นิทานอ้ายจำเรียนตอนยักษ์
แต่งนิทานยักษ์ผู้ใจดีมีเมตตา
ในดินแดนอันไกลโพ้น มีป่าใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้สูงตระหง่านและพุ่มไม้หนาทึบ ใจกลางป่าแห่งนี้เป็นที่อาศัยของยักษ์ใจดีตนหนึ่งชื่อว่า "ยักษ์ใจบุญ"
ยักษ์ใจบุญนั้นสูงใหญ่และแข็งแรง แต่ไม่เหมือนยักษ์ตนอื่นๆ ที่ดุร้ายและน่ากลัว เขาเป็นยักษ์ที่อ่อนโยนและมีเมตตา เขาใช้พละกำลังของเขาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากและปกป้องผืนป่าอันเป็นที่รักของเขา
วันหนึ่ง ขณะที่ยักษ์ใจบุญกำลังเดินอยู่ในป่า เขาได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กสาว เขารีบวิ่งไปตามเสียงนั้นและพบเด็กสาวตัวเล็กนั่งร้องไห้อยู่ข้างลำธาร
"หนูเป็นอะไร" ยักษ์ใจบุญถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ฉันหลงทางค่ะ" เด็กสาวสะอื้น "ฉันหาทางกลับบ้านไม่เจอ"
ยักษ์ใจบุญยิ้มและอุ้มเด็กสาวขึ้นมา "ไม่ต้องกลัว ฉันจะพาหนูกลับบ้าน"
ยักษ์ใจบุญเดินพาเด็กสาวไปตามป่าจนกระทั่งถึงหมู่บ้านของเธอ เด็กสาวดีใจมากและขอบคุณยักษ์ใจบุญที่ช่วยเธอ
ข่าวเรื่องความใจดีของยักษ์ใจบุญแพร่กระจายไปทั่วป่า สัตว์ต่างๆ และผู้คนที่อาศัยอยู่ในป่าต่างก็รักและเคารพเขา
วันหนึ่ง มีพายุรุนแรงถล่มป่า ต้นไม้ถูกโค่นล้มและบ้านเรือนถูกทำลาย ยักษ์ใจบุญใช้พละกำลังของเขาช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บและสร้างบ้านใหม่ให้กับพวกเขา
ด้วยความใจดีและความเมตตาของเขา ยักษ์ใจบุญจึงกลายเป็นที่รู้จักในนาม "ยักษ์ผู้พิทักษ์แห่งป่า" เขาใช้ชีวิตของเขาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นและปกป้องบ้านอันเป็นที่รักของเขา
-----
Q368
แต่งนิทานยักษ์ผู้ทรงศีล
ในดินแดนอันไกลโพ้น มีป่าใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้สูงตระหง่าน ใจกลางป่านั้นเป็นที่อาศัยของยักษ์ใจดีตนหนึ่งชื่อว่า "ยักษ์ศีล"
ยักษ์ศีลเป็นยักษ์ที่แตกต่างจากยักษ์ตนอื่นๆ เขาไม่ชอบกินเนื้อสัตว์หรือทำร้ายสิ่งมีชีวิตใดๆ เขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขด้วยการปลูกผักและผลไม้ในสวนของเขา
วันหนึ่ง ขณะที่ยักษ์ศีลกำลังเก็บผลไม้ในสวน เขาได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กหญิงตัวเล็กๆ ยักษ์ศีลรีบวิ่งไปตามเสียงและพบเด็กหญิงนั่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้
"เจ้าเป็นอะไรหรือหนู?" ยักษ์ศีลถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ฉัน...ฉันหลงทางค่ะ" เด็กหญิงสะอื้น "ฉันหาทางกลับบ้านไม่เจอ"
ยักษ์ศีลรู้สึกสงสารเด็กหญิง เขาจึงอุ้มเธอขึ้นมาและพาเธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย
เมื่อพ่อแม่ของเด็กหญิงเห็นลูกสาวของตนกลับมา พวกเขาก็ดีใจมากและขอบคุณยักษ์ศีลที่ช่วยเธอไว้
ตั้งแต่นั้นมา ชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงก็รู้จักยักษ์ศีลในฐานะยักษ์ใจดีที่ช่วยเหลือผู้คนในยามยาก
ยักษ์ศีลใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในป่าของเขา เขาปลูกผักและผลไม้เพื่อเลี้ยงชีพ และช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ เขาเป็นที่รักและเคารพของทั้งมนุษย์และสัตว์ในป่า
และนั่นคือเรื่องราวของยักษ์ศีล ยักษ์ผู้ทรงศีลที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและช่วยเหลือผู้อื่น
-----
Q369
แต่งนิทานยักษ์ผู้มีคุณธรรม
ในดินแดนอันไกลโพ้น มีหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่อยู่ภายใต้เงาของภูเขาสูงชัน บนยอดเขานั้นมีปราสาทหินอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นที่อาศัยของยักษ์ใจดีตนหนึ่งชื่อว่า "ยอร์ก"
ยอร์กต่างจากยักษ์ตนอื่นๆ ที่โหดเหี้ยมและเห็นแก่ตัว เขาเป็นยักษ์ที่มีจิตใจดีและเมตตา เขาใช้พละกำลังอันมหาศาลของเขาเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ
วันหนึ่ง ขณะที่ยอร์กกำลังเดินผ่านป่า เขาได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กหญิงตัวเล็กๆ เขาเดินตามเสียงนั้นไปจนพบเด็กหญิงนั่งร้องไห้อยู่ข้างต้นไม้ที่สูงชัน เธอปีนขึ้นไปเก็บผลไม้แต่ลงมาไม่ได้
ยอร์กไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือเขา เขาใช้มือที่ใหญ่โตของเขาโอบรอบตัวเด็กหญิงและพาเธอลงมาอย่างปลอดภัย เด็กหญิงขอบคุณยอร์กอย่างซาบซึ้งและวิ่งกลับบ้านไป
ข่าวการกระทำอันใจดีของยอร์กแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ผู้คนเริ่มมองยักษ์ในมุมมองใหม่ พวกเขาตระหนักว่าไม่ใช่ยักษ์ทุกตนที่จะโหดเหี้ยมและน่ากลัว
เมื่อเวลาผ่านไป ยอร์กก็กลายเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน เขาใช้พละกำลังของเขาเพื่อปกป้องหมู่บ้านจากอันตราย และใช้ความเมตตาของเขาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก
และดังนั้น ยอร์กผู้ใจดีจึงกลายเป็นตำนานในหมู่บ้านแห่งนั้น เป็นเครื่องเตือนใจว่าแม้แต่ในสิ่งที่ดูน่ากลัวที่สุดก็อาจซ่อนความดีงามเอาไว้ได้
-----
Q370
แต่งนิทานยักษ์ฆ่าโจร
ในดินแดนอันไกลโพ้น มีหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ถูกโจรกลุ่มหนึ่งรังควาน พวกโจรเหล่านี้โหดเหี้ยมและไร้ความปรานี พวกเขาปล้นสะดมทรัพย์สินและทำร้ายชาวบ้าน
ชาวบ้านสิ้นหวังและไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จนกระทั่งวันหนึ่ง มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้านว่ามี "ยักษ์ใจดี" อาศัยอยู่ในป่าใกล้ๆ
ชาวบ้านตัดสินใจส่งตัวแทนไปหา "ยักษ์ใจดี" เพื่อขอความช่วยเหลือ ตัวแทนได้เดินทางไปยังป่าและพบกับยักษ์ที่ตัวใหญ่และน่ากลัว แต่แปลกใจที่ยักษ์กลับใจดีและเต็มใจช่วยเหลือชาวบ้าน
ยักษ์เดินทางไปยังหมู่บ้านและเผชิญหน้ากับโจร พวกโจรหัวเราะเยาะยักษ์เพราะคิดว่ายักษ์ตัวใหญ่แต่ใจเสาะ แต่ยักษ์พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาคิดผิด
ยักษ์ต่อสู้กับโจรอย่างดุเดือดและฆ่าพวกโจรได้ทีละคนจนหมดสิ้น ชาวบ้านต่างโห่ร้องด้วยความดีใจและขอบคุณยักษ์สำหรับความช่วยเหลือ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ยักษ์ก็กลายเป็นผู้พิทักษ์ของหมู่บ้าน และชาวบ้านก็ไม่ต้องกลัวโจรอีกต่อไป พวกเขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและมีความสุขตลอดไป
-----
Q371
นิทานยักษ์กราบพระพุทธเจ้า
ในดินแดนอันไกลโพ้น มีป่าทึบแห่งหนึ่งที่อาศัยอยู่ด้วยยักษ์ตนหนึ่ง ชื่อว่า "ท้าวเวสสุวรรณ" ท้าวเวสสุวรรณเป็นยักษ์ที่มีรูปร่างสูงใหญ่และแข็งแรง มีผิวสีเขียว และมีเขี้ยวที่แหลมคม
ท้าวเวสสุวรรณเป็นยักษ์ที่ดุร้ายและชอบกินเนื้อมนุษย์ วันหนึ่ง ขณะที่ท้าวเวสสุวรรณกำลังเดินอยู่ในป่า ได้พบกับพระพุทธเจ้าที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ท้าวเวสสุวรรณรู้สึกประหลาดใจและอยากรู้ว่าพระพุทธเจ้าเป็นใคร จึงเข้าไปหาพระพุทธเจ้าและถามว่า
"ท่านเป็นใครมาจากไหน"
พระพุทธเจ้าตอบว่า "เราคือพระพุทธเจ้า ผู้ที่ตรัสรู้แล้ว"
ท้าวเวสสุวรรณไม่เคยได้ยินคำว่า "พระพุทธเจ้า" มาก่อน จึงถามพระพุทธเจ้าว่า "พระพุทธเจ้าคืออะไร"
พระพุทธเจ้าตอบว่า "พระพุทธเจ้าคือผู้ที่รู้แจ้งความจริงของชีวิต และได้พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง"
ท้าวเวสสุวรรณฟังคำตอบของพระพุทธเจ้าแล้วรู้สึกสนใจ จึงนั่งลงฟังพระพุทธเจ้าเทศนาธรรม พระพุทธเจ้าเทศนาธรรมเกี่ยวกับความทุกข์ ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย และหนทางที่จะพ้นจากความทุกข์
ท้าวเวสสุวรรณฟังธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าแล้วรู้สึกซาบซึ้งใจและเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ท้าวเวสสุวรรณจึงกราบพระพุทธเจ้าและกล่าวว่า
"ข้าพเจ้าขอ皈依ในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ขอให้พระองค์โปรดเมตตาข้าพเจ้าด้วย"
พระพุทธเจ้าทรงรับท้าวเวสสุวรรณเป็นพุทธมามกะ และเทศนาธรรมให้ท้าวเวสสุวรรณฟังต่อไป ท้าวเวสสุวรรณฟังธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าแล้วรู้สึกปีติและเบิกบานใจเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่นั้นมา ท้าวเวสสุวรรณก็เลิกกินเนื้อมนุษย์และหันมาถือศีลกินเจ ท้าวเวสสุวรรณได้สร้างวัดวาอารามและทำบุญกุศลต่างๆ มากมาย ท้าวเวสสุวรรณได้กลายเป็นยักษ์ที่ใจดีและเมตตาต่อมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
-----
Q372
แต่งนิทานยักษ์ช่วยคนจมในน้ำ
ในดินแดนอันไกลโพ้น มีหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสายใหญ่ ชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ต่างก็ใจดีและขยันขันแข็ง แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำในแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน
ชาวบ้านต่างพากันหนีน้ำขึ้นที่สูง แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่สามารถหนีทันและติดอยู่ในบ้านที่ถูกน้ำท่วม ชาวบ้านที่หนีรอดมาได้ต่างก็เป็นห่วงคนที่ยังติดอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้เพราะกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก
ขณะที่ชาวบ้านกำลังสิ้นหวังอยู่นั้น ก็มีเสียงดังกึกก้องมาจากทางต้นแม่น้ำ ชาวบ้านมองไปทางต้นเสียงก็เห็นยักษ์ตัวใหญ่กำลังเดินลุยน้ำมาทางหมู่บ้าน ยักษ์ตัวนี้มีรูปร่างสูงใหญ่และน่ากลัว แต่สายตาของมันกลับแฝงไปด้วยความเมตตา
ยักษ์เดินตรงไปยังบ้านที่ถูกน้ำท่วมและเริ่มช่วยเหลือผู้คนที่ติดอยู่ทีละคนๆ มันใช้มืออันใหญ่โตของมันอุ้มผู้คนขึ้นมาจากน้ำและพาไปยังที่ปลอดภัย ชาวบ้านต่างก็ดีใจและขอบคุณยักษ์ที่ช่วยชีวิตพวกเขา
เมื่อช่วยเหลือผู้คนจนหมดแล้ว ยักษ์ก็เดินกลับไปทางต้นแม่น้ำ ชาวบ้านต่างก็โบกมือและส่งเสียงขอบคุณยักษ์จนกระทั่งมันหายลับไปในความมืด
ตั้งแต่นั้นมา ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ไม่เคยลืมความเมตตาของยักษ์ และพวกเขาก็เล่าเรื่องราวของยักษ์ช่วยคนจมน้ำให้ลูกหลานฟังสืบต่อกันมา
-----
Q373
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น