รวมนิทานอ้ายจำเรียน
นิทานเรื่องสิงโตคุณธรรมช่วยเด็กชายมีนามว่าอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล มีสิงโตคุณธรรมตนหนึ่งอาศัยอยู่ สิงโตตนนี้มีชื่อว่า "ราชสีห์" ราชสีห์เป็นสิงโตที่ใจดีและฉลาดมาก วันหนึ่ง ขณะที่ราชสีห์กำลังเดินอยู่ในป่า ก็ได้ยินเสียงเด็กชายร้องไห้อยู่ ราชสีห์จึงเดินไปตามเสียงนั้น และก็พบเด็กชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้
เด็กชายเล่าให้ราชสีห์ฟังว่า เขาชื่อ "อ้ายจำเรียน" และเขามาที่ป่าเพื่อหาผลไม้ แต่กลับหลงทาง ราชสีห์จึงอาสารับเป็นผู้นำทางให้อ้ายจำเรียนกลับบ้าน อ้ายจำเรียนดีใจมาก เขาจึงขึ้นขี่หลังราชสีห์ และราชสีห์ก็พาเขาเดินกลับบ้านอย่างปลอดภัย
เมื่อถึงบ้านของอ้ายจำเรียน ราชสีห์ก็บอกลาเด็กชายและเดินกลับเข้าป่าไป อ้ายจำเรียนรู้สึกซาบซึ้งใจในความเมตตาของราชสีห์มาก เขาจึงบอกลาสิงโตและวิ่งเข้าบ้านไปหาพ่อแม่ของเขา
พ่อแม่ของอ้ายจำเรียนดีใจมากที่เห็นลูกชายของตนปลอดภัย พวกเขาขอบคุณราชสีห์ที่ช่วยเหลือลูกชายของตน ราชสีห์รู้สึกภูมิใจในความดีที่ตนได้ทำ และเขาก็เดินกลับเข้าป่าไปอย่างมีความสุข
ตั้งแต่นั้นมา ราชสีห์ก็เป็นที่รู้จักในป่าว่าเป็นสิงโตคุณธรรมที่คอยช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก และอ้ายจำเรียนก็ไม่เคยลืมความเมตตาของราชสีห์ เขาเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีและมีคุณธรรม และเขาก็เล่าเรื่องราวของราชสีห์ให้คนอื่นๆ ฟังเสมอ
-----
Q356
นิทานเรื่องเงือกน้อย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเงือกน้อยแสนสวยนามว่า มาริน่า อาศัยอยู่ในอาณาจักรใต้ทะเลอันยิ่งใหญ่ มาริน่ามีหางสีเขียวมรกตแวววาวและเสียงเพลงที่ไพเราะจับใจ
วันหนึ่ง ขณะที่มาริน่ากำลังว่ายน้ำเล่นอยู่เหนือผิวน้ำ เธอได้พบกับเจ้าชายรูปงามนามว่า อีริค อีริคตกหลุมรักมาริน่าทันทีที่ได้ยินเสียงเพลงของเธอ และมาริน่าก็ตกหลุมรักเจ้าชายหนุ่มเช่นกัน
แต่ความรักของพวกเขามีอุปสรรค เพราะกฎของอาณาจักรใต้ทะเลห้ามไม่ให้เงือกมีความสัมพันธ์กับมนุษย์ มาริน่าจึงต้องขอความช่วยเหลือจากแม่มดทะเลผู้ชั่วร้าย อุรซูล่า
อุรซูล่าเสนอที่จะทำให้มาริน่ากลายเป็นมนุษย์เป็นเวลาสามวัน เพื่อที่เธอจะได้พบกับอีริค แต่มีข้อแลกเปลี่ยนคือ มาริน่าต้องยกเสียงเพลงของเธอให้กับอุรซูล่า หากมาริน่าไม่ได้รับจุมพิตแห่งรักแท้จากอีริคภายในสามวัน เธอจะกลายเป็นของอุรซูล่าตลอดไป
มาริน่าตกลงและกลายเป็นมนุษย์ เธอขึ้นไปบนบกและพบกับอีริคอีกครั้ง พวกเขาใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข แต่เมื่อเวลาผ่านไป อุรซูล่าก็เริ่มวางแผนทำลายความรักของพวกเขา
อุรซูล่าแปลงร่างเป็นหญิงสาวสวยนามว่า วาเนสซ่า และใช้เสียงเพลงของมาริน่าเพื่อทำให้อีริคหลงใหล วาเนสซ่าเกือบจะทำให้อีริคจุมพิตเธอ แต่เพื่อนของมาริน่าอย่างฟลาวเดอร์และเซบาสเตียนก็เข้ามาขัดขวาง
ในขณะเดียวกัน มาริน่าก็พยายามจะเตือนอีริคถึงแผนการของอุรซูล่า แต่เขาไม่เชื่อเธอ อุรซูล่าจึงจับมาริน่าไปและขังไว้ในถ้ำของเธอ
อีริคตามไปช่วยมาริน่า และเกิดการต่อสู้กับอุรซูล่า ในที่สุด อีริคก็สามารถฆ่าอุรซูล่าได้ และมาริน่าก็ได้เสียงเพลงของเธอกลับคืนมา
หลังจากนั้น อีริคและมาริน่าก็แต่งงานกันและครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไป
-----
Q357
นิทานเรื่องเจ้าหญิงกับเกลือ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งอาศัยอยู่ในปราสาทอันงดงาม นางมีทุกสิ่งที่ปรารถนา ยกเว้นเกลือ
วันหนึ่ง ขณะที่นางกำลังเสวยอาหาร นางรู้สึกว่าอาหารขาดรสชาติ นางจึงสั่งให้คนรับใช้ไปหามาให้ แต่คนรับใช้กลับมาพร้อมมือเปล่า เพราะในอาณาจักรไม่มีเกลือเหลือแล้ว
เจ้าหญิงโศกเศร้ามาก นางไม่สามารถจินตนาการถึงชีวิตที่ปราศจากเกลือได้ นางจึงประกาศว่าจะแต่งงานกับชายใดก็ตามที่สามารถนำเกลือมาให้ได้
ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วอาณาจักร ชายหนุ่มมากมายต่างเดินทางมาเพื่อเสนอเกลือให้เจ้าหญิง แต่ไม่มีใครนำเกลือมาได้เลย
ในที่สุด ชายหนุ่มยากจนคนหนึ่งชื่อจอห์นได้ยินเรื่องราวของเจ้าหญิง เขาตัดสินใจเดินทางไปยังอาณาจักรข้างเคียงเพื่อหาเกลือ
จอห์นเดินทางเป็นเวลาหลายวันจนกระทั่งมาถึงอาณาจักรข้างเคียง เขาพบเหมืองเกลือเก่าแก่แห่งหนึ่งและสามารถขุดเกลือออกมาได้จำนวนมาก
จอห์นรีบเดินทางกลับไปยังอาณาจักรของเจ้าหญิงและนำเกลือไปให้เจ้าหญิง
เจ้าหญิงดีใจมาก นางแต่งงานกับจอห์นและพวกเขาก็ครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไป
ตั้งแต่นั้นมา เกลือก็กลายเป็นสิ่งที่มีค่าในอาณาจักร และผู้คนก็ไม่ลืมเรื่องราวของเจ้าหญิงกับเกลืออีกเลย
-----
Q358
นิทานเรื่องอะลาดินกับตะเกียงวิเศษ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในดินแดนแห่งตะวันออกอันไกลโพ้น มีเด็กหนุ่มยากจนชื่ออะลาดิน อาศัยอยู่ในเมืองแอ็กราบาห์ อะลาดินเป็นเด็กกำพร้าที่ต้องพึ่งพาการขอทานเพื่อเลี้ยงชีพ วันหนึ่ง ขณะที่อะลาดินกำลังเดินไปตามถนน เขาได้พบกับชายชราลึกลับที่อ้างว่าเป็นลุงของเขา ชายชราคนนั้นบอกอะลาดินว่าเขามีสมบัติล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ในถ้ำลึกลับ และเขาต้องการให้อะลาดินไปนำสมบัติเหล่านั้นมาให้
อะลาดินตกลงที่จะช่วยชายชรา และทั้งคู่ก็เดินทางไปยังถ้ำด้วยกัน เมื่อพวกเขามาถึงถ้ำ ชายชราได้มอบตะเกียงน้ำมันเก่าๆ ให้กับอะลาดิน และบอกให้เขาถูตะเกียงเพื่อเรียกยักษ์จินนี่ออกมา อะลาดินทำตามที่ชายชราบอก และทันใดนั้น ยักษ์จินนี่ตัวใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา ยักษ์จินนี่บอกอะลาดินว่าเขาจะทำให้ความปรารถนาสามข้อของอะลาดินเป็นจริง
อะลาดินดีใจมาก เขาใช้ความปรารถนาข้อแรกเพื่อขออาหารและเสื้อผ้าใหม่ๆ ความปรารถนาข้อที่สองเพื่อขอวังที่สวยงาม และความปรารถนาข้อสุดท้ายเพื่อขอให้แต่งงานกับเจ้าหญิงจัสมิน ธิดาของสุลต่านแห่งแอ็กราบาห์ ยักษ์จินนี่ทำให้ความปรารถนาของอะลาดินเป็นจริงทั้งหมด และอะลาดินก็กลายเป็นเจ้าชายหนุ่มที่ร่ำรวยและมีอำนาจ
อย่างไรก็ตาม ชายชราลึกลับไม่ใช่ลุงของอะลาดินจริงๆ เขาเป็นพ่อมดชั่วร้ายที่ต้องการใช้ตะเกียงเพื่อครอบครองโลก พ่อมดได้ขโมยตะเกียงจากอะลาดินและใช้ความปรารถนาของเขาเพื่อทำให้ตัวเองกลายเป็นสุลต่านแห่งแอ็กราบาห์ อะลาดินต้องต่อสู้กับพ่อมดเพื่อนำตะเกียงกลับคืนมา และในที่สุดก็สามารถเอาชนะพ่อมดได้
อะลาดินได้ตะเกียงกลับคืนมา และเขาก็ใช้ความปรารถนาสุดท้ายของเขาเพื่อปลดปล่อยยักษ์จินนี่ให้เป็นอิสระ ยักษ์จินนี่ขอบคุณอะลาดินสำหรับความเมตตาของเขา และสัญญาว่าจะช่วยเหลืออะลาดินตลอดไป อะลาดินและเจ้าหญิงจัสมินแต่งงานกันและครองราชย์อย่างมีความสุขตลอดไป
-----
Q359
นิทานเรื่องแจ็คผู้ฆ่ายักษ์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายยากจนชื่อแจ็ค เขาอาศัยอยู่กับแม่ในกระท่อมหลังเล็กๆ พวกเขามีวัวตัวหนึ่งชื่อแม่วัวนม แต่แม่วัวนมแก่แล้วและไม่ให้นมอีกต่อไป แจ็คจึงต้องขายแม่วัวนมเพื่อนำเงินมาซื้ออาหาร
แจ็คพาแม่วัวนมไปที่ตลาด แต่ไม่มีใครอยากซื้อแม่วัวนมแก่ๆ เขาเศร้าใจมาก ขณะที่กำลังจะกลับบ้าน แจ็คได้พบกับชายแปลกหน้า ชายแปลกหน้าเสนอจะแลกถั่ววิเศษกับแม่วัวนม แจ็คไม่แน่ใจ แต่ชายแปลกหน้าก็ยืนกราน แจ็คจึงยอมแลก
แจ็คกลับบ้านไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แม่ฟัง แม่โกรธมากและโยนถั่ววิเศษออกนอกหน้าต่าง แจ็คเศร้าใจมากที่แม่โกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เช้าวันรุ่งขึ้น แจ็คตื่นขึ้นมาและพบว่าถั่ววิเศษที่แม่โยนออกไปงอกเป็นต้นถั่วขนาดยักษ์ ต้นถั่วสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า แจ็คจึงปีนขึ้นไปตามต้นถั่ว
แจ็คปีนขึ้นไปจนถึงยอดต้นถั่วและพบว่ามีปราสาทขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เขาแอบเข้าไปในปราสาทและพบว่ามีห้องโถงใหญ่โต มีโต๊ะอาหารตั้งอยู่ และมีหญิงสาวสวยคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่
หญิงสาวบอกกับแจ็คว่านี่คือปราสาทของยักษ์ และยักษ์กำลังออกไปล่าสัตว์ แจ็คจึงซ่อนตัวอยู่ในตู้กับข้าว
เมื่อยักษ์กลับมาถึงปราสาท มันก็ได้กลิ่นมนุษย์ มันโกรธมากและตะโกนว่า "ฟี่ ฟาย โฟ แฟม ฉันได้กลิ่นเลือดมนุษย์"
หญิงสาวรีบซ่อนแจ็คไว้ในเตาผิง ยักษ์ค้นหาทั่วปราสาทแต่ก็ไม่พบแจ็ค มันจึงนั่งลงที่โต๊ะอาหารและกินอาหารมื้อใหญ่
หลังจากที่ยักษ์กินเสร็จ มันก็ขึ้นไปนอนบนเตียงของมัน แจ็คจึงออกมาจากเตาผิงและขโมยถุงทองของยักษ์ไป
แจ็คปีนลงจากต้นถั่วและกลับบ้านไปหาแม่ เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แม่ฟังและมอบถุงทองให้แม่ แม่ดีใจมากและพวกเขาก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดมา
-----
Q360
นิทานเรื่องแก้วหน้าม้า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงสาวผู้หนึ่งชื่อแก้วหน้าม้า นางมีรูปโฉมงดงามมาก แต่มีนิสัยขี้เกียจและไม่ชอบทำงาน วันหนึ่งนางได้พบกับชายหนุ่มรูปงามชื่อแก้วหน้าใส ชายหนุ่มได้ตกหลุมรักในความงามของนางและได้มาสู่ขอแต่งงานกับนาง
หลังจากแต่งงานแล้ว แก้วหน้าม้าก็ยังคงขี้เกียจเหมือนเดิม นางไม่ยอมทำงานบ้านหรือทำอาหารให้สามีรับประทาน แก้วหน้าใสต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวเพียงลำพัง วันหนึ่งแก้วหน้าใสได้ออกไปทำงานในป่า นางก็ได้แอบตามไปด้วย
ในป่าแก้วหน้าม้าได้พบกับยักษ์ตนหนึ่ง ยักษ์ได้หลงใหลในความงามของนางและได้ลักพานางไปยังถ้ำของตน แก้วหน้าใสได้ออกตามหานางจนทั่วป่าแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งวันหนึ่งนางได้พบกับฤๅษีตนหนึ่ง ฤๅษีได้บอกให้แก้วหน้าใสไปตามหานางที่ถ้ำของยักษ์
แก้วหน้าใสได้เดินทางไปยังถ้ำของยักษ์และได้ต่อสู้กับยักษ์จนชนะ แก้วหน้าใสได้ช่วยแก้วหน้าม้าออกมาจากถ้ำและทั้งสองก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
หลังจากนั้นแก้วหน้าม้าก็ได้สำนึกผิดในความขี้เกียจของตน นางได้ตั้งใจทำงานบ้านและทำอาหารให้สามีรับประทาน แก้วหน้าใสและแก้วหน้าม้าก็ได้ครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไป
-----
Q361
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น