นิทานการคบคนชั่วเป็นมิตร

การคบคนชั่วเป็นมิตร หมายถึง การคบคนชั่วหรือคนพาลเป็นมิตร แห่งอบายมุข 6 หมายถึง การยอมรับในความเป็นมิตรจากบุคคลอื่นที่ตนอาจแยกแยะได้หรือแยกแยะไม่ได้ว่าเขาเป็นคนเช่นไร คนชั่วหรือคนพาลในที่นี้ ได้แก่ คนพาลการพนัน คนพาลนักเลงต่อยตี คนพาลฉ้อโกงหลอกลวง คนพาลเจ้าชู้ และคนพาลขี้เมา เป็นต้น

โทษการคบคนชั่วเป็นมิตร
1. ปลูกฝังความชั่วในตน เป็นนักเลงในทุกด้าน เพราะเมื่อยอมรับเป็นมิตรในคนพาลแล้วย่อมที่จะได้รับการเรียนรู้ การฝึกฝนในวิถีแห่งคนพาล จนนำมาประพฤติเป็นกิจของตนได้ง่าย
2. วงศ์ตระกูลเสื่อมเสีย เพราะเมื่อเป็นเช่นคนพาลแล้วย่อมกระทำเช่นคนพาลจนนำมาสู่ความเสื่อมเสียในวงศ์ตระกูล
3. ครอบครัวแตกแยก เพราะคนพาลมักไม่เป็นที่ชื่นชมของคนอื่นในครอบครัว หรือหากนำวิถีแห่งคนพาลมาใช้ในครอบครัว ก็ย่อมทำให้เกิดความขัดแย้งต่อผู้อื่นได้ง่าย
4. ถูกหลอกลวงได้ง่าย เมื่อยอมรับในมิตรของคนพาลแล้ว ย่อมต้องพบปะให้เกิดความคุ้นเคย คนพาลเหล่านั้นอาจหวังหลอกลวงในทรัพย์ หรือประโยชน์จากเราเฉกเช่นคนพาลทั่วไป
5. ผู้คนนินทา ไม่มีผู้คบหา เพราะเมื่อคบคนพาลหรือนำวิธีแห่งคนพาลมาประพฤติแล้วมักทำให้ผู้อื่นรังเกียจ ไม่กล้าคบหา
ตามนิทานดังต่อไปนี้👇🏽

**นิทานเรื่อง: ภรรยาของอ้ายจำเรียนคบคนชั่วเป็นมิตร**

ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีคู่สามีภรรยาชื่อว่า "อ้ายจำเรียน" และ "แม่จำเนียร" อ้ายจำเรียนเป็นคนที่ขยันทำมาหากิน แต่เขาก็เคยพลาดพลั้งไปกับการพนันและอบายมุข อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาได้รับบทเรียนชีวิต เขาก็กลับตัวและพยายามสร้างชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น

แต่ปัญหาใหม่เกิดขึ้นเมื่อแม่จำเนียร ภรรยาของเขา เริ่มสนิทสนมกับกลุ่มคนที่ไม่ดี คนในกลุ่มนี้มักจะชวนกันดื่มเหล้า เล่นการพนัน และชักชวนให้แม่จำเนียรทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย แม้ว่าแม่จำเนียรจะเริ่มต้นเพียงแค่ไปนั่งเล่นกับกลุ่มนี้เพื่อความสนุกสนาน แต่ไม่นานเธอก็ถูกดึงเข้าสู่การกระทำที่ผิด เช่น การเล่นไพ่และดื่มเหล้าเป็นประจำ

อ้ายจำเรียนเห็นความเปลี่ยนแปลงของภรรยา เขาพยายามเตือนแม่จำเนียรว่า การคบกับคนชั่วและทำสิ่งที่ผิดจะนำไปสู่ความเสื่อมเสียทั้งต่อครอบครัวและชีวิตของตัวเอง แต่แม่จำเนียรก็ไม่ฟัง เพราะเธอคิดว่าการคบเพื่อนเหล่านั้นเป็นเพียงแค่เรื่องสนุก ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร

เวลาผ่านไป แม่จำเนียรเริ่มมีปัญหาทางการเงิน เนื่องจากการเล่นพนันและดื่มสุราอย่างต่อเนื่อง เธอเริ่มยืมเงินจากเพื่อนฝูงและญาติพี่น้อง อ้ายจำเรียนเริ่มเป็นกังวลมากขึ้น เขาพยายามพูดกับภรรยาหลายครั้ง แต่แม่จำเนียรก็ยังคงเชื่อว่าตนเองจะสามารถแก้ปัญหาได้เอง

วันหนึ่ง กลุ่มเพื่อนชั่วที่แม่จำเนียรคบอยู่ได้ชักชวนให้เธอเข้าไปพัวพันกับการหลอกลวงเงินจากคนในหมู่บ้าน เมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผย แม่จำเนียรก็ต้องเผชิญกับความอับอาย และถูกชาวบ้านตำหนิ อ้ายจำเรียนเสียใจที่เห็นภรรยาของเขาต้องตกอยู่ในสภาพนี้

ในที่สุด เมื่อแม่จำเนียรได้เผชิญกับความเสื่อมเสียและสูญเสียความเชื่อถือจากคนรอบข้าง เธอจึงเริ่มตระหนักว่า การคบกับคนชั่วนำไปสู่ความหายนะจริงๆ เธอกลับมาขอโทษอ้ายจำเรียนและตัดสินใจที่จะเลิกคบหากับกลุ่มคนชั่วเหล่านั้น พร้อมทั้งเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม

อ้ายจำเรียนยอมรับการกลับตัวของภรรยาและพยายามช่วยเธอในการสร้างชีวิตใหม่ โดยเริ่มต้นจากการทำงานอย่างขยันขันแข็งและหลีกเลี่ยงการเกี่ยวข้องกับอบายมุขทุกชนิด

**คติสอนใจ**: การคบคนชั่วเป็นเพื่อนแม้ในช่วงแรกจะดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แต่แท้จริงแล้ว มันเป็นหนทางที่นำไปสู่ความเสื่อมเสียทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง การคบเพื่อนที่ดีและมีคุณธรรมจะนำไปสู่ชีวิตที่สงบสุขและมีความสุข

**นิทานเรื่อง: ภรรยาของอ้ายจำเรียนกับการเที่ยวผับบาร์และการหลงในอบายมุข**

ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อ้ายจำเรียนและแม่จำเนียรเป็นคู่สามีภรรยาที่เคยมีชีวิตครอบครัวที่สงบสุข แต่ไม่นานหลังจากที่อ้ายจำเรียนตั้งใจทำงานเพื่อสร้างอนาคตที่ดี แม่จำเนียรกลับเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเธอได้พบกับกลุ่มเพื่อนสาวที่ชอบใช้ชีวิตกลางคืน กลุ่มเพื่อนนี้มักจะชวนกันไปเที่ยวผับ บาร์ และสังสรรค์อย่างสนุกสนาน

แม้ในตอนแรก แม่จำเนียรจะไม่คุ้นเคยกับการเที่ยวกลางคืน แต่เมื่อถูกเพื่อนชักชวนบ่อยครั้ง เธอก็เริ่มหลงใหลในบรรยากาศแสงสีและเสียงเพลงในผับบาร์ บ่อยครั้งที่เธอหาข้ออ้างกับอ้ายจำเรียนว่าไปพบเพื่อนบ้าง ไปทำธุระบ้าง แต่แท้จริงแล้ว เธอกลับไปสังสรรค์ดื่มเหล้าและสนุกกับการเที่ยวกลางคืนมากขึ้นเรื่อย ๆ

นอกจากการเที่ยวกลางคืนและดื่มเหล้า แม่จำเนียรยังถูกเพื่อนชักจูงให้ไปยุ่งเกี่ยวกับการเที่ยวผู้ชาย เธอเริ่มใช้เวลาและเงินจำนวนมากในการเสาะหาความสนุกสนานในสิ่งเหล่านี้ โดยไม่รู้ตัวว่าเธอกำลังเดินสู่หนทางแห่งอบายมุขอย่างช้า ๆ

อ้ายจำเรียนเริ่มสังเกตเห็นว่าแม่จำเนียรเปลี่ยนไป เธอกลับบ้านดึกดื่นทุกคืน ไม่สนใจเรื่องครอบครัว และเริ่มไม่ใส่ใจในการดูแลบ้านและตัวเขา เขาจึงพยายามพูดคุยและเตือนภรรยาให้เห็นถึงความผิดพลาด แต่แม่จำเนียรก็ไม่ฟังและยืนยันว่าเธอมีสิทธิ์สนุกในชีวิต

จนกระทั่งวันหนึ่ง แม่จำเนียรใช้เงินจนหมด ไม่มีเงินพอจะใช้จ่ายในครอบครัว เธอเริ่มขอยืมเงินจากอ้ายจำเรียนและคนรอบข้างเพื่อไปเที่ยวอีก แต่ครั้งนี้อ้ายจำเรียนไม่ยอมอีกต่อไป เขาตัดสินใจเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างจริงจัง และบอกให้แม่จำเนียรเลือกว่าจะกลับมาดูแลครอบครัวหรือเดินไปตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยอบายมุขนั้นต่อ

แม่จำเนียรได้ยินเช่นนั้น เธอรู้สึกตกใจและเริ่มทบทวนชีวิตของตนเอง เมื่อมองย้อนกลับไป เธอพบว่าการเที่ยวกลางคืนและการหลงไปในความสนุกสนานชั่วคราวนั้นไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขที่แท้จริง กลับทำให้เธอสูญเสียความสัมพันธ์กับคนที่รักและเสียทรัพย์สินไปมากมาย

ในที่สุด แม่จำเนียรตัดสินใจหยุดเดินในหนทางแห่งอบายมุข เธอกลับมาขอโทษอ้ายจำเรียนและเริ่มปรับปรุงชีวิตของตนเอง เธอหันมาสนใจครอบครัวและใช้ชีวิตอย่างมีสติและความรับผิดชอบมากขึ้น

**คติสอนใจ**: การหลงไปกับอบายมุข เช่น การเที่ยวกลางคืน ดื่มสุรา และการมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จะนำไปสู่ความเสียหายทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง ความสนุกชั่วคราวไม่อาจเทียบได้กับความสุขที่แท้จริงจากการมีชีวิตที่มีสติและความรับผิดชอบในครอบครัวและชีวิต

นิทานคติสอนใจเรื่องภรรยาคบเพื่อนชั่ว
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มชื่ออ้ายจำเรียนที่แต่งงานกับหญิงสาวนามว่ามะปราง ทั้งสองครองรักกันอย่างมีความสุข แต่แล้ววันหนึ่ง มะปรางได้ไปคบหากับเพื่อนสาวคนสนิทที่แนะนำผู้ชายคนใหม่ให้รู้จัก ด้วยความหลงใหล มะปรางจึงแอบนอกใจอ้ายจำเรียน ซึ่งนำพาไปสู่หนทางแห่งอบายมุข

อ้ายจำเรียนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของภรรยา จึงพยายามสืบหาความจริง จนกระทั่งได้รู้ว่ามะปรางแอบคบชู้กับชายอื่น ความโกรธและเสียใจทำให้หัวใจของอ้ายจำเรียนสลาย เขาตัดสินใจหย่าขาดจากมะปรางและไล่เธอออกจากบ้าน

มะปรางรู้สึกผิดและเสียใจกับสิ่งที่ตนได้กระทำ แต่ก็สายเกินไปแล้ว เธอสูญเสียทั้งสามีและครอบครัวไปในคราวเดียวกัน ชายชู้ที่เธอหลงใหลก็ทอดทิ้งเธอไปในที่สุด มะปรางจึงต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและยากลำบาก

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การนอกใจเป็นหนทางแห่งความหายนะ นำมาซึ่งความทุกข์และความสูญเสียทั้งต่อผู้ถูกนอกใจและผู้ที่นอกใจเอง จงซื่อสัตย์และรักษาความสัมพันธ์ที่มีอยู่ให้ดี เพราะเมื่อสูญเสียไปแล้ว อาจจะสายเกินกว่าจะแก้ไข
-----
Q500

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม