกคนรู้สึกเบิกบานและมีกำลังใจ

พระพุทธเจ้าตรัสต่อไปว่า "ความสุขนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่หา เมื่อเราได้ทำในสิ่งที่รัก ได้พบปะกับผู้คนที่ดี เราจะรู้สึกมีความสุข มีรอยยิ้มที่เปล่งปลั่ง"

เมื่อทุกคนฟังพระพุทธเจ้าตรัสแล้ว ก็เริ่มนึกถึงความสุขในชีวิตของตนเอง มีหลายคนที่ยิ้มแย้ม เพราะนึกถึงครอบครัว เพื่อนฝูง และช่วงเวลาอันแสนสุขที่ได้ใช้ร่วมกัน

พระพุทธเจ้ายังคงตรัสต่อไปว่า "แต่ดูกรอ้ายจำเรียนเอ๋ย ความทุกข์ที่เราผ่านได้ก็เช่นกัน" ทุกคนเริ่มตั้งใจฟัง เพราะพวกเขารู้ว่าความทุกข์ก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

"เมื่อเราเผชิญกับความทุกข์ เราจะได้เรียนรู้ ได้เติบโต และได้เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น การผ่านพ้นความทุกข์ไปได้ จะทำให้เราเห็นคุณค่าของความสุขที่แท้จริง" พระองค์ตรัสด้วยเสียงที่อบอุ่น

พระพุทธเจ้าทรงยกตัวอย่างถึงความทุกข์ในชีวิตของแต่ละคน ว่าทุกคนล้วนเคยผ่านการสูญเสีย การผิดหวัง หรือการเจ็บปวด แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้เรามีประสบการณ์และความเข้มแข็งในการเผชิญกับอนาคต

ท้ายที่สุด พระพุทธเจ้าได้สอนทุกคนว่า "จงใช้ความสุขเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต และอย่ากลัวที่จะเผชิญกับความทุกข์ เพราะความทุกข์คือครูที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราเป็นคนที่แข็งแกร่ง"

เมื่อสิ้นสุดธรรมเทศนา ทุกคนต่างกลับบ้านด้วยความคิดที่สว่างไสว โดยมีรอยยิ้มและความมั่นใจในใจว่าไม่ว่าจะมีความสุขหรือความทุกข์ พวกเขาจะยิ้มให้กับชีวิตต่อไปเสมอ

### บทกลอนสอนใจเรื่อง "ความสุขและความทุกข์"

ดูกรอ้ายจำเรียนเอ๋ย  
พระพุทธเจ้าตรัสให้ฟังอย่างจริง  
ความสุขนั้นมีรอยยิ้ม  
ให้เราใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ

ความทุกข์ที่ผ่านเข้ามา  
ไม่ใช่สิ่งที่น่าหวาดกลัว  
เป็นบทเรียนให้เราได้รู้  
เติบโตขึ้นและแข็งแกร่งกว่าเดิม

เมื่อพบทุกข์อย่าหวาดหวั่น  
เชื่อมั่นในใจอย่าเพียงแค่กลัว  
ในความมืดมีแสงสว่าง  
ผ่านทุกข์ไปได้ย่อมเจอสุข

ทุกครั้งที่เราได้เผชิญ  
รับรู้ความรู้สึกอันซึ้งใจ  
มองเห็นคุณค่าความสุข  
จะเป็นรอยยิ้มให้แก่เราอีกครั้ง

ดังนั้นจงใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า  
ด้วยความสุขที่จะพาไป  
และทุกข์ที่ผ่านพ้นไป  
เป็นครูสอนใจให้เราเติบโต 

 คติสอนใจ
**"ความสุขทำให้เรามีรอยยิ้ม และความทุกข์ที่เราผ่านได้ก็เป็นครูที่ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น"**ด้คือครูที่สอนให้เราเข้มแข็ง


นิทานเรื่องการปล่อยคนรัก
ณ วันหนึ่งในป่าเขาอันสงบสุข พระพุทธเจ้าเสด็จไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เพื่อนำความรู้และธรรมะให้แก่ประชาชนที่อยู่ในความทุกข์ พระพุทธเจ้าได้พบกับอ้ายจำเรียน ผู้มีจิตใจเศร้าหมองเพราะความรักที่ไม่สมหวัง

พระพุทธเจ้าเรียกอ้ายจำเรียนเข้าไปใกล้และตรัสว่า “ดูกรอ้ายจำเรียน ผู้น่ารัก การมีแฟนหรือคนรักนั้นอาจนำมาซึ่งความสุข แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นความทุกข์ได้เช่นกัน”

อ้ายจำเรียนมองพระพุทธเจ้าอย่างสงสัย “ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นพระองค์? ข้าพเจ้ารักเธอมากนัก จึงไม่สามารถที่จะปล่อยเธอไปได้”
พระพุทธเจ้าทรงยิ้มและตรัสต่อไป “จงยอมเจ็บปวดกับการยืนมองคนรักจากไป ดีกว่ารั้งคนรักที่หมดใจให้อยู่ต่อ เพราะการยึดติดกับคนรักที่ไม่รักเราอีกแล้ว จะเป็นการทำร้ายทั้งตัวเองและเธอ”

อ้ายจำเรียนเริ่มเข้าใจ “แต่ข้าไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าหากเธอจากไป ข้าจะไม่มีความสุขอีกเลย”

“ความสุขที่แท้จริงนั้นไม่สามารถมาจากคนอื่น” พระพุทธเจ้าตรัส “มันขึ้นอยู่กับใจของเราเอง จงฝึกใจให้ยอมรับและปล่อยวาง เมื่อเราเข้าใจว่าความรักนั้นไม่ควรเป็นการยึดติด แต่เป็นการให้ เราจะพบว่า ความเจ็บปวดจะไม่ยั่งยืน”

พระพุทธเจ้าพูดต่อ “เมื่อเรายอมรับความจริงและปล่อยวาง เราจะพบกับความสงบภายใน และสามารถเดินต่อไปในเส้นทางของชีวิตได้”

อ้ายจำเรียนฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างตั้งใจ ความรู้สึกเศร้าเริ่มเบาบางลง เขารู้สึกว่าเขาสามารถปล่อยมือจากความรักที่ไม่กลับมาอีกได้

“ขอบพระคุณพระองค์อย่างสูง” อ้ายจำเรียนกล่าว “ข้าจะพยายามปล่อยวางและหาความสุขในตัวของข้าเอง”

“จงจำไว้เสมอว่า ความรักที่แท้จริงคือการให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน” พระพุทธเจ้าตรัสแล้วเสด็จต่อไป

และตั้งแต่นั้นมา อ้ายจำเรียนได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวางความทุกข์ และหันมารักตัวเองมากขึ้น เขาเริ่มใช้ชีวิตด้วยความสุขและความสงบ จนพบว่า ความรักที่แท้จริงอยู่ที่การรักและยอมรับในตัวเอง

คติสอนใจ
การปล่อยวางทำให้เราเป็นอิสระจากความทุกข์ และการรักตัวเองคือจุดเริ่มต้นของความสุข”

**บทกลอนสอนใจ: ยอมเจ็บปวด**  
ยอมเจ็บปวดมองคนรักจากไป  
ดีกว่ารั้งไว้ให้ใครหมองเศร้า  
เมื่อหัวใจหมดรักก็อย่าเฝ้า  
การยืดเหนี่ยวไว้จะทำให้เจ็บ  
     
ความรักที่แท้จริงคือการให้  
ไม่ใช่รั้งดึงให้คนช้ำใจ  
ยอมให้เธอไป แม้เจ็บมากมาย  
เพื่อให้เธอได้มีเส้นทางใหม่  
     
ปล่อยให้เธอไป แม้ใจจะสลาย  
ไม่ควรขัดขวาง หากหัวใจเธอไม่กลับ  
เรียนรู้จากเจ็บ จะทำให้แข็งแกร่ง  
เมื่อได้ปล่อยวาง จะพบความสุขแท้  

**คติสอนใจ: “ความรักที่แท้จริงคือการปล่อยวาง ไม่ใช่การยึดเหนี่ยว
อยากสนับสนุนบทความและนิทานของอ้ายจำเรียนด้วยการให้คิ้วเพื่อเป็นกำลังใจในการทำคอนเทนต์ต่อไปได้ที่👇นี่
พร้อมเพย์/ทรูมันนี่วอเลทเบอร์
0892718015
จำเรียน จันทร์รักษา
แอดไลน์ไอดี tel0892718015







ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม