รวมนิทานอ้ายจำเรียน

สวัสดีครับFCอ้ายจำเรียนทุกคน อยากจะสนับสนุนเนื้อหาบทความ และนิทาน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจทำเนื้อหาเรื่องราวต่างๆต่อไปได้ที่ พร้อมเพลย์/ทรูมันนี่วอเลท เบอร์👇🏽
กดค้างไว้เพื่อคัดลอก👇🏽
                      0892718015
นายจำเรียน จันทร์รักษา
จะติชมเนื้อหาแอดไลน์ไอดี
กดค้างไว้เพื่อคัดลอก👇🏽
             tel0892718015


นิทานผีอ้ายจำเรียนปราบผีปอบ
ในหมู่บ้านอันเงียบสงบแห่งหนึ่ง มีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับอ้ายจำเรียน ชายหนุ่มผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังเดินผ่านป่าช้า ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังมาจากหลุมศพเก่าแก่

ด้วยความสงสัย อ้ายจำเรียนจึงเข้าไปสำรวจและพบกับผีปอบตนหนึ่งที่กำลังทรมานวิญญาณของหญิงสาวที่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม อ้ายจำเรียนรู้สึกโกรธแค้นและตัดสินใจที่จะปราบผีปอบตนนี้ให้สิ้นซาก

อ้ายจำเรียนร่ายมนต์คาถาและใช้มีดอาคมแทงเข้าที่หัวใจของผีปอบ เสียงร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วป่าช้า ผีปอบดิ้นรนและพยายามต่อสู้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานพลังของอ้ายจำเรียนได้

เมื่อผีปอบถูกปราบ วิญญาณของหญิงสาวก็ได้รับการปลดปล่อยและจากไปอย่างสงบ อ้ายจำเรียนกลายเป็นวีรบุรุษของหมู่บ้าน และตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่มีผีปอบตนใดกล้าที่จะรบกวนหมู่บ้านอีกเลย
-----
Q443

นิทานผีอ้ายจำเรียนปราบผีปอบยายหยิบ
ในหมู่บ้านอันเงียบสงบแห่งหนึ่ง มีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับอ้ายจำเรียน ชายหนุ่มผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังเดินผ่านป่าช้า ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังมาจากหลุมศพเก่าแก่

ด้วยความสงสัย อ้ายจำเรียนจึงเข้าไปสำรวจและพบกับผีปอบตนหนึ่งที่กำลังทรมานวิญญาณของหญิงสาวที่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม อ้ายจำเรียนรู้สึกโกรธแค้นและตัดสินใจที่จะปราบผีปอบตนนี้ให้สิ้นซาก

อ้ายจำเรียนร่ายมนต์คาถาและใช้มีดอาคมแทงเข้าที่หัวใจของผีปอบ เสียงร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วป่าช้า ผีปอบดิ้นรนและพยายามต่อสู้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานพลังของอ้ายจำเรียนได้

เมื่อผีปอบถูกปราบ วิญญาณของหญิงสาวก็ได้รับการปลดปล่อยและจากไปอย่างสงบ อ้ายจำเรียนกลายเป็นวีรบุรุษของหมู่บ้าน และตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่มีผีปอบตนใดกล้าที่จะรบกวนหมู่บ้านอีกเลย

แต่แล้ววันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังเดินผ่านป่าช้าอีกครั้ง เขาได้ยินเสียงร้องโหยหวนที่คุ้นเคย เสียงนั้นมาจากหลุมศพของยายหยิบ หญิงชราที่ลือกันว่าเป็นแม่มดในหมู่บ้าน

อ้ายจำเรียนรีบวิ่งไปที่หลุมศพและพบว่าวิญญาณของยายหยิบได้กลายเป็นผีปอบตนใหม่ ผีปอบยายหยิบมีพลังมหาศาลและโหดเหี้ยมยิ่งกว่าผีปอบตนก่อนๆ ที่อ้ายจำเรียนเคยปราบมา

อ้ายจำเรียนต่อสู้กับผีปอบยายหยิบอย่างดุเดือด แต่ไม่ว่าเขาจะใช้คาถาหรืออาคมใด ผีปอบยายหยิบก็ไม่สะทกสะท้าน

ในที่สุด อ้ายจำเรียนก็คิดได้ว่าผีปอบยายหยิบนั้นเกลียดกลัวแสงแดด เขาจึงร่ายมนต์เรียกแสงอาทิตย์ให้ส่องลงมาที่หลุมศพ แสงอาทิตย์แผดเผาผีปอบยายหยิบจนมอดไหม้และหายไปในที่สุด

อ้ายจำเรียนได้ปราบผีปอบยายหยิบสำเร็จ และหมู่บ้านก็กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง แต่เรื่องราวของอ้ายจำเรียนและผีปอบยายหยิบยังคงเล่าขานสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
-----

นิทานผีอ้ายจำเรียนปราบผีเปรตปราน
ในหมู่บ้านอันเงียบสงบแห่งหนึ่ง มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับผีเปรตปรานที่ดุร้ายและกระหายเลือด ผีตนนี้มีรูปร่างผอมแห้ง ใบหน้าซีดเซียว และดวงตาที่โหดเหี้ยม

ชาวบ้านหวาดกลัวผีเปรตปรานอย่างมาก พวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับมัน แต่ก็ไม่มีอะไรได้ผล ผีเปรตปรานยังคงหลอกหลอนหมู่บ้าน สร้างความหวาดกลัวและความทุกข์ทรมาน

จนกระทั่งวันหนึ่ง อ้ายจำเรียน นักพรตหนุ่มผู้มีพลังวิเศษได้เดินทางมาถึงหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างร้องขอให้อ้ายจำเรียนช่วยปราบผีเปรตปราน อ้ายจำเรียนรับปากและเริ่มต้นการเดินทางอันตราย

อ้ายจำเรียนเดินทางไปยังป่าช้าที่ซึ่งผีเปรตปรานอาศัยอยู่ เมื่อเขาเข้าไปในป่าช้า เขาได้ยินเสียงคร่ำครวญและเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของผีเปรตปราน

อ้ายจำเรียนไม่หวั่นไหว เขาใช้คาถาและอาวุธวิเศษเพื่อต่อสู้กับผีเปรตปราน การต่อสู้ดุเดือดและยาวนาน แต่ในที่สุด อ้ายจำเรียนก็สามารถเอาชนะผีเปรตปรานได้

เมื่อผีเปรตปรานถูกปราบ ชาวบ้านก็โล่งใจ พวกเขาขอบคุณอ้ายจำเรียนที่ช่วยปลดปล่อยพวกเขาจากความกลัว และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หมู่บ้านก็สงบสุขอีกครั้ง
-----
Q445

นิทานผีอ้ายจำเรียนปราบผีตากละ
ในหมู่บ้านอันเงียบสงบแห่งหนึ่ง มีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับผีตากละที่ดุร้าย ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านมายาวนาน ผีตากละตนนี้มีร่างกายใหญ่โตและดวงตาที่น่ากลัว มันมักจะปรากฏตัวในยามค่ำคืนและไล่ล่าผู้คนที่เดินผ่านป่าใกล้หมู่บ้าน

ชาวบ้านพยายามกำจัดผีตากละหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งมีชายหนุ่มชื่ออ้ายจำเรียนได้ยินเรื่องราวของผีตากละ เขาเป็นหมอผีที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้านอื่น และชาวบ้านจึงขอร้องให้เขาช่วยกำจัดผีร้ายตนนี้

อ้ายจำเรียนรับปากและเดินทางไปยังป่าที่ผีตากละอาละวาด เขาเตรียมเครื่องรางและคาถาต่างๆ เพื่อป้องกันตัวเองจากผีร้าย เมื่อเข้าไปในป่า อ้ายจำเรียนก็สัมผัสได้ถึงพลังงานชั่วร้ายที่แผ่ซ่านอยู่

ขณะที่อ้ายจำเรียนเดินลึกเข้าไปในป่า เขาก็ได้ยินเสียงคำรามอันน่ากลัวจากเบื้องหลัง เขาหันกลับไปและเห็นผีตากละขนาดยักษ์กำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยดวงตาที่ดุร้าย

อ้ายจำเรียนไม่กลัว เขาชักเครื่องรางออกมาและเริ่มสวดคาถา ผีตากละโกรธจัดและพุ่งเข้าใส่เขา อ้ายจำเรียนใช้เครื่องรางป้องกันตัวเองและสวดคาถาอย่างต่อเนื่อง

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด ผีตากละพยายามจะทำร้ายอ้ายจำเรียน แต่เครื่องรางและคาถาของเขาก็แข็งแกร่งเกินกว่าที่ผีจะทำลายได้ ในที่สุด อ้ายจำเรียนก็สามารถปราบผีตากละได้สำเร็จ

ชาวบ้านดีใจมากที่ได้พ้นจากการคุกคามของผีตากละ พวกเขาขอบคุณอ้ายจำเรียนที่ช่วยชีวิตพวกเขา และตั้งแต่นั้นมา อ้ายจำเรียนก็กลายเป็นวีรบุรุษในหมู่บ้าน
-----
สมชาย

นิทานอ้ายจำเรียนเล่าเรื่องผีป่า
ในความมืดมิดของป่าทึบแห่งหนึ่ง มีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับผีป่าที่น่าสะพรึงกลัว ผีป่าตนนี้มีชื่อว่า "อ้ายจำเรียน" และเรื่องราวของมันก็ได้ถูกเล่าขานสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มชื่อสมชาย ที่หลงทางในป่าทึบแห่งนี้ ขณะที่เขากำลังเดินเตร่ไปมาอย่างสิ้นหวัง เขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากพุ่มไม้ข้างหน้า

สมชายค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้พุ่มไม้และพบร่างของชายชราคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น ชายชรามีใบหน้าซีดเซียวและดวงตาที่ว่างเปล่า จำเรียนรีบเข้าไปช่วยเหลือชายชรา แต่เมื่อเขาเอื้อมมือไปแตะตัวชายชรา ร่างของชายชราก็สลายไปในอากาศ

สมชายตกใจกลัวจนตัวสั่น เขาหันหลังวิ่งหนีออกจากป่า แต่ไม่ว่าเขาจะวิ่งไปทางไหน เขาก็ยังคงได้ยินเสียงแปลกๆ ดังตามมาอยู่ตลอดเวลา

ในที่สุด จำเรียนก็วิ่งจนหมดแรงและล้มลงบนพื้น เขาปิดตาและรอคอยความตาย แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงกระซิบข้างหู

สมชาย สมชาย

สมชายลืมตาขึ้นและพบว่าชายชราที่เขาพบในพุ่มไม้กำลังยืนอยู่เหนือเขา ชายชรามีดวงตาสีแดงก่ำและเขี้ยวที่แหลมคม

"เจ้าได้ปลุกข้าจากหลุมศพ" ชายชราคำราม "และตอนนี้เจ้าจะต้องจ่ายราคา"

ชายชราเหยียบบนหน้าอกของจำเรียนและบีบร่างของเขาจนแหลกละเอียด จากนั้นเขาก็หายตัวไปในความมืด

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผีป่าสมชายก็ได้กลายเป็นตำนานเล่าขานในหมู่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงป่าทึบแห่งนั้น และผู้ใดก็ตามที่กล้าหาญพอที่จะเข้าไปในป่าก็จะต้องระวังให้ดี เพราะพวกเขาอาจจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไปของผีป่าอ้ายจำเรียน
-----
Q447


นิทานผีอ้ายจำเรียนเล่าเรื่องราวนางตะเคียนทอง
ในหมู่บ้านอันเงียบสงัดแห่งหนึ่ง มีต้นตะเคียนทองใหญ่ยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่ริมหนองน้ำ ชาวบ้านเล่าขานกันว่าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นที่สิงสถิตของนางตะเคียนทอง ผีสาวแสนสวยที่เฝ้าปกปักรักษาหมู่บ้าน

คืนหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนหนุ่มนักเลงแห่งหมู่บ้านกำลังเดินผ่านหนองน้ำ เขาก็ได้ยินเสียงเพลงอันไพเราะล่องลอยมาจากต้นตะเคียนทอง ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้

ทันใดนั้นเอง อ้ายจำเรียนก็เห็นหญิงสาวแสนสวยปรากฏตัวออกมาจากต้นตะเคียนทอง นางสวมชุดไทยโบราณสีทองอร่ามและมีผมยาวสลวยดั่งไหม นางตะเคียนทองยิ้มหวานให้เขาและเอ่ยว่า

"หนุ่มน้อย ท่านมาหาข้าหรือ"

อ้ายจำเรียนตกใจจนพูดไม่ออก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้พบกับผีสาวแสนสวยเช่นนี้

"ข้าชื่อนางตะเคียนทอง ข้าเป็นผู้ปกปักรักษาหมู่บ้านนี้" นางตะเคียนทองกล่าวต่อ "หากท่านต้องการสิ่งใด จงขอมาเถิด ข้าจะช่วยท่าน"

อ้ายจำเรียนรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดว่าผีจะใจดีเช่นนี้ เขาจึงเล่าเรื่องราวชีวิตของตนให้นางตะเคียนทองฟัง นางตะเคียนทองรับฟังอย่างตั้งใจและเมื่อเขาเล่าจบ นางก็เอ่ยว่า

"ข้าจะช่วยท่านให้พ้นจากความทุกข์ยาก แต่ท่านต้องสัญญากับข้าก่อนว่า ท่านจะไม่ทำร้ายต้นตะเคียนทองของข้า"

อ้ายจำเรียนรีบสัญญาด้วยความเคารพ นางตะเคียนทองจึงมอบของวิเศษให้แก่เขา ของวิเศษนี้จะช่วยให้อ้ายจำเรียนมีโชคลาภและความสำเร็จในชีวิต

หลังจากนั้น อ้ายจำเรียนก็กลายเป็นคนใหม่ เขาเลิกเป็นนักเลงและหันมาทำความดี เขาใช้ของวิเศษที่นางตะเคียนทองมอบให้ช่วยเหลือผู้คนในหมู่บ้าน และตั้งแต่นั้นมา ต้นตะเคียนทองก็กลายเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านยิ่งกว่าเดิม
-----
Q448


นิทานอ้ายจำเรียนเล่าเรื่องราวผีบ้านผีเรือน
ในหมู่บ้านอันเงียบสงบแห่งหนึ่ง มีบ้านเก่าแก่หลังหนึ่งที่เล่าขานกันว่าเป็นบ้านผีสิง ผู้คนในหมู่บ้านต่างหวาดกลัวที่จะเข้าใกล้บ้านหลังนั้น แต่มีชายหนุ่มผู้กล้าหาญนามว่าอ้ายจำเรียนที่ไม่เชื่อเรื่องผีสาง เขาจึงตัดสินใจที่จะเข้าไปสำรวจบ้านหลังนั้นในคืนพระจันทร์เต็มดวง

เมื่ออ้ายจำเรียนก้าวเข้าไปในบ้าน เขาก็รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกและอับชื้น บรรยากาศภายในบ้านดูน่าขนลุกราวกับมีใครกำลังจ้องมองอยู่ เขาเดินสำรวจไปทั่วบ้านแต่ก็ไม่พบใคร จนกระทั่งเขาเดินไปถึงห้องนอนใหญ่

ทันใดนั้น ประตูห้องก็ปิดลงอย่างแรงและล็อกจากด้านใน อ้ายจำเรียนตกใจมาก เขาพยายามเปิดประตูแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เขาร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีใครได้ยิน

ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังสิ้นหวัง เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินเข้ามาหาเขาช้าๆ จากนั้นเขาก็เห็นเงาสีขาวลอยอยู่ตรงหน้าประตู เงาสีขาวค่อยๆ เข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนอ้ายจำเรียนสามารถมองเห็นใบหน้าของมันได้

ใบหน้าของผีนั้นซีดเผือดและมีเลือดไหลออกมาจากดวงตา ริมฝีปากของมันขยับเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆ ออกมา อ้ายจำเรียนตัวสั่นด้วยความกลัว เขาพยายามถอยหนีแต่ก็ไม่สามารถขยับตัวได้

ผีตนนั้นค่อยๆ ลอยเข้ามาใกล้อ้ายจำเรียนเรื่อยๆ จนกระทั่งใบหน้าของมันอยู่ห่างจากใบหน้าของเขาเพียงไม่กี่เซนติเมตร อ้ายจำเรียนหลับตาลงและรอคอยความตาย

แต่แล้วความตายก็ไม่มาถึง ผีตนนั้นค่อยๆ ลอยถอยหลังออกไปและหายไปในความมืด อ้ายจำเรียนเปิดตาขึ้นและพบว่าประตูห้องได้เปิดออกแล้ว เขารีบวิ่งออกจากบ้านหลังนั้นไปทันที

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา อ้ายจำเรียนก็ไม่เคยกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกเลย และเรื่องราวของผีบ้านผีเรือนก็กลายเป็นตำนานที่เล่าขานกันมาจนถึงทุกวันนี้
-----
Q449

นิทานอ้ายจำเรียนเล่าเรื่องราวผจญกับผีในตึกร้าง
ในความมืดมิดของคืนที่ไร้แสงดาว อ้ายจำเรียน ชายหนุ่มผู้กล้าหาญ ได้ตัดสินใจที่จะสำรวจตึกร้างที่เลื่องลือกันว่ามีผีสิง ตึกร้างแห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองที่ร้างผู้คน บรรยากาศโดยรอบดูน่าขนลุกราวกับมีใครกำลังจ้องมองอยู่

อ้ายจำเรียนก้าวเข้าไปในตึกร้างอย่างไม่ลังเล เขาเดินสำรวจไปทั่วชั้นล่างแต่ก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ จนกระทั่งเขาเดินขึ้นไปถึงชั้นบนสุด

ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังเดินสำรวจอยู่บนชั้นบน เขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากห้องหนึ่ง เขาค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ห้องนั้นและแง้มประตูออกช้าๆ

ทันใดนั้นเอง ประตูก็เปิดออกอย่างแรงและมีเงาดำพุ่งออกมาจากห้อง เงาดำนั้นลอยอยู่กลางอากาศและมีดวงตาสีแดงก่ำที่จ้องมองมาที่อ้ายจำเรียน

อ้ายจำเรียนตกใจมาก เขาพยายามจะวิ่งหนีแต่ก็ไม่สามารถขยับตัวได้ เงาดำนั้นค่อยๆ ลอยเข้ามาใกล้อ้ายจำเรียนเรื่อยๆ จนกระทั่งใบหน้าของมันอยู่ห่างจากใบหน้าของเขาเพียงไม่กี่เซนติเมตร

อ้ายจำเรียนหลับตาลงและรอคอยความตาย แต่แล้วความตายก็ไม่มาถึง เงาดำนั้นค่อยๆ ลอยถอยหลังออกไปและหายไปในความมืด อ้ายจำเรียนเปิดตาขึ้นและพบว่าเขายังคงยืนอยู่ที่เดิม

อ้ายจำเรียนรีบวิ่งออกจากห้องนั้นไปทันที เขาไม่กล้าที่จะสำรวจตึกร้างแห่งนี้อีกต่อไป ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา อ้ายจำเรียนก็ไม่เคยกลับไปที่ตึกร้างแห่งนั้นอีกเลย และเรื่องราวของผีในตึกร้างก็กลายเป็นตำนานที่เล่าขานกันมาจนถึงทุกวันนี้

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม