รวมนิทานอ้ายจำเรียน

นิทานความรักแสนโรแมนติกอ้ายจำเรียนกับน้องแพรวา
ในหุบเขาอันเงียบสงบที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี มีหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า "บ้านรัก" ซึ่งเป็นที่อาศัยของชายหนุ่มผู้มีชื่อว่า "อ้ายจำเรียน" และหญิงสาวแสนสวยนามว่า "น้องแพรวา"

อ้ายจำเรียนเป็นชายหนุ่มรูปงามและฉลาด เขาเป็นลูกชายคนโตของกำนันในหมู่บ้าน ส่วนน้องแพรวาเป็นหญิงสาวแสนสวยและอ่อนหวาน เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของหมอผีประจำหมู่บ้าน

ทั้งสองพบกันครั้งแรกที่งานเทศกาลประจำหมู่บ้าน อ้ายจำเรียนตกหลุมรักน้องแพรวาทันทีที่เห็น ส่วนน้องแพรวาก็รู้สึกประทับใจในความหล่อเหลาและความฉลาดของอ้ายจำเรียน

หลังจากนั้น ทั้งสองก็เริ่มพบปะกันบ่อยขึ้น พวกเขาไปเดินเล่นในป่าด้วยกัน พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน และแบ่งปันความฝันของกันและกัน

วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนตัดสินใจสารภาพรักกับน้องแพรวา เขาบอกเธอว่าเขารักเธอมาก และอยากแต่งงานกับเธอ น้องแพรวาดีใจมาก เธอตอบตกลงทันที

ข่าวการแต่งงานของทั้งสองแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างก็ดีใจและอวยพรให้ทั้งคู่มีความสุข

งานแต่งงานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่บ้านของน้องแพรวา มีแขกมาร่วมงานมากมาย ทั้งชาวบ้านและญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่าย

หลังจากแต่งงานแล้ว อ้ายจำเรียนและน้องแพรวาก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข พวกเขามีลูกชายและลูกสาวด้วยกันสองคน ทั้งคู่เลี้ยงดูลูกๆ ด้วยความรักและความอบอุ่น

หลายปีผ่านไป อ้ายจำเรียนและน้องแพรวาก็ยังคงรักกันเหมือนเดิม พวกเขาเป็นคู่รักที่โรแมนติกและเป็นแบบอย่างให้กับคนในหมู่บ้าน

และนั่นก็คือเรื่องราวความรักแสนโรแมนติกของอ้ายจำเรียนกับน้องแพรวา คู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป
-----
Q419

แต่งนิทานเรื่องคนกินข้าววันละสามมื้อ
ในดินแดนอันไกลโพ้น มีหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ผู้คนอาศัยอยู่ด้วยความสงบสุข พวกเขาทำงานหนักในไร่นาและเลี้ยงสัตว์เพื่อเลี้ยงชีพ

ทว่าในหมู่บ้านนี้ มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อจอห์น ผู้ซึ่งมีนิสัยแปลกประหลาด เขาไม่ชอบทำงานและใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนหลับหรือเดินเตร่ไปทั่วหมู่บ้าน

สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดเกี่ยวกับจอห์นก็คือ นิสัยการกินของเขา เขาไม่กินข้าววันละสามมื้อเหมือนคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน แต่กลับกินข้าวเพียงมื้อเดียวในตอนเย็น

ชาวบ้านต่างสงสัยในพฤติกรรมของจอห์น พวกเขาคิดว่าเขาคงป่วยหรือเป็นบ้าไปแล้ว แต่จอห์นไม่สนใจคำพูดของพวกเขา เขายังคงกินข้าววันละมื้อเหมือนเดิม

วันหนึ่ง ขณะที่จอห์นกำลังเดินเตร่ไปตามถนน เขาได้พบกับชายชราคนหนึ่ง ชายชราถามจอห์นว่าทำไมเขาถึงกินข้าวเพียงมื้อเดียวในตอนเย็น

จอห์นตอบว่า "ผมไม่ชอบกินข้าว ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าเบื่อ ผมชอบใช้เวลาไปกับการทำสิ่งอื่นมากกว่า"

ชายชราส่ายหัวและกล่าวว่า "เจ้าหนุ่มเอ๋ย เจ้าไม่รู้หรือว่าการกินข้าวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับร่างกายของเรา มันให้พลังงานแก่เราและช่วยให้เราแข็งแรง"

จอห์นไม่เชื่อคำพูดของชายชรา เขาคิดว่าชายชราคงแก่เกินไปที่จะเข้าใจความรู้สึกของเขา

ชายชราถอนหายใจและกล่าวว่า "เจ้าจะรู้เองเมื่อเจ้าแก่ตัวลง เจ้าจะเสียใจที่ไม่ดูแลร่างกายของเจ้าอย่างดี"

จอห์นไม่สนใจคำเตือนของชายชรา เขายังคงกินข้าววันละมื้อเหมือนเดิม

หลายปีผ่านไป จอห์นก็แก่ตัวลง เขาเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนแอ เขาล้มป่วยบ่อยครั้งและไม่สามารถทำงานได้เหมือนเมื่อก่อน

จอห์นเริ่มเสียใจที่ไม่ฟังคำเตือนของชายชรา เขาตระหนักว่าการกินข้าวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพของเขา

จอห์นตัดสินใจเปลี่ยนนิสัยการกินของเขา เขาเริ่มกินข้าววันละสามมื้อเหมือนคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน

ในไม่ช้า จอห์นก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น เขามีพลังงานมากขึ้นและไม่ล้มป่วยบ่อยเหมือนเมื่อก่อน

ชาวบ้านต่างดีใจที่เห็นจอห์นเปลี่ยนแปลงไป พวกเขารู้ว่าเขาได้เรียนรู้บทเรียนอันมีค่าเกี่ยวกับความสำคัญของการกินข้าว

ตั้งแต่นั้นมา จอห์นก็กินข้าววันละสามมื้อและมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไป
-----
Q420


แต่งนิทานเรื่องจรเข้ไม่มีลิ้น
ในหนองน้ำอันกว้างใหญ่ มีจระเข้ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า "เขี้ยวเพชร" แตกต่างจากจระเข้ตัวอื่นๆ เขี้ยวเพชรนั้นไม่มีลิ้น

ไม่มีลิ้นนั้นทำให้เขี้ยวเพชรลำบากใจมาก เวลากินอาหาร เขาก็ไม่สามารถลิ้มรสชาติได้เต็มที่ เวลาพูด เขาก็พูดไม่ชัด ทำให้จระเข้ตัวอื่นๆ ล้อเลียนเขาบ่อยๆ

วันหนึ่ง ขณะที่เขี้ยวเพชรกำลังอาบแดดอยู่ริมหนองน้ำ เขาได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก เขี้ยวเพชรรีบว่ายน้ำไปดู และพบว่ามีเด็กน้อยคนหนึ่งตกลงไปในหนองน้ำ

โดยไม่ลังเล เขี้ยวเพชรก็ว่ายน้ำเข้าไปช่วยเด็กน้อยขึ้นมาจากน้ำ เด็กน้อยรอดชีวิตและขอบคุณเขี้ยวเพชร

ตั้งแต่นั้นมา จระเข้ตัวอื่นๆ ก็เลิกหัวเราะเยาะเขี้ยวเพชร เพราะพวกเขาได้เห็นแล้วว่าแม้จะไม่มีลิ้น แต่เขี้ยวเพชรก็เป็นจระเข้ที่กล้าหาญและมีน้ำใจ

และแม้ว่าเขี้ยวเพชรจะไม่มีลิ้น แต่เขาก็มีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น และนั่นก็เป็นรสชาติที่แสนหวานที่สุดที่เขาเคยลิ้มลอง
-----
Q421

แต่งนิทานเรื่องกบเลือกสระ
ในหนองน้ำอันแสนร่มรื่นแห่งหนึ่ง มีกบตัวหนึ่งชื่อว่า "กบเขียว" กบเขียวเป็นกบที่ขยันและฉลาดมาก แต่มันมีปัญหาใหญ่ประการหนึ่ง นั่นคือ มันไม่รู้ว่าจะเลือกสระไหนเป็นบ้านของมัน

วันหนึ่ง กบเขียวได้ออกเดินทางไปตามหาสระที่เหมาะสม มันกระโดดไปจากสระหนึ่งไปยังอีกสระหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เจอสระที่ถูกใจเสียที บางสระก็มีน้ำที่สกปรก บางสระก็มีเสียงดังเกินไป บางสระก็มีสัตว์นักล่ามากเกินไป

กบเขียวเริ่มท้อแท้ มันคิดว่าคงไม่มีสระไหนที่เหมาะกับมันแล้ว แต่แล้ววันหนึ่ง มันก็ได้พบกับสระน้ำใสสะอาดแห่งหนึ่ง สระน้ำนี้มีต้นไม้ล้อมรอบให้ร่มเงา มีดอกบัวสวยงามลอยอยู่ และมีเสียงนกร้องเพลงอย่างไพเราะ

กบเขียวรู้สึกชอบสระน้ำนี้มาก มันตัดสินใจเลือกสระนี้เป็นบ้านของมัน และตั้งชื่อสระนี้ว่า "สระแห่งความสุข"

ตั้งแต่นั้นมา กบเขียวก็อาศัยอยู่ในสระแห่งความสุขอย่างมีความสุข มันได้พบกับเพื่อนใหม่ๆ มากมาย และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขตลอดไป
-----
Q422

แต่งนิทานเรื่องกบเลือกกิน
ในบึงน้ำอันกว้างใหญ่ มีกบตัวหนึ่งชื่อว่า "กบเลือกกิน" กบตัวนี้มีนิสัยแปลกประหลาด มันไม่ยอมกินอาหารชนิดใดเลยนอกจากแมลงปอตัวอ้วนๆ

วันหนึ่ง ขณะที่กบเลือกกินกำลังนั่งอยู่ริมบึง มันก็เห็นแมลงปอตัวใหญ่บินผ่านมา กบเลือกกินดีใจมาก รีบกระโดดขึ้นไปคาบแมลงปอตัวนั้นไว้ในปาก แต่ทันใดนั้นเอง แมลงปอตัวนั้นก็บินหนีไปได้

กบเลือกกินโกรธมาก มันไล่ตามแมลงปอไปทั่วบึง แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว แมลงปอตัวนั้นบินหายไปในป่า

กบเลือกกินหิวโหยมาก แต่ก็ยังไม่ยอมกินอาหารชนิดอื่น มันนั่งรออยู่ริมบึง หวังว่าจะมีแมลงปอตัวอ้วนๆ บินผ่านมาอีก

เวลาผ่านไปหลายวัน กบเลือกกินเริ่มอ่อนแอลง มันไม่มีแรงที่จะกระโดดหรือว่ายน้ำไปไหนได้อีกแล้ว มันนั่งรอความตายอยู่ริมบึง

ในที่สุด วันหนึ่งก็มีแมลงปอตัวเล็กๆ บินผ่านมา กบเลือกกินดีใจมาก รีบกระโดดขึ้นไปคาบแมลงปอตัวนั้นไว้ในปาก แต่คราวนี้ มันไม่ปล่อยให้แมลงปอหนีไปได้ มันรีบกลืนแมลงปอตัวนั้นลงไปในท้องทันที

หลังจากที่ได้กินอาหารเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน กบเลือกกินก็รู้สึกดีขึ้นมาก มันว่ายน้ำไปรอบๆ บึงอย่างมีความสุข และตั้งแต่นั้นมา มันก็ไม่เลือกกินอาหารอีกต่อไป
-----
Q423

แต่งนิทานเรื่องกบหูหนวก
ในหนองน้ำแห่งหนึ่ง มีกบตัวหนึ่งชื่อว่า "กบหูหนวก" กบหูหนวกนั้นไม่สามารถได้ยินเสียงใดๆ ได้เลย ทำให้มันรู้สึกโดดเดี่ยวและเศร้าใจ

วันหนึ่ง ขณะที่กบหูหนวกกำลังนั่งอยู่ริมหนองน้ำ มันได้เห็นฝูงกบตัวอื่นๆ กำลังร้องเพลงและเล่นกันอย่างสนุกสนาน กบหูหนวกอยากจะเข้าร่วมกับเพื่อนๆ แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

กบหูหนวกจึงว่ายน้ำไปหาเพื่อนๆ และพยายามที่จะสื่อสารด้วยการกระโดดและโบกมือ แต่เพื่อนๆ ไม่เข้าใจสิ่งที่มันต้องการสื่อ

กบหูหนวกเริ่มรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง มันว่ายน้ำกลับไปยังริมหนองน้ำและนั่งลงอย่างเศร้าใจ

ทันใดนั้น มันก็ได้ยินเสียงเพลงที่ไพเราะดังมาจากทิศทางหนึ่ง กบหูหนวกหันไปมองและเห็นนกไนติงเกลตัวหนึ่งกำลังเกาะอยู่บนกิ่งไม้และร้องเพลง

กบหูหนวกไม่สามารถได้ยินเสียงเพลง แต่สามารถรับรู้ได้ถึงการสั่นสะเทือนของอากาศ มันรู้สึกมีความสุขและสงบเมื่อได้ฟังเสียงเพลง

นกไนติงเกลสังเกตเห็นกบหูหนวกและเข้าใจว่ามันไม่สามารถได้ยินเสียงได้ นกไนติงเกลจึงบินลงมาหาและเริ่มร้องเพลงให้กบหูหนวกฟัง

กบหูหนวกรู้สึกมีความสุขมาก มันกระโดดและโบกมือราวกับว่ามันสามารถได้ยินเสียงเพลงได้

นับจากนั้นเป็นต้นมา กบหูหนวกและนกไนติงเกลก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน นกไนติงเกลจะร้องเพลงให้กบหูหนวกฟังทุกวัน และกบหูหนวกก็จะกระโดดและโบกมือเพื่อแสดงความขอบคุณ

แม้ว่ากบหูหนวกจะไม่สามารถได้ยินเสียงได้ แต่ก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความสุขและความรักผ่านการสั่นสะเทือนของอากาศ และมิตรภาพที่แท้จริงก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยคำพูด
-----
Q424

แต่งนิทานเรื่องกบนอกใจคนรัก
ในหนองน้ำอันแสนร่มรื่น มีกบตัวหนึ่งชื่อ "กบเขียว" ซึ่งมีคนรักแสนดีชื่อ "กบสาว" กบเขียวเป็นกบที่หล่อเหลาและมีเสน่ห์ดึงดูดใจกบสาวมาก

แต่แล้ววันหนึ่ง ขณะที่กบเขียวกำลังนั่งอยู่ริมหนองน้ำ ก็ได้พบกับกบสาวตัวใหม่ที่ชื่อ "กบงาม" กบงามเป็นกบสาวที่สวยและมีเสน่ห์มาก ทำให้กบเขียวหลงใหลและลืมกบสาวไปในทันที

กบเขียวเริ่มแอบไปพบกับกบงามบ่อยๆ โดยไม่สนใจความรู้สึกของกบสาวที่เฝ้ารอคอยอยู่ที่หนองน้ำ เมื่อกบสาวรู้เรื่อง ก็เสียใจมากและร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน

ในที่สุด กบงามก็รู้ความจริงว่ากบเขียวมีคนรักอยู่แล้ว จึงตัดสินใจบอกเลิกกบเขียวไป กบเขียวรู้สึกผิดและเสียใจมากที่ได้ทำร้ายกบสาว

กบเขียวกลับมาหากบสาวและขอโทษในสิ่งที่ตนได้ทำลงไป กบสาวเห็นใจกบเขียวและยอมให้อภัย แต่เธอเตือนว่าหากกบเขียวทำแบบนี้อีกครั้ง เธอจะไม่ให้อภัยอีกแล้ว

กบเขียวเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนและสัญญาว่าจะไม่นอกใจกบสาวอีกต่อไป และทั้งคู่ก็กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง
-----
Q425

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม