รวมนิทานอ้ายจำเรียน
นิทานอ้ายจำเรียนตอนไปโรงเรียนแต่เช้า
สวัสดีค่ะนายท่าน นิทานเรื่องนี้มีชื่อว่า "อ้ายจำเรียน" ค่ะ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อว่า "อ้ายจำเรียน" เขาเป็นเด็กที่ขยันเรียนมาก แต่บ้านของเขานั้นยากจนมาก พ่อแม่ของเขาต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
เช้าวันหนึ่ง อ้ายจำเรียนตื่นแต่เช้าเพื่อไปโรงเรียน แต่ระหว่างทางไปโรงเรียน เขาก็ได้พบกับเพื่อนๆ ของเขาที่กำลังเล่นกันอยู่ริมถนน อ้ายจำเรียนอยากจะเข้าไปเล่นด้วย แต่เขาก็รู้ว่าเขาต้องไปโรงเรียนก่อน
อ้ายจำเรียนจึงรีบเดินไปโรงเรียน แต่ระหว่างทาง เขาก็ได้พบกับเด็กกลุ่มหนึ่งที่กำลังแกล้งเด็กตัวเล็กๆ อยู่ อ้ายจำเรียนรู้สึกสงสารเด็กตัวเล็กๆ คนนั้น จึงเข้าไปช่วยเหลือ
อ้ายจำเรียนต่อสู้กับเด็กกลุ่มนั้นจนได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็สามารถช่วยเหลือเด็กตัวเล็กๆ คนนั้นได้สำเร็จ เด็กตัวเล็กๆ คนนั้นขอบคุณอ้ายจำเรียน แล้วก็วิ่งกลับบ้านไป
อ้ายจำเรียนรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปโรงเรียนต่อ แต่เขาก็ไปถึงโรงเรียนสายไปแล้ว ครูจึงลงโทษอ้ายจำเรียนด้วยการให้ยืนหน้าชั้นเรียน
อ้ายจำเรียนรู้สึกเสียใจมากที่ทำให้ครูโกรธ แต่เขาก็รู้ว่าเขาทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ครูเห็นว่าอ้ายจำเรียนเป็นเด็กที่ขยันเรียนและมีน้ำใจ จึงยกโทษให้เขา
หลังจากนั้น อ้ายจำเรียนก็ยังคงไปโรงเรียนทุกวัน และยังคงขยันเรียนเหมือนเดิม เขาตั้งใจเรียนจนจบการศึกษา และได้เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถมากมาย
นิทานเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า การขยันเรียนและการมีน้ำใจเป็นสิ่งสำคัญมาก เราควรตั้งใจเรียนและช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่เราจะทำได้
-----
Q338
นิทานอ้ายจำเรียนผจญภัยในไร่อ้อย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายชื่ออ้ายจำเรียน เขาเป็นเด็กที่ขยันและฉลาด แต่ก็ซุกซนอยู่บ้าง วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนได้หนีออกจากบ้านไปเที่ยวเล่นในไร่อ้อยของหมู่บ้าน
ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังเดินเล่นอยู่ในไร่อ้อย เขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากกออ้อยข้างหน้า ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อ้ายจำเรียนจึงเดินเข้าไปดูอย่างระมัดระวัง
เมื่ออ้ายจำเรียนเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาก็เห็นงูเหลือมตัวใหญ่กำลังนอนขดตัวอยู่บนกออ้อย งูเหลือมตัวนั้นมีขนาดใหญ่โตมาก จนอ้ายจำเรียนถึงกับตกใจกลัว
อ้ายจำเรียนรู้ดีว่างูเหลือมเป็นสัตว์ที่อันตรายมาก เขาจึงรีบหาทางหนี แต่ก็สายเกินไปแล้ว งูเหลือมได้เลื้อยเข้ามาหาอ้ายจำเรียนอย่างรวดเร็ว
อ้ายจำเรียนตกใจกลัวมาก เขาพยายามวิ่งหนี แต่ก็ไม่สามารถวิ่งได้เร็วเท่ากับงูเหลือม งูเหลือมได้เลื้อยมาพันรอบตัวอ้ายจำเรียนอย่างแน่นหนา
อ้ายจำเรียนพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากการพันของงูเหลือม แต่ก็ไม่สามารถทำได้ งูเหลือมได้รัดตัวอ้ายจำเรียนแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนอ้ายจำเรียนหายใจไม่ออก
ในขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังจะหมดสติ งูเหลือมก็ได้คลายการพันออก และเลื้อยหนีไปอย่างรวดเร็ว อ้ายจำเรียนรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด
หลังจากนั้น อ้ายจำเรียนก็ได้กลับบ้านและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่ของอ้ายจำเรียนดีใจมากที่ลูกชายปลอดภัย แต่ก็ได้ตักเตือนอ้ายจำเรียนว่าไม่ควรหนีออกจากบ้านไปเที่ยวเล่นตามลำพังอีก
อ้ายจำเรียนได้จำบทเรียนในครั้งนี้เป็นอย่างดี เขาไม่เคยหนีออกจากบ้านไปเที่ยวเล่นตามลำพังอีกเลย และเขาก็ได้กลายเป็นเด็กที่เชื่อฟังพ่อแม่และไม่ซุกซนอีกต่อไป
-----
Q339
นิทานอ้ายจำเรียนตอนผจญภัยกับช้างในป่าเขาใหญ่
ในป่าเขาใหญ่อันกว้างใหญ่ไพศาล มีเด็กชายตัวน้อยชื่ออ้ายจำเรียน อาศัยอยู่กับพ่อแม่ในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้ป่า วันหนึ่งอ้ายจำเรียนอยากออกไปผจญภัยในป่า จึงขออนุญาตพ่อแม่และออกเดินทางเข้าไปในป่าแต่เช้าตรู่
อ้ายจำเรียนเดินลัดเลาะไปตามทางเดินเล็กๆ ในป่าลึกเข้าไปเรื่อยๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่และเสียงร้องของนกนานาชนิด อ้ายจำเรียนตื่นเต้นและสนุกกับการผจญภัยครั้งนี้
ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังเดินไปเรื่อยๆ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงกิ่งไม้หักดังเป๊าะ อ้ายจำเรียนตกใจและหยุดชะงัก หันไปมองรอบๆ ก็เห็นช้างตัวใหญ่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ช้างตัวนั้นมีงาใหญ่และหูที่กระพือปีกไปมา
อ้ายจำเรียนกลัวจนตัวสั่น แต่ก็พยายามตั้งสติและค่อยๆ เดินถอยหลังออกมา ช้างตัวนั้นก็เดินตามมาทีละก้าว อ้ายจำเรียนวิ่งหนีสุดชีวิต แต่ช้างตัวนั้นก็วิ่งตามมาไม่ลดละ
อ้ายจำเรียนวิ่งหนีจนเหนื่อยหอบและเริ่มหมดแรง ในที่สุดก็วิ่งไปจนถึงหน้าผาสูงชัน อ้ายจำเรียนมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นทางหนีอื่น จึงตัดสินใจกระโดดลงไปในแม่น้ำเบื้องล่าง
อ้ายจำเรียนว่ายน้ำไปจนถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย ช้างตัวนั้นก็หยุดอยู่ที่ริมหน้าผาและไม่ตามลงมา อ้ายจำเรียนดีใจมากที่รอดชีวิตมาได้ และรีบวิ่งกลับบ้านไปเล่าเรื่องการผจญภัยของตนให้พ่อแม่ฟัง
พ่อแม่ของอ้ายจำเรียนดีใจที่ลูกชายปลอดภัย แต่ก็เตือนว่าอย่าเข้าไปในป่าลึกคนเดียวอีก เพราะอาจเกิดอันตรายได้ อ้ายจำเรียนรับปากและสัญญาว่าจะไม่ประมาทอีกต่อไป
-----
Q340
นิทานอ้ายจำเรียนตอนผจญภัยในเหมือง
ในเหมืองอันมืดมิดและลึกลับ อ้ายจำเรียน นักสำรวจผู้กล้าหาญได้เริ่มต้นการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ของเขา
อ้ายจำเรียนสวมชุดเหมืองสีเทาและหมวกนิรภัย พร้อมตะเกียงที่ส่องแสงสลัวนำทางเขาไปในความมืด เขาเดินผ่านทางเดินแคบๆ ที่คดเคี้ยวและลาดชัน หลบหลีกหินก้อนใหญ่และน้ำที่หยดลงมาจากเพดาน
ขณะที่เขาเดินลึกลงไปในเหมือง อากาศก็เริ่มหนาวเย็นและชื้นขึ้น เสียงน้ำหยดก้องกังวานในความเงียบ อ้ายจำเรียนรู้สึกขนลุกซู่เมื่อเขาได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากที่ไหนสักแห่งในความมืด
เขาหยุดเดินและตั้งใจฟัง เสียงนั้นคล้ายกับเสียงหายใจหนักๆ และเสียงกรีดร้องแผ่วๆ อ้ายจำเรียนรู้สึกกลัว แต่ความอยากรู้อยากเห็นก็ชนะความกลัว เขาเดินตามเสียงไปอย่างระมัดระวัง
เมื่อเขาเลี้ยวเข้าไปในทางแยก เสียงก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันดังกว่าเดิมและมาจากด้านหลังเขา อ้ายจำเรียนหันกลับมาและเห็นเงาดำเคลื่อนไหวอยู่ในความมืด
เงาดำนั้นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งอ้ายจำเรียนมองเห็นได้ชัดเจน มันคือปีศาจเหมืองที่มีดวงตาสีแดงก่ำและเขี้ยวที่แหลมคม ปีศาจตัวนั้นคำรามใส่เขาและพุ่งเข้ามาโจมตี
อ้ายจำเรียนหลบหลีกการโจมตีของปีศาจอย่างว่องไว เขาใช้ตะเกียงของเขาเป็นอาวุธและฟาดใส่หัวปีศาจ ปีศาจร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและถอยกลับไป
อ้ายจำเรียนฉวยโอกาสนี้และวิ่งหนีไปตามทางเดิน เขาหันหลังกลับไปมองและเห็นปีศาจกำลังไล่ตามเขามาติดๆ อ้ายจำเรียนวิ่งสุดแรงเท่าที่จะทำได้
ในที่สุด เขาก็มาถึงทางแยกและหันไปเผชิญหน้ากับปีศาจอีกครั้ง เขาถือตะเกียงไว้ในมือและเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้
ปีศาจคำรามและพุ่งเข้ามาหาอ้ายจำเรียน แต่คราวนี้ อ้ายจำเรียนพร้อมแล้ว เขาใช้ตะเกียงฟาดใส่ปีศาจอีกครั้งและครั้งนี้ก็โดนเต็มแรง ปีศาจร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและล้มลงกับพื้น
อ้ายจำเรียนยืนอยู่เหนือปีศาจที่พ่ายแพ้และรู้สึกโล่งใจ เขาได้เอาชนะความกลัวและเอาชนะปีศาจเหมืองได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็เดินต่อไปตามทางเดินและในที่สุดก็พบทางออกจากเหมือง
เมื่ออ้ายจำเรียนกลับถึงบ้าน เขาเล่าเรื่องการผจญภัยของเขาให้เพื่อนๆ ฟัง พวกเขาต่างก็ชื่นชมความกล้าหาญและไหวพริบของเขา และตั้งแต่นั้นมา อ้ายจำเรียนก็กลายเป็นที่รู้จักในหมู่บ้านว่าเป็นนักสำรวจผู้กล้าหาญที่เอาชนะปีศาจเหมืองได้
-----
Q341
นิทานอ้ายจำเรียนไปดูบอลโลก
ในห้วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ส่องประกายเจิดจ้า ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งอันแสนคึกคัก มีหัวหน้าห้องผู้หนึ่งนามว่า "อ้ายจำเรียน" ซึ่งเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมห้องทั้งปวง ด้วยความเฉลียวฉลาด ปฏิภาณไหวพริบ และความเป็นผู้นำที่โดดเด่น
วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังนั่งตรวจการบ้านของเพื่อนๆ อยู่ในห้องเรียน ก็มีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาถึงเขา เมื่อเปิดอ่านดู อ้ายจำเรียนก็ถึงกับตาโตด้วยความตื่นเต้น เพราะจดหมายฉบับนั้นเป็นคำเชิญให้เขาและเพื่อนๆ นักเรียนทั้งห้องได้ไปร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศกาตาร์
อ้ายจำเรียนรีบนำจดหมายไปแจ้งให้เพื่อนๆ ทราบ ทุกคนต่างดีใจกันล้นหลาม เพราะนี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่พวกเขาจะได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
หลังจากเตรียมตัวกันอย่างพร้อมเพรียงแล้ว อ้ายจำเรียนก็พาเพื่อนๆ นักเรียนทั้งห้องเดินทางไปยังประเทศกาตาร์ เมื่อไปถึงสนามกีฬา พวกเขาก็ได้พบกับนักฟุตบอลชื่อดังมากมาย และได้ร่วมเชียร์ทีมโปรดของตนอย่างสนุกสนาน
การเดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ได้สร้างความทรงจำอันล้ำค่าให้กับอ้ายจำเรียนและเพื่อนๆ นักเรียนทุกคน พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง ได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษ และที่สำคัญที่สุดคือได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข
และนับจากวันนั้นเป็นต้นมา อ้ายจำเรียนและเพื่อนๆ ก็ได้เล่าขานเรื่องราวการผจญภัยครั้งนี้ให้กับรุ่นน้องฟังเสมอมา เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาตั้งใจเรียนและทำความดี เพื่อที่วันหนึ่งพวกเขาจะได้มีโอกาสไปสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
-----
Q342
นิทานอ้ายจำเรียนตื่นเต้นดูการแข่งขันฟุตบอล
ในห้วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ส่องประกายเจิดจ้า ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งอันแสนคึกคัก มีหัวหน้าห้องผู้หนึ่งนามว่า "อ้ายจำเรียน" ซึ่งเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมห้องทั้งปวง ด้วยความเฉลียวฉลาด ปฏิภาณไหวพริบ และความเป็นผู้นำที่โดดเด่น
วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังนั่งตรวจการบ้านของเพื่อนๆ อยู่ในห้องเรียน ก็มีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาถึงเขา เมื่อเปิดอ่านดู อ้ายจำเรียนก็ถึงกับตาโตด้วยความตื่นเต้น เพราะจดหมายฉบับนั้นเป็นคำเชิญให้เขาและเพื่อนๆ นักเรียนทั้งห้องได้ไปร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศกาตาร์
อ้ายจำเรียนรีบนำจดหมายไปแจ้งให้เพื่อนๆ ทราบ ทุกคนต่างดีใจกันล้นหลาม เพราะนี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่พวกเขาจะได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
หลังจากเตรียมตัวกันอย่างพร้อมเพรียงแล้ว อ้ายจำเรียนก็พาเพื่อนๆ นักเรียนทั้งห้องเดินทางไปยังประเทศกาตาร์ เมื่อไปถึงสนามกีฬา พวกเขาก็ได้พบกับนักฟุตบอลชื่อดังมากมาย และได้ร่วมเชียร์ทีมโปรดของตนอย่างสนุกสนาน
การเดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ได้สร้างความทรงจำอันล้ำค่าให้กับอ้ายจำเรียนและเพื่อนๆ นักเรียนทุกคน พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง ได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษ และที่สำคัญที่สุดคือได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข
และนับจากวันนั้นเป็นต้นมา อ้ายจำเรียนและเพื่อนๆ ก็ได้เล่าขานเรื่องราวการผจญภัยครั้งนี้ให้กับรุ่นน้องฟังเสมอมา เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาตั้งใจเรียนและทำความดี เพื่อที่วันหนึ่งพวกเขาจะได้มีโอกาสไปสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
-----
Q343
นิทานเรื่องมานะกับมานีไปตลาดสดกัน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพี่น้องสองคนชื่อ มานะและมานี พี่น้องคู่นี้เป็นลูกของชาวนาที่ยากจน พวกเขาอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆ หลังหนึ่งในชนบท
วันหนึ่ง มานะและมานีตัดสินใจไปตลาดสดเพื่อซื้อของใช้จำเป็น พวกเขามีเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
เมื่อพวกเขามาถึงตลาด พวกเขาก็ตกใจกับความวุ่นวายและผู้คนจำนวนมาก มานะและมานีเดินไปเดินมาเพื่อหาของที่พวกเขาต้องการ
ในที่สุด พวกเขาก็พบแผงขายผักที่ขายผักราคาถูก มานะและมานีจึงซื้อผักจำนวนมากเท่าที่เงินของพวกเขาจะซื้อได้
หลังจากนั้น พวกเขาก็ไปซื้อเนื้อสัตว์และของใช้จำเป็นอื่นๆ เมื่อพวกเขาซื้อของเสร็จแล้ว พวกเขาก็เตรียมตัวกลับบ้าน
ขณะที่พวกเขากำลังเดินกลับบ้าน พวกเขาก็เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นอยู่ริมถนน เด็กๆ เหล่านั้นดูมีความสุขและสนุกสนาน
มานะและมานีรู้สึกอิจฉาเด็กๆ เหล่านั้น พวกเขาอยากจะเล่นด้วย แต่พวกเขาก็ต้องรีบกลับบ้านเพื่อช่วยพ่อแม่ทำงาน
เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน พวกเขาก็เล่าให้พ่อแม่ฟังเกี่ยวกับการเดินทางไปตลาดสด พ่อแม่ของพวกเขาก็ภูมิใจในตัวพวกเขาที่สามารถซื้อของที่จำเป็นได้
มานะและมานีเป็นเด็กที่ขยันและอดทน พวกเขาไม่เคยบ่นเกี่ยวกับความยากจนของพวกเขา พวกเขารู้ว่าถ้าพวกเขาทำงานหนัก พวกเขาก็จะสามารถมีชีวิตที่ดีได้
-----
Q306
นิทานเรื่องมานะกับมานีเจอลูกเจี๊ยบไก่ในป่า
ในป่าอันกว้างใหญ่ มีลูกเจี๊ยบไก่ตัวน้อยหลงทางอยู่ มันร้องเจี๊ยบๆ ด้วยความกลัวและหิวโหย
ขณะที่ลูกเจี๊ยบไก่กำลังเดินไปเรื่อยๆ มันก็ได้ยินเสียงฝีเท้า มานะและมานีสองพี่น้องกำลังเดินผ่านมา ลูกเจี๊ยบไก่รีบวิ่งไปหาพวกเขาและร้องเจี๊ยบๆ ขอความช่วยเหลือ
มานะและมานีรู้สึกสงสารลูกเจี๊ยบไก่ พวกเขาจึงพามันกลับบ้านไปด้วย พวกเขาเลี้ยงดูมันอย่างดี ให้ข้าวให้น้ำ และหาที่นอนที่อบอุ่นให้
ลูกเจี๊ยบไก่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงและร่าเริง มันกลายเป็นเพื่อนที่ดีของมานะและมานี พวกเขาเล่นด้วยกันทุกวันและแบ่งปันความสุขร่วมกัน
วันหนึ่ง ขณะที่มานะและมานีกำลังเล่นกับลูกเจี๊ยบไก่ในสวน พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องของแม่ไก่ ลูกเจี๊ยบไก่ได้ยินเสียงแม่ก็รีบวิ่งไปหาทันที
แม่ไก่ดีใจมากที่ได้พบลูกของตัวเองอีกครั้ง มันกอดลูกเจี๊ยบไก่ไว้แน่นและไม่ยอมปล่อย มานะและมานียิ้มด้วยความสุข พวกเขารู้ว่าลูกเจี๊ยบไก่ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว
จากนั้น มานะและมานีก็โบกมือลาลูกเจี๊ยบไก่และแม่ไก่ พวกเขาดูพวกมันเดินจากไปด้วยความอบอุ่นใจ พวกเขารู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือลูกเจี๊ยบไก่ และพวกเขาก็จะไม่มีวันลืมมิตรภาพที่พวกเขามีร่วมกัน
-----
Q307
นิทานเรื่องเด็กชายวีระเจอลิงมีนามว่าเจ้าจ๋อ
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อวีระ เขาเป็นเด็กที่ขยันและซื่อสัตย์ วันหนึ่ง ขณะที่วีระกำลังเดินผ่านป่า เขาก็ได้ยินเสียงร้องของลิงน้อย เขาจึงรีบวิ่งไปดู
เมื่อวีระไปถึง เขาก็เห็นลิงน้อยตัวหนึ่งติดอยู่ในกับดัก วีระสงสารลิงน้อยมาก จึงรีบช่วยมันออกมา ลิงน้อยตัวนั้นดีใจมากที่ได้เป็นอิสระ มันจึงวิ่งไปหาแม่ของมัน
แม่ของลิงน้อยขอบคุณวีระมากที่ช่วยลูกของมันไว้ และเพื่อเป็นการตอบแทน แม่ลิงจึงให้ลิงน้อยตัวนั้นไปอยู่กับวีระ วีระตั้งชื่อลิงน้อยตัวนั้นว่า "เจ้าจ๋อ"
วีระและเจ้าจ๋อเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขาเล่นด้วยกันทุกวัน เจ้าจ๋อเป็นลิงที่ฉลาดมาก มันสามารถช่วยวีระทำอะไรหลายๆ อย่างได้ เช่น เก็บผลไม้ หาเห็ด และหาหน่อไม้
วันหนึ่ง ขณะที่วีระและเจ้าจ๋อกำลังเดินเล่นอยู่ในป่า พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องของคนช่วยเหลือ วีระและเจ้าจ๋อรีบวิ่งไปดู พวกเขาเห็นชายชราคนหนึ่งนอนอยู่ที่พื้น ชายชราได้รับบาดเจ็บที่ขา
วีระและเจ้าจ๋อรีบช่วยชายชราพากลับบ้าน ชายชราขอบคุณวีระและเจ้าจ๋อมากที่ช่วยชีวิตเขาไว้ วีระและเจ้าจ๋อมีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น
วีระและเจ้าจ๋อเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมา พวกเขาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมีความสุขร่วมกันเสมอ
-----
Q308
นิทานเรื่องเด็กชายวีระกับเจ้าจ๋อ
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อวีระ เขาเป็นเด็กที่ขยันและซื่อสัตย์ วันหนึ่ง ขณะที่วีระกำลังเดินผ่านป่า เขาก็ได้ยินเสียงร้องของลิงน้อย เขาจึงรีบวิ่งไปดู
เมื่อวีระไปถึง เขาก็เห็นลิงน้อยตัวหนึ่งติดอยู่ในกับดัก วีระสงสารลิงน้อยมาก จึงรีบช่วยมันออกมา ลิงน้อยตัวนั้นดีใจมากที่ได้เป็นอิสระ มันจึงวิ่งไปหาแม่ของมัน
แม่ของลิงน้อยขอบคุณวีระมากที่ช่วยลูกของมันไว้ และเพื่อเป็นการตอบแทน แม่ลิงจึงให้ลิงน้อยตัวนั้นไปอยู่กับวีระ วีระตั้งชื่อลิงน้อยตัวนั้นว่า "เจ้าจ๋อ"
วีระและเจ้าจ๋อเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขาเล่นด้วยกันทุกวัน เจ้าจ๋อเป็นลิงที่ฉลาดมาก มันสามารถช่วยวีระทำอะไรหลายๆ อย่างได้ เช่น เก็บผลไม้ หาเห็ด และหาหน่อไม้
วันหนึ่ง ขณะที่วีระและเจ้าจ๋อกำลังเดินเล่นอยู่ในป่า พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องของคนช่วยเหลือ วีระและเจ้าจ๋อรีบวิ่งไปดู พวกเขาเห็นชายชราคนหนึ่งนอนอยู่ที่พื้น ชายชราได้รับบาดเจ็บที่ขา
วีระและเจ้าจ๋อรีบช่วยชายชราพากลับบ้าน ชายชราขอบคุณวีระและเจ้าจ๋อมากที่ช่วยชีวิตเขาไว้ วีระและเจ้าจ๋อมีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น
วีระและเจ้าจ๋อเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมา พวกเขาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมีความสุขร่วมกันเสมอ
-----
Q309
นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนทำบุญหวังผล
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มชื่ออ้ายจำเรียน เขาเป็นคนขยันขันแข็งและซื่อสัตย์ต่อนายจ้าง แต่เขาก็เป็นคนโลภและเห็นแก่ตัวอีกด้วย
วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพระภิกษุรูปหนึ่งที่สามารถอธิษฐานให้ผู้คนร่ำรวยได้ เขาจึงรีบไปหาพระภิกษุรูปนั้นและขอให้พระภิกษุช่วยอธิษฐานให้เขาด้วย
พระภิกษุรูปนั้นตกลงที่จะช่วยอ้ายจำเรียน แต่ท่านได้เตือนเขาว่า การทำบุญหวังผลนั้นไม่ดี และจะไม่นำมาซึ่งความสุขที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม อ้ายจำเรียนไม่ฟังคำเตือนของพระภิกษุ เขาเพียงต้องการรวยเท่านั้น พระภิกษุจึงอธิษฐานให้เขาตามที่ขอ
หลังจากนั้นไม่นาน อ้ายจำเรียนก็กลายเป็นคนร่ำรวย เขาได้เงินทองและทรัพย์สมบัติมากมาย แต่เขาก็ยังไม่พอใจ เขายังคงโลภและเห็นแก่ตัวอยู่
วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนได้ไปทำบุญที่วัด เขาได้บริจาคเงินจำนวนมากให้กับวัด แต่เขาก็ไม่ได้ทำด้วยใจที่บริสุทธิ์ เขามีแต่หวังว่าพระภิกษุจะอธิษฐานให้เขาร่ำรวยยิ่งขึ้นไปอีก
พระภิกษุรูปเดิมที่เคยอธิษฐานให้เขาเห็นความโลภและความเห็นแก่ตัวของอ้ายจำเรียน ท่านจึงไม่ยอมอธิษฐานให้เขาอีก
อ้ายจำเรียนโกรธมาก เขาคิดว่าพระภิกษุรูปนั้นทรยศต่อเขา เขาจึงสาปแช่งพระภิกษุและวัด
หลังจากนั้นไม่นาน อ้ายจำเรียนก็ประสบเคราะห์กรรม เขาสูญเสียเงินทองและทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขา เขาตกต่ำลงจนกลายเป็นขอทาน
อ้ายจำเรียนสำนึกผิดในสิ่งที่เขาได้ทำ เขาจึงกลับไปที่วัดและขอโทษพระภิกษุรูปนั้น พระภิกษุรูปนั้นให้อภัยเขาและสอนให้เขาเข้าใจความสำคัญของการทำบุญด้วยใจที่บริสุทธิ์
อ้ายจำเรียนได้เรียนรู้บทเรียนอันล้ำค่าในครั้งนี้ เขาเลิกเป็นคนโลภและเห็นแก่ตัว และเริ่มทำบุญด้วยใจที่บริสุทธิ์ เขาได้พบกับความสุขที่แท้จริงในที่สุด
-----
Q310
นิทานเรื่องลูกชายหนุนดวงมีนามว่าอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มรูปงามนามว่า อ้ายจำเรียน เขาเป็นลูกชายของเศรษฐีผู้มั่งคั่งในเมืองเชียงใหม่ อ้ายจำเรียนเป็นหนุ่มที่ฉลาดและขยันหมั่นเพียร แต่เขามีความลับที่ไม่เคยบอกใคร นั่นคือ เขาเป็นลูกชายของหนุนดวง นางฟ้าแห่งดวงจันทร์
วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังเดินเล่นอยู่ในป่า เขาก็ได้พบกับนางฟ้าตนหนึ่ง นางฟ้านั้นงดงามราวกับดวงจันทร์เต็มดวง นางเล่าให้อ้ายจำเรียนฟังว่า นางคือหนุนดวง มารดาของเขา และนางได้ลงมาจากสวรรค์เพื่อมาหาเขา อ้ายจำเรียนดีใจมากที่ได้พบมารดาของตน และเขาก็เล่าเรื่องราวชีวิตของเขาให้มารดาฟัง
หนุนดวงรู้สึกสงสารลูกชายของตนที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก นางจึงมอบของวิเศษ 3 อย่างให้แก่เขา ของวิเศษชิ้นแรกคือ หีบสมบัติที่เต็มไปด้วยทองคำและเพชรพลอย ของวิเศษชิ้นที่สองคือ ม้าวิเศษที่สามารถวิ่งได้เร็วกว่าลม และของวิเศษชิ้นสุดท้ายคือ กระจกวิเศษที่สามารถส่องเห็นทุกสิ่งในโลก
อ้ายจำเรียนนำของวิเศษทั้ง 3 กลับไปยังบ้านของเขา และใช้ของวิเศษเหล่านั้นเพื่อช่วยเหลือผู้คนในเมือง เชียงใหม่ เขากลายเป็นที่รักและเคารพของชาวเมือง และในที่สุด เขาก็ได้แต่งงานกับหญิงสาวที่เขารัก และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป
-----
Q
นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนทำความดีหวังผลสิ่งตอบแทน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มชื่ออ้ายจำเรียน เป็นคนขยันและซื่อสัตย์ วันหนึ่งขณะที่กำลังไถนาอยู่ อ้ายจำเรียนก็ได้ยินเสียงร้องของนางฟ้าจากสวรรค์ นางฟ้าบอกว่า "อ้ายจำเรียน เจ้าเป็นคนดีมาก เราจะให้พรสามประการแก่เจ้า"
อ้ายจำเรียนดีใจมาก เขาคิดว่าจะขอพรอะไรดี เขาจึงขอพรดังนี้
1. ข้าพเจ้าขอให้ข้าพเจ้าร่ำรวย
2. ข้าพเจ้าขอให้ข้าพเจ้ามีอำนาจ
3. ข้าพเจ้าขอให้ข้าพเจ้ามีภรรยาที่สวยที่สุดในโลก
นางฟ้าก็ประทานพรให้ตามที่อ้ายจำเรียนขอ
หลังจากนั้น อ้ายจำเรียนก็กลายเป็นคนร่ำรวย มีอำนาจ และมีภรรยาที่สวยที่สุดในโลก แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจ เขาคิดว่าเขายังต้องการสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย
เขาจึงไปหาหมอดู หมอดูบอกว่า "อ้ายจำเรียน เจ้าเป็นคนโลภมาก เจ้าจะต้องได้รับบทเรียน"
ทันใดนั้น อ้ายจำเรียนก็สูญเสียทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขา เขาถูกปลดจากตำแหน่ง และภรรยาของเขาก็ทิ้งเขาไป
อ้ายจำเรียนรู้สึกเสียใจมาก เขาตระหนักว่าเขาได้ทำผิดพลาด เขาจึงกลับไปหาหมอดูและขอให้หมอดูช่วยเหลือ
หมอดูบอกว่า "อ้ายจำเรียน เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะพอใจในสิ่งที่เจ้ามี เจ้าต้องทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน"
อ้ายจำเรียนก็ทำตามคำแนะนำของหมอดู เขาเริ่มทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน และในที่สุดเขาก็มีความสุขอีกครั้ง
-----
Q312
นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนเป็นพ่อศรีเรือนที่ดี
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มชื่อจำเรียน เขาเป็นคนขยันและฉลาด แต่เขาไม่เคยเรียนรู้วิธีการเป็นพ่อศรีเรือนที่ดีเลย
วันหนึ่ง จำเรียนแต่งงานกับหญิงสาวชื่อคำเอื้อย คำเอื้อยเป็นคนใจดีและขยัน แต่เธอไม่รู้วิธีทำอาหารหรือดูแลบ้าน
จำเรียนและคำเอื้อยจึงต้องเรียนรู้วิธีการเป็นพ่อศรีเรือนที่ดีด้วยกัน พวกเขาเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้วิธีทำอาหาร จากนั้นพวกเขาก็เรียนรู้วิธีทำความสะอาดบ้านและดูแลเสื้อผ้า
ในไม่ช้า จำเรียนและคำเอื้อยก็กลายเป็นพ่อศรีเรือนที่ดี พวกเขามีความสุขมากที่ได้ใช้เวลาร่วมกันและดูแลบ้านของตนเอง
นิทานเรื่องนี้สอนให้เราทราบว่า เราทุกคนสามารถเรียนรู้วิธีการเป็นพ่อศรีเรือนที่ดีได้ ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่หรือมีประสบการณ์มากแค่ไหน
-----
Q314
นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนเข้าเมืองลับแล
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มรูปงามนามว่า "อ้ายจำเรียน" อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและใฝ่หาความรู้ อ้ายจำเรียนจึงตัดสินใจออกเดินทางเข้าเมืองลับแล เมืองในตำนานที่เล่าขานกันว่าเป็นดินแดนแห่งความมหัศจรรย์และความลับ
ระหว่างทาง อ้ายจำเรียนได้พบกับสัตว์วิเศษมากมาย เช่น นกยักษ์ที่บินได้สูงเสียดฟ้า และเสือโคร่งที่มีเขาบนหัว เขาได้เรียนรู้ภาษาของสัตว์เหล่านี้และได้รู้จักกับความลับของป่าลึก
เมื่ออ้ายจำเรียนเดินทางมาถึงเมืองลับแล เขาพบว่าเมืองนี้ปกครองโดยกษัตริย์หนุ่มรูปงามนามว่า "ท้าวคำลือ" ท้าวคำลือต้อนรับอ้ายจำเรียนอย่างอบอุ่นและเล่าให้เขาฟังถึงความลับของเมืองลับแล
เมืองลับแลเป็นดินแดนที่ซ่อนตัวอยู่จากโลกภายนอก ผู้คนในเมืองนี้มีอายุยืนยาวและมีพลังวิเศษ พวกเขามีความรู้ในด้านเวทมนตร์และสามารถเสกคาถาได้
อ้ายจำเรียนได้ศึกษาเวทมนตร์และความลับของเมืองลับแลจากท้าวคำลือ เขาเรียนรู้วิธีการเสกคาถาและการใช้พลังวิเศษต่างๆ
หลังจากที่อยู่ในเมืองลับแลเป็นเวลาหลายปี อ้ายจำเรียนก็ตัดสินใจกลับบ้านเกิดของตน เขาใช้ความรู้และพลังวิเศษที่ได้เรียนรู้มาช่วยเหลือผู้คนในหมู่บ้านและทำให้หมู่บ้านเจริญรุ่งเรือง
ตั้งแต่นั้นมา เรื่องราวของอ้ายจำเรียนที่เข้าเมืองลับแลก็กลายเป็นตำนานที่เล่าขานกันมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเรื่องราวที่เล่าถึงความอยากรู้อยากเห็น ความใฝ่หาความรู้ และความมหัศจรรย์ของดินแดนที่ซ่อนตัวอยู่จากโลกภายนอก
-----
Q315
นิทานเรื่องเด็กหญิงมานีเป็นเพื่อนกับอ้ายจำเรียน
นิทานเรื่องเด็กหญิงมาแบ่งขนมให้กับอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อมาแบ่ง เธอเป็นเด็กที่ใจดีและชอบแบ่งปันของเล่นและขนมกับเพื่อนๆ ของเธอ วันหนึ่ง มาแบ่งได้ทำขนมแสนอร่อย เธอจึงตัดสินใจนำขนมไปแบ่งให้กับอ้ายจำเรียน เพื่อนบ้านของเธอที่เป็นคนยากจน
มาแบ่งเดินไปที่บ้านของอ้ายจำเรียน เธอเคาะประตูและอ้ายจำเรียนก็เปิดประตูออกมา เมื่อเห็นมาแบ่ง อ้ายจำเรียนก็ดีใจมากเพราะเขากำลังหิวพอดี มาแบ่งยื่นขนมให้กับอ้ายจำเรียน และอ้ายจำเรียนก็ขอบคุณเธออย่างจริงใจ
มาแบ่งและอ้ายจำเรียนนั่งคุยกันสักพักใหญ่ๆ มาแบ่งเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กับอ้ายจำเรียนฟัง ส่วนอ้ายจำเรียนก็เล่าเรื่องความยากลำบากของเขาให้กับมาแบ่งฟัง ทั้งสองคนคุยกันอย่างสนุกสนานจนลืมเวลาไปเลย
เมื่อถึงเวลาที่ต้องกลับบ้าน มาแบ่งก็บอกลาอ้ายจำเรียนและเดินกลับบ้านของเธอ เธอรู้สึกมีความสุขมากที่ได้แบ่งปันขนมกับอ้ายจำเรียนและได้ฟังเรื่องราวของเขา มาแบ่งตั้งใจว่าเธอจะแบ่งปันของเล่นและขนมกับเพื่อนๆ ของเธอต่อไป เพราะเธอรู้ว่าการแบ่งปันทำให้ทั้งผู้ให้และผู้รับมีความสุข
-----
Q317
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น