นิทานการเกียจคร้านทำงาน

การเกียจคร้านทำการงาน หมายถึง การไม่ขยันทำงานตามเวลาและหน้าที่รับผิดชอบ ปล่อยการงานให้คั่งค้าง เหมือน ดินพอกหางหมู คนเกียจคร้านการงาน ได้ชื่อว่าเป็น คนไม่เอาไหน จะได้รับโทษดังนี้
โทษการเกียจคร้านทำการงาน
5.1 หาความเจริญรุ่งเรืองไม่ได้
5.2 ย่อมเสียประโยชน์ของตนไปอย่างน่าเสียดาย
5.3 ทรัพย์สินเงินทองใหม่ก็ไม่เกิด ที่มีอยู่ก็มีแต่จะหมดไป
5.4 เป็นคนที่หมดค่าของความเป็นคน ทั้งนี้เพราะ ค่าของคนอยู่ที่ผลของงานมีนิทานดังนี้

**นิทานเรื่อง: อ้ายจำเรียนติดเกม เกียจคร้านทำงาน หนทางแห่งอบายมุข**

กาลครั้งหนึ่งในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มชื่อ "อ้ายจำเรียน" เขาเป็นคนที่ขยันทำงานและเคยได้รับคำชื่นชมจากผู้คนรอบข้างว่าเป็นคนที่ขยันขันแข็ง แต่เมื่อวันหนึ่ง อ้ายจำเรียนได้รู้จักกับเกมออนไลน์ที่เพื่อน ๆ แนะนำ ความสนุกสนานจากการเล่นเกมทำให้เขาติดใจและเริ่มใช้เวลาเล่นเกมมากขึ้นเรื่อย ๆ

ในช่วงแรก อ้ายจำเรียนคิดว่าเกมเป็นแค่ความบันเทิงที่ช่วยให้เขาผ่อนคลายจากการทำงาน แต่ไม่นานนัก เขาเริ่มติดเกมอย่างหนักและใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับการเล่นเกมจนลืมการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานบ้านหรืองานหาเลี้ยงชีพ เขาเริ่มไม่สนใจเรื่องสำคัญ ๆ รอบตัวและละเลยหน้าที่ของตนเอง

ทุกเช้าอ้ายจำเรียนตื่นขึ้นมาเพียงเพื่อเล่นเกม เขาไม่ออกไปทำงานเหมือนที่เคย ไม่มีเงินมาจ่ายค่าครองชีพ และไม่สนใจความเป็นอยู่ของครอบครัว เมื่อเวลาผ่านไป ทรัพย์สินที่เขาเคยมีเริ่มหมดไป เนื่องจากเขาไม่มีรายได้เข้ามา แต่เขาก็ยังคงเล่นเกมต่อไปโดยไม่คิดแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

เพื่อนและครอบครัวของอ้ายจำเรียนพยายามเตือนให้เขาหยุดเล่นเกมและกลับมาทำงาน แต่เขากลับไม่ฟัง เขายืนยันว่าเขาจะหาเงินได้จากการเล่นเกมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความจริงกลับตรงกันข้าม อ้ายจำเรียนเสียเวลาทุกวันโดยไม่สร้างคุณค่าใด ๆ ให้กับชีวิต

วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนเริ่มตระหนักว่า ชีวิตของเขาอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ไม่มีงาน ไม่มีเงิน และเขาก็เริ่มสูญเสียความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เพราะการติดเกมทำให้เขาห่างไกลจากเพื่อนและครอบครัว อ้ายจำเรียนรู้สึกเสียใจอย่างมากเมื่อเห็นความเสื่อมเสียที่เกิดจากการติดเกม

ในที่สุด อ้ายจำเรียนตัดสินใจว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาละทิ้งเกมและเริ่มกลับไปทำงานอย่างตั้งใจอีกครั้ง เขาใช้เวลาฟื้นฟูความสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนฝูง พร้อมทั้งพยายามสร้างความมั่นคงในชีวิตอีกครั้ง

**คติสอนใจ**: การติดเกมหรือกิจกรรมที่ไร้ประโยชน์จนละเลยหน้าที่และการทำงานเป็นหนทางแห่งอบายมุข การใช้ชีวิตอย่างไม่สมดุลและขาดสติสามารถทำลายอนาคตของเราได้ การมีสติและรักษาความรับผิดชอบในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสำเร็จและความสุขที่ยั่งยืน


**นิทานเรื่อง: อ้ายจำเรียนติดการพนันออนไลน์จนเกียจคร้านทำงาน หนทางแห่งอบายมุข**

ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มชื่อ "อ้ายจำเรียน" เขาเป็นคนที่ขยันทำมาหากินและมีครอบครัวที่รักใคร่กันดี แต่ชีวิตของอ้ายจำเรียนเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้รู้จักกับการพนันออนไลน์ เพื่อนของเขาเล่าให้ฟังว่า การเล่นพนันออนไลน์สามารถทำเงินได้ง่าย ๆ ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย อ้ายจำเรียนรู้สึกตื่นเต้นและอยากลอง จึงตัดสินใจสมัครเข้าไปเล่นดู

ในช่วงแรก อ้ายจำเรียนได้รับโชคเล็กน้อย เขาชนะพนันและได้เงินมาบ้าง สิ่งนี้ทำให้เขาติดใจกับความรู้สึกตื่นเต้นของการชนะ และเริ่มเล่นมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาเริ่มใช้เวลาเล่นการพนันออนไลน์แทบทั้งวัน ทั้งคืน โดยหวังว่าจะชนะรางวัลใหญ่ที่จะทำให้เขารวยโดยไม่ต้องทำงานอีกต่อไป

แต่ไม่นานนัก ความโชคดีที่อ้ายจำเรียนคิดว่ามีอยู่ก็เริ่มหายไป เขาเสียพนันมากขึ้น เงินเก็บที่เคยมีเริ่มหมดไป แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ คิดว่าแค่ครั้งหน้าเขาจะต้องชนะ อ้ายจำเรียนเริ่มยืมเงินจากคนรอบข้าง เพื่อนฝูง และครอบครัว โดยสัญญาว่าจะคืนให้เมื่อเขาชนะพนัน

เขาหมกมุ่นอยู่กับการพนันออนไลน์จนละเลยงานและหน้าที่ที่เคยรับผิดชอบ งานที่เคยทำกลับถูกทิ้งไว้ ครอบครัวของเขาเริ่มลำบาก ไม่มีเงินพอใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ทุกครั้งที่ถูกถามถึง เขาก็ยังคงบอกว่าครั้งหน้าเขาจะชนะและกลับมาเป็นเหมือนเดิม

เมื่อเวลาผ่านไป อ้ายจำเรียนเริ่มสูญเสียทุกอย่าง ไม่เพียงแต่เงินและทรัพย์สิน แต่ยังสูญเสียความเชื่อมั่นจากครอบครัวและเพื่อนฝูง เขาเริ่มรู้สึกสิ้นหวัง เพราะไม่สามารถหลุดพ้นจากวังวนของการพนันได้ และรู้สึกตัวว่าชีวิตของเขากำลังพังทลาย

ในที่สุด เมื่ออ้ายจำเรียนหมดหนทาง เขาจึงได้สติและทบทวนสิ่งที่เขาได้ทำผิดพลาด เขาตระหนักว่าการติดการพนันออนไลน์ไม่ได้นำมาซึ่งความสุขหรือความสำเร็จ แต่กลับทำลายชีวิตและครอบครัวของเขา อ้ายจำเรียนจึงตัดสินใจเลิกเล่นการพนันออนไลน์อย่างเด็ดขาด และเริ่มต้นทำงานอีกครั้ง

แม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความมุ่งมั่น อ้ายจำเรียนกลับมาทำงานหนักเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นและสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว เขาขอโทษและขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง จนในที่สุดเขาก็สามารถกลับมามีชีวิตที่มั่นคงได้อีกครั้ง

**คติสอนใจ**: การพนันออนไลน์เป็นหนทางแห่งอบายมุขที่สามารถทำให้ชีวิตของเราต้องพังทลาย ความหวังที่จะรวยทางลัดมักนำมาซึ่งความล้มเหลวในระยะยาว การทำงานด้วยความขยันขันแข็งและความซื่อสัตย์เป็นหนทางที่ยั่งยืนและนำไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงในชีวิต

**นิทานเรื่อง: อ้ายจำเรียนบ่นอ้างว่าหนาวจนเกียจคร้านทำงาน หนทางแห่งอบายมุข**

ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง อ้ายจำเรียนเป็นชายหนุ่มที่เคยขยันทำงานหาเลี้ยงครอบครัว เขาไม่เคยบ่นเรื่องสภาพอากาศหรือความลำบากต่าง ๆ เลย จนกระทั่งเข้าสู่ฤดูหนาว ฤดูที่อากาศเย็นจับใจทำให้หลายคนรู้สึกไม่อยากออกไปทำงาน

อ้ายจำเรียนก็เป็นเช่นนั้น เขาเริ่มบ่นว่า “อากาศหนาวจัง” และใช้ความหนาวเป็นข้ออ้างในการไม่ออกไปทำงาน เขาบอกกับตัวเองทุกวันว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยทำ” หรือ “รอให้อากาศอุ่นก่อนแล้วค่อยทำงาน” แต่วันเวลากลับผ่านไป อ้ายจำเรียนก็ยังคงนอนขดอยู่ใต้ผ้าห่ม อาศัยอยู่ในบ้านโดยไม่ทำอะไรเลย

เมื่ออ้ายจำเรียนไม่ได้ทำงาน รายได้ของครอบครัวก็เริ่มลดลง ครอบครัวเริ่มมีปัญหาทางการเงิน ภรรยาของเขาพยายามเตือนให้เขาลุกขึ้นมาทำงาน แต่เขาก็ยังคงบ่นว่าอากาศหนาวเกินไป และไม่ยอมทำอะไร นอกจากการนั่งอุ่นสบายอยู่ในบ้าน

ขณะที่อ้ายจำเรียนยังคงบ่นและเกียจคร้าน คนในหมู่บ้านอื่น ๆ ก็ยังคงขยันทำงาน ไม่ว่าอากาศจะหนาวเย็นเพียงใด พวกเขาเตรียมตัวด้วยเสื้อผ้าที่เหมาะสมและยังคงออกไปทำงานตามปกติ สิ่งนี้ทำให้อ้ายจำเรียนเริ่มเห็นความแตกต่างระหว่างตนเองกับผู้อื่น คนอื่น ๆ ยังคงมีชีวิตที่มั่นคง แต่ครอบครัวของเขากลับยิ่งลำบากมากขึ้น

วันหนึ่ง เมื่อไม่มีเงินพอที่จะซื้ออาหารให้ครอบครัว อ้ายจำเรียนเริ่มตระหนักว่า การบ่นและการหลีกเลี่ยงความลำบากด้วยข้ออ้างเรื่องอากาศหนาวไม่ได้นำมาซึ่งความสุขหรือความสบาย แต่กลับทำให้ครอบครัวเดือดร้อน

อ้ายจำเรียนจึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาลุกขึ้นจากที่นอน หยิบเสื้อผ้าที่อบอุ่นมาสวมใส่ และออกไปทำงานกลางแจ้ง เขาตระหนักว่าการทำงานแม้ในช่วงที่อากาศหนาวอาจจะไม่สบายตัว แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความมั่นคงของครอบครัว และความสบายใจที่ได้จากการทำงานด้วยความตั้งใจ

**คติสอนใจ**: การบ่นอ้างเรื่องสภาพอากาศหรือความยากลำบากอื่น ๆ เป็นหนทางแห่งความเกียจคร้านที่นำไปสู่การหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ การเผชิญหน้ากับความท้าทายด้วยความขยันขันแข็งและไม่ใช้ข้ออ้างใด ๆ จะนำมาซึ่งความสำเร็จและความมั่นคงในชีวิต


**นิทานเรื่อง: อ้ายจำเรียนบ่นอ้างว่าแดดจัดร้อนจนเกียจคร้านทำงาน หนทางแห่งอบายมุข**

ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อ้ายจำเรียนเป็นชายหนุ่มที่เคยขยันขันแข็งในการทำงาน ทุกวันเขาจะออกไปทำไร่ทำนาไม่ว่าอากาศจะเป็นเช่นไร แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน อากาศก็เริ่มร้อนจัดจนทำให้ใครหลายคนรู้สึกไม่สบายตัว

อ้ายจำเรียนเริ่มบ่นกับตัวเองว่า “อากาศร้อนเหลือเกิน วันนี้ไม่ไปทำงานดีกว่า รอให้อากาศเย็นลงก่อนแล้วค่อยออกไปทำ” จากที่เคยตื่นเช้าออกไปทำงานทุกวัน เขากลับเลือกที่จะนอนหลบแดดอยู่ในบ้าน บอกกับคนในครอบครัวว่าแดดจัดเกินไป ทำงานไม่ไหว ทุกวันเขามักหาข้ออ้างเกี่ยวกับความร้อน และสัญญากับตัวเองว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยทำ” แต่วันพรุ่งนี้ก็ไม่เคยมาถึง

เมื่อเวลาผ่านไป รายได้ของครอบครัวเริ่มลดลง เพราะอ้ายจำเรียนไม่ออกไปทำงาน รายได้จากการทำนาเริ่มน้อยลงและปัญหาทางการเงินก็ตามมา ภรรยาและลูกของเขาพยายามเตือนให้เขาออกไปทำงานเหมือนเดิม แต่เขายังคงยืนยันว่าแดดร้อนเกินไป ไม่อยากลำบากออกไปกลางแดดจัด

ในขณะเดียวกัน ชาวบ้านคนอื่น ๆ ยังคงขยันออกไปทำงาน แม้แดดจะร้อนจัด พวกเขาก็ปรับตัวโดยเตรียมเครื่องแต่งกายที่เหมาะสม เช่น หมวก ผ้าคลุมตัว และดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ทนต่อสภาพอากาศได้ อ้ายจำเรียนเริ่มเห็นว่าคนอื่น ๆ ยังคงทำงานได้ และชีวิตของพวกเขาก็ไม่ได้รับผลกระทบจากความร้อนเช่นเดียวกับตน

วันหนึ่ง เมื่อไม่มีเงินเหลือพอสำหรับซื้อข้าวและของใช้ที่จำเป็นในบ้าน อ้ายจำเรียนรู้สึกละอายใจ เขาตระหนักว่า การบ่นเรื่องอากาศร้อนเป็นเพียงข้ออ้างที่ทำให้เขาเกียจคร้านและไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง

อ้ายจำเรียนจึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาลุกขึ้นจากที่นอน หยิบหมวกและผ้าคลุมตัวออกไปทำงานท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด แม้ว่าจะรู้สึกร้อนและไม่สบาย แต่เขารู้ว่าการขยันทำงานจะช่วยให้ครอบครัวกลับมามีชีวิตที่มั่นคงอีกครั้ง

**คติสอนใจ**: การบ่นอ้างเรื่องสภาพอากาศ เช่น แดดร้อน เป็นข้ออ้างที่นำไปสู่ความเกียจคร้านและการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ การเผชิญกับสภาพอากาศและอุปสรรคด้วยความมุ่งมั่นและความขยันจะนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิตและการอยู่รอดในทุกสถานการณ์








ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม