นิทานอภิชฌมวิสมโลภะ

๑. อภิชฌมวิสมโลภะ คือความละโมภ อยากได้ อยากมี อยากเป็นอย่างไม่รู้จักพอ เห็นแก่ได้จนลืมตัว ตามนิทาน๓เรื่องดังนี้
นิทานเรื่อง อ้ายจำเรียนกับความละโมภ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่า อ้ายจำเรียน อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขา อ้ายจำเรียนเป็นคนที่มีชีวิตความเป็นอยู่พอประมาณ ไม่ยากจนแต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยนัก แต่เขาเป็นคนที่มีนิสัยประหลาด นั่นคือ ความ อภิชฌมวิสมโลภะ หรือความละโมภจนเกินขอบเขต เขาอยากได้ อยากมี และอยากเป็นมากกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าใจ

ทุกครั้งที่เห็นคนในหมู่บ้านมีสิ่งของใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่ใหญ่โตขึ้น เสื้อผ้าใหม่ หรือแม้กระทั่งของกินหรูหรา อ้ายจำเรียนก็เกิดความอยากได้มากขึ้นเรื่อยๆ เขาคิดว่าเขาควรมีมากกว่าคนอื่น เขาควรเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในหมู่บ้าน

วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนเดินทางไปยังป่าลึกและได้พบกับชายชราลึกลับผู้หนึ่ง ชายชรานั้นเป็นผู้วิเศษที่มีพลังอำนาจในการบันดาลสิ่งต่างๆ ได้ เขาเห็นความละโมภของอ้ายจำเรียน จึงทดสอบด้วยการมอบถุงเงินวิเศษให้ พร้อมกับคำเตือนว่า "เจ้าจะมีเงินทองมากมายตราบเท่าที่ไม่พูดคำว่า 'พอ' หากพูดคำนั้น เงินในถุงนี้จะหายไปตลอดกาล"

อ้ายจำเรียนดีใจมาก เขาใช้ถุงเงินซื้อบ้านหลังใหญ่ที่สุดในหมู่บ้าน ซื้อของฟุ่มเฟือยมากมาย และเลี้ยงฉลองใหญ่โต แต่ยิ่งมีมากเท่าไหร่ ความอยากของเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เขาต้องการมากกว่านี้ ต้องการที่จะเป็นที่หนึ่งในทุกสิ่ง

วันหนึ่ง เมื่อเขาซื้อทุกอย่างที่คิดว่าอยากได้ แต่ยังไม่รู้สึกพอใจ อ้ายจำเรียนจึงบ่นว่า "ทำไมข้าถึงไม่รู้สึกว่า **พอ** สักที?" ทันใดนั้นเอง ถุงเงินวิเศษก็หายวับไปต่อหน้าต่อตา พร้อมกับความมั่งคั่งที่เขาเคยมี ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้มาจากความละโมภหายไปในพริบตา

อ้ายจำเรียนต้องกลับมาอยู่ในบ้านเล็กๆ เก่าๆ เหมือนเดิม เขาจึงตระหนักได้ว่า ความละโมภและการไม่รู้จักพอนำพาเขาสู่ความทุกข์ เขาเรียนรู้ว่า แท้จริงแล้วการรู้จักพอและมีความสุขกับสิ่งที่มีนั้นเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต

จากนั้นมา อ้ายจำเรียนเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนที่รู้จักพอใจในสิ่งที่มี และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปตลอดกาล

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความละโมภมากเกินไปย่อมนำมาซึ่งความทุกข์ และการรู้จักพอใจกับสิ่งที่มีคือหนทางสู่ความสุขที่แท้จริง.

นิทานเรื่อง อ้ายจำเรียนกับความอยากได้ของผู้อื่น
นานมาแล้วในหมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขา มีชายหนุ่มชื่อว่า **อ้ายจำเรียน** แม้ว่าเขาจะมีทรัพย์สินเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิต เขาก็ยังไม่เคยรู้สึกพอใจ เพราะทุกครั้งที่เห็นคนอื่นมีสิ่งของที่ดีกว่า เขามักจะเกิดความอยากได้เสมอ

วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนเดินผ่านบ้านของนายทองดี เพื่อนบ้านผู้มีชื่อเสียงเรื่องความร่ำรวย เขาเห็นนาข้าวของนายทองดีเขียวชอุ่ม บ้านหลังใหญ่โต และวัวควายจำนวนมาก อ้ายจำเรียนรู้สึกอิจฉา คิดว่าตนเองควรมีทุกสิ่งที่นายทองดีมี "ถ้าของเหล่านั้นเป็นของข้า ชีวิตคงจะดีมาก" เขาพึมพำ

ด้วยความคิดอันละโมภ อ้ายจำเรียนจึงเริ่มวางแผนที่จะครอบครองทรัพย์สินของนายทองดี เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อชิงเอาทรัพย์สินเหล่านั้นมาเป็นของตน เขาโกหก หลอกลวง และใช้กลอุบายต่างๆ เพื่อทำให้นายทองดีขายนาของเขา และนำวัวควายไปฝากไว้กับอ้ายจำเรียน

ไม่นาน อ้ายจำเรียนก็ได้ครอบครองสิ่งที่เขาอยากได้ แต่กลับรู้สึกไม่พอใจ เขายังต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อเขามีแล้ว เขากลับเห็นคนอื่นๆ ในหมู่บ้านมีสิ่งที่ดูดีกว่าอีก อ้ายจำเรียนจึงเริ่มวางแผนที่จะชิงของคนอื่นต่อไป

จนวันหนึ่ง ในขณะที่เขาพยายามจะโกงทรัพย์สินของนายบุญมี ชายชราผู้ใจดีในหมู่บ้าน ชายชราก็พูดขึ้นว่า "อ้ายจำเรียน ข้าเห็นเจ้าทำร้ายคนมากมายเพราะความละโมภ ข้าขอเตือนเจ้า คนที่คิดจะได้ทุกอย่างที่ไม่ใช่ของตัวเอง สุดท้ายจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงความสุขของตัวเองด้วย"

อ้ายจำเรียนไม่เชื่อคำเตือนนั้นและยิ้มเยาะ "ข้าไม่สนใจ ข้าอยากได้อะไรก็ต้องได้" เขากล่าวอย่างเย้ยหยัน

แต่แล้วไม่นาน ทุกสิ่งทุกอย่างที่อ้ายจำเรียนเคยขโมยหรือโกงมาก็เริ่มเปลี่ยนไป นาข้าวของนายทองดีที่เขาได้มาก็แห้งแล้ง วัวควายก็ป่วยตายทีละตัว ผู้คนในหมู่บ้านเริ่มไม่ไว้วางใจเขา และหันหลังให้เขา อ้ายจำเรียนตกอยู่ในความโดดเดี่ยว สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นความมั่งคั่งและความสุขกลับกลายเป็นความทุกข์และความเศร้า

ในที่สุด เมื่ออ้ายจำเรียนสูญเสียทุกอย่าง เขาจึงได้ตระหนักว่า การได้ของคนอื่นมาอย่างไม่ชอบธรรมไม่ได้ทำให้เขามีความสุขเลย แต่กลับทำลายทุกสิ่งที่เขาเคยมี ทั้งทรัพย์สิน มิตรภาพ และความสงบในจิตใจ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การอยากได้ของผู้อื่นมาเป็นของตัวเองจะนำมาซึ่งความทุกข์ ความสุขที่แท้จริงเกิดจากการมีคุณธรรม และพอใจในสิ่งที่ตนเองมี.


นิทานเรื่อง อ้ายจำเรียนผู้เห็นแก่ได้จนลืมตัว

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มชื่อว่า อ้ายจำเรียน** เขาเป็นคนที่มีชีวิตความเป็นอยู่พอประมาณ แต่มีนิสัยที่ชอบเห็นแก่ได้อยู่เสมอ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ หากมีโอกาสที่จะได้อะไรมาโดยไม่ต้องเสียอะไร อ้ายจำเรียนก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มา

ในหมู่บ้านของเขามีงานประจำปีจัดขึ้นเสมอ ซึ่งชาวบ้านทุกคนจะต้องช่วยกันทำงาน โดยไม่หวังผลตอบแทน ทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ยกเว้นอ้ายจำเรียนที่ไม่เคยช่วยเหลือใคร แต่กลับมักจะรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เมื่อมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นจากความพยายามของคนอื่น

ครั้งหนึ่ง มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งช่วยกันสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ เพื่อใช้สำหรับเดินทางไปยังอีกฝั่งของหมู่บ้านได้สะดวกขึ้น อ้ายจำเรียนไม่เคยเข้ามาช่วยงาน แต่ในวันที่สะพานสร้างเสร็จ เขากลับเป็นคนแรกที่วิ่งมาข้ามสะพานโดยไม่คิดจะขอบคุณใคร เขาได้แต่คิดว่า "ทำไมเราต้องช่วยงาน ในเมื่อเราก็ใช้ได้เหมือนคนอื่น"

อ้ายจำเรียนยังคงทำตัวเช่นนี้ต่อไป เขาเริ่มคบค้าสมาคมกับคนร่ำรวย หวังจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้น เขาเอาแต่รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นโดยไม่เคยตอบแทน วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนได้รับเชิญไปงานเลี้ยงใหญ่โตของเศรษฐีประจำเมือง งานนี้มีอาหารหรูหรามากมายและแขกผู้มีเกียรติ เขากิน ดื่ม และเพลิดเพลินกับสิ่งที่ได้รับจนลืมตัว เขาเอ่ยปากขอสิ่งของจากเจ้าของงานอย่างไม่อาย ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อเจ้าของงานเลย

จนกระทั่งวันหนึ่ง ความเห็นแก่ได้ของอ้ายจำเรียนเริ่มมีผลร้าย ผู้คนเริ่มสังเกตเห็นว่าเขาเป็นคนที่ไม่เคยช่วยเหลือใคร และมักจะเห็นแก่ได้ในทุกสถานการณ์ เพื่อนบ้านเริ่มตีตัวออกห่าง คนในหมู่บ้านไม่ยอมให้เขามีส่วนร่วมในงานสำคัญอีกต่อไป แม้แต่เศรษฐีที่เคยเชิญเขาก็เริ่มระแวง

เมื่อถึงฤดูแล้ง อ้ายจำเรียนเริ่มขาดแคลนอาหารและทรัพย์สิน แต่คราวนี้ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยอีกต่อไป เพราะทุกคนรู้ดีว่าเขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัว วันหนึ่งเมื่อเขาไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน พวกเขาก็ปฏิเสธ และบอกว่า "คนที่เอาแต่เห็นแก่ตัวโดยไม่ช่วยเหลือใคร ย่อมไม่มีใครอยากช่วยเมื่อเขาต้องการ"

อ้ายจำเรียนรู้สึกเสียใจอย่างมาก แต่ก็สายเกินไป เขาเรียนรู้ว่า ความเห็นแก่ได้และการไม่คิดถึงผู้อื่นนำมาซึ่งความโดดเดี่ยวและความสูญเสียในชีวิต เขาตระหนักว่าหากเขาอยากได้รับสิ่งดีๆ เขาควรเป็นคนที่รู้จักให้และช่วยเหลือผู้อื่นเช่นกัน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเห็นแก่ได้โดยไม่คิดถึงผู้อื่น อาจทำให้เราเสียทุกสิ่งทุกอย่างในที่สุด ความสุขที่แท้จริงมาจากการรู้จักให้และแบ่งปัน

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม