บทความเรื่องพ่อแม่อย่าไปไกล้ชิดต่อหน้าเพื่อนๆของลูกๆ


**บทความ: พ่อแม่อย่าไปไกล้ชิดต่อหน้าเพื่อนๆ ของลูกๆ**

การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการเติบโตอย่างมีสุขภาพจิตดีของเด็กๆ แต่เมื่อพูดถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ของลูกๆ พ่อแม่อาจต้องระมัดระวังในบางสถานการณ์ โดยเฉพาะการไปไกล้ชิดหรือแสดงพฤติกรรมที่อาจทำให้ลูกๆ รู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อน การกระทำเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและการสร้างความสัมพันธ์ของลูกกับเพื่อนๆ ได้

### ทำไมถึงไม่ควรไปไกล้ชิดต่อหน้าเพื่อนของลูก

1. **การสร้างความอับอาย**  
   เด็กในวัยเรียนมักมีความต้องการที่จะสร้างตัวตนและพัฒนาความสัมพันธ์กับเพื่อน การที่พ่อแม่ไปไกล้ชิดหรือติดตามลูกๆ ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ลูกเกิดความอับอายหรือรู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องแสดงตัวตนของตัวเองต่อหน้าเพื่อน

2. **ลดความมั่นใจ**  
   เมื่อพ่อแม่เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของลูกๆ อาจทำให้เด็กมีความรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีอิสระในการทำสิ่งต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลให้พวกเขาขาดความมั่นใจในการแสดงออกถึงตัวตนและความคิดของตนเอง

3. **เกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์**  
   การที่พ่อแม่ไปไกล้ชิดอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพ่อแม่และลูก รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับเพื่อนๆ ของเขา เด็กอาจรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่เคารพในความเป็นส่วนตัวและพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขา

4. **ทำให้เด็กไม่กล้าเปิดเผย**  
   หากเด็กมีความรู้สึกว่าพ่อแม่มักจะเข้าไปแทรกแซงหรือเข้าไปในวงสนทนากับเพื่อนๆ เขาอาจไม่กล้าที่จะพูดหรือเปิดเผยความรู้สึกในเรื่องต่างๆ ทำให้การสื่อสารระหว่างพ่อแม่และลูกลดลง

### วิธีสร้างความสัมพันธ์ที่ดีโดยไม่ไกล้ชิดมากเกินไป

1. **ให้พื้นที่ส่วนตัว**  
   พ่อแม่ควรให้พื้นที่ส่วนตัวแก่ลูกในการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ โดยไม่ต้องเข้าไปแทรกแซงหรือปรากฏตัวในสถานการณ์ที่ไม่จำเป็น

2. **สนับสนุนการพบปะเพื่อน**  
   สนับสนุนให้ลูกได้มีโอกาสพบปะเพื่อนๆ โดยไม่ต้องเป็นผู้ดูแลเสมอไป เช่น การอนุญาตให้ลูกเชิญเพื่อนมาที่บ้านหรือลงเล่นกิจกรรมที่พวกเขาชอบ

3. **เปิดโอกาสให้พูดคุย**  
   สร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างสำหรับการพูดคุย ให้ลูกสามารถแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับเพื่อนๆ ของพวกเขาโดยไม่รู้สึกกดดันหรือต้องคำนึงถึงความคิดเห็นของพ่อแม่มากเกินไป

4. **เคารพในความเป็นส่วนตัว**  
   ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของลูก เช่น ไม่เปิดประตูห้องหรือแอบฟังการสนทนาของลูกกับเพื่อนๆ ซึ่งจะช่วยให้ลูกมีความรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจในการแสดงออก

### สรุป

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกและเพื่อนๆ ของพวกเขาเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรใส่ใจ โดยการเคารพในความเป็นส่วนตัวและพื้นที่ส่วนตัวของลูก จะช่วยส่งเสริมให้พวกเขามีความมั่นใจและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อไปในอนาคต ความรักและการสนับสนุนจากพ่อแม่จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างครอบครัวที่มีความสุขและเข้มแข็ง.

**นิทานเรื่อง: อ้ายจำเรียนกับการเคารพพื้นที่ส่วนตัว**

ในหมู่บ้านเล็กๆ มีเด็กชายชื่อ "อ้ายจำเรียน" เขาเป็นเด็กที่สนุกสนานและมีเพื่อนฝูงมากมาย ทุกวันหลังเลิกเรียน อ้ายจำเรียนจะชวนเพื่อนๆ มานั่งเล่นที่สวนสาธารณะ พวกเขาจะเล่นฟุตบอลและพูดคุยเรื่องราวต่างๆ กันอย่างสนุกสนาน

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังเล่นบอลอยู่กับเพื่อนๆ พ่อแม่ของเขาก็เดินผ่านมา พวกเขาเห็นลูกชายของตัวเองกำลังสนุกสนาน จึงตัดสินใจเข้าไปพูดคุยและเล่นกับลูกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เพื่อนๆ ของอ้ายจำเรียนรู้สึกอึดอัดมาก

เมื่อพ่อแม่เข้าไปทักทายเพื่อนๆ อ้ายจำเรียนรู้สึกอับอาย เขาอยากให้เพื่อนๆ เห็นเขาเป็นคนที่มีความเป็นตัวเอง แต่พ่อแม่กลับทำให้บรรยากาศดูไม่เป็นธรรมชาติ ในขณะที่อ้ายจำเรียนพยายามจะให้พ่อแม่เข้าใจ แต่พวกเขากลับพูดขัดจังหวะและถามคำถามมากมาย ทำให้ลูกชายรู้สึกอึดอัด

เมื่อกลับถึงบ้าน อ้ายจำเรียนรู้สึกไม่สบายใจ เขาจึงตัดสินใจพูดคุยกับพ่อแม่ว่า "พ่อแม่ครับ ผมชอบที่พ่อแม่มาให้กำลังใจ แต่เวลาที่พ่อแม่เข้าไปพูดคุยกับเพื่อนๆ ของผม มันทำให้ผมรู้สึกอาย และไม่สามารถสนุกสนานกับเพื่อนๆ ได้เหมือนเดิม"

พ่อแม่ฟังแล้วรู้สึกเข้าใจและเริ่มเห็นความสำคัญของคำพูดลูก พวกเขาเข้าใจว่าการให้พื้นที่ส่วนตัวแก่ลูกในการเล่นกับเพื่อนๆ เป็นสิ่งสำคัญ พ่อแม่จึงกล่าวว่า "เราจะพยายามไม่เข้าไปยุ่งหรือพูดคุยกับเพื่อนๆ ของเจ้ามากเกินไปในอนาคต เราจะเคารพพื้นที่ส่วนตัวของเจ้ามากขึ้น"

จากวันนั้นเป็นต้นมา พ่อแม่ของอ้ายจำเรียนเริ่มให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนตัวของลูก และไม่เข้ามาแทรกแซงเวลาที่เขาเล่นกับเพื่อนๆ อ้ายจำเรียนรู้สึกมีความสุขมากขึ้น และสามารถสนุกสนานกับเพื่อนๆ ได้อย่างเต็มที่

**คติธรรมสอนใจ:** การเคารพในพื้นที่ส่วนตัวของลูกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยส่งเสริมให้พวกเขามีความมั่นใจและสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสังคมได้.

ขอทิ้งท้ายว่า  แม้ว่าอยู่บ้านคุณและลูกจะกอดรัดฟัดเหวี่ยง หอมแก้มกันเป็นกิจวัตร แต่ต้องไม่ใช่ต่อหน้าเพื่อนๆ ของลูก เพราะการทำอย่างนั้น ทำให้ลูกรู้สึกเหมือนเป็นเด็กที่ยังไม่โต อาจทำให้ถูกเพื่อนๆ ล้อได้ว่าเป็น “ลูกแหง่” 

ซึ่งสำหรับวัยรุ่นบางคน ที่กำลังต้องการการยอมรับจากเพื่อน อาจทำให้เขามีพฤติกรรมตีตัวออกห่าได้ พ่อแม่ควรทำความเข้าใจและความเคารพพื้นที่ส่วนตัวของลูกด้วย

บ่อยครั้งลูกอาจต้องการแสดงให้คนอื่นเห็นว่าพวกเขาโตพอแล้ว พ่อแม่ควรให้เกียรติลูกเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ ไม่เฉพาะแต่เพื่อนๆ ของลูกเท่านั้น ปฏิบัติต่อลูกวัยรุ่นเหมือนกับเขาเป็นผู้ใหญ่ ก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกได้ แต่หากเผลอทำเหมือนลูกยังเป็นเด็กๆ ต่อหน้าคนอื่น ลูกอาจงอนและไม่อยากไปไหนกับพ่อแม่อีกเลย

อยากสนับสนุนบทความและนิทานของอ้ายจำเรียนด้วยการให้ติ้ปเพื่อเป็นกำลังใจในการทำคอนเทนต์ต่อไปได้ที่👇นี่

พร้อมเพย์/ทรูมันนี่วอเลทเบอร์

08927180

จำเรียน จันทร์รักษ

แอดไลน์ไอดี tel0892718015า15



ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม