รวมนิทานมานี มานะชูใจ ปิติ
นิทานเรื่องเด็กชายอ้ายจำเรียนกับน้องชูใจไปโรงเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายสองคนชื่ออ้ายจำเรียนและน้องชูใจ ทั้งสองอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ และเป็นเพื่อนสนิทกันมาก วันหนึ่ง ทั้งสองตัดสินใจไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนในเมืองใกล้เคียง
เมื่อมาถึงโรงเรียน พวกเขาพบว่ามีเด็กนักเรียนจำนวนมากมาย ทั้งชายและหญิง อ้ายจำเรียนและน้องชูใจรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่
อ้ายจำเรียนเป็นเด็กที่ฉลาดและเรียนเก่ง เขาสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนน้องชูใจเป็นเด็กที่ขยันและตั้งใจเรียน แม้ว่าเขาจะเรียนไม่เก่งเท่าอ้ายจำเรียน แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่
ทั้งสองช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการเรียน อ้ายจำเรียนช่วยน้องชูใจในวิชาที่เขาไม่ถนัด ส่วนน้องชูใจช่วยอ้ายจำเรียนในวิชาที่เขาไม่ชอบ
วันหนึ่ง ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินกลับบ้านจากโรงเรียน พวกเขาเห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังแกล้งเด็กตัวเล็กๆ อ้ายจำเรียนและน้องชูใจรีบเข้าไปช่วยเหลือเด็กตัวเล็กๆ ทันที
เด็กกลุ่มนั้นโกรธมากที่อ้ายจำเรียนและน้องชูใจเข้ามาขวาง พวกเขาจึงรุมทำร้ายทั้งสอง แต่ด้วยความกล้าหาญและความสามัคคีของอ้ายจำเรียนและน้องชูใจ พวกเขาก็สามารถเอาชนะเด็กกลุ่มนั้นได้
หลังจากวันนั้น อ้ายจำเรียนและน้องชูใจก็กลายเป็นที่เคารพนับถือของเด็กๆ ในโรงเรียน ทุกคนรู้ว่าพวกเขาเป็นเด็กดีที่กล้าหาญและมีน้ำใจ
อ้ายจำเรียนและน้องชูใจเรียนจบจากโรงเรียนด้วยเกียรตินิยม ทั้งสองได้งานที่ดีและมีชีวิตที่มีความสุข
-----
Q297
นิทานเรื่องเรื่องประวัติชีวิตของอ้ายจำเรียนกำลังศึกษาชั้นป1
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายตัวเล็กๆ ชื่ออ้ายจำเรียน เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ กับพ่อแม่ของเขา อ้ายจำเรียนเป็นเด็กที่ขยันและฉลาดมาก เขาชอบเรียนหนังสือและมักจะได้เกรดดีๆ เสมอ
เมื่ออ้ายจำเรียนอายุได้ 6 ขวบ เขาก็ได้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนประจำหมู่บ้าน ครูของเขาเป็นคุณครูใจดีที่ชื่อคุณครูสมศรี คุณครูสมศรีชอบอ้ายจำเรียนมากเพราะเขาเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนและมีมารยาทดี
อ้ายจำเรียนเรียนหนังสือได้ดีมาก เขาเป็นเด็กที่ชอบอ่านหนังสือและมักจะถามคำถามคุณครูอยู่เสมอ เพื่อนๆ ในห้องเรียนก็ชอบอ้ายจำเรียนเพราะเขาเป็นเด็กที่ใจดีและชอบช่วยเหลือเพื่อนๆ
เมื่ออ้ายจำเรียนเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เขาก็ได้ขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เขาเรียนหนังสือได้ดีเช่นเดิมและยังคงเป็นเด็กที่ขยันและฉลาดเหมือนเดิม
อ้ายจำเรียนเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ด้วยเกรดเฉลี่ยที่ดีมาก เขาเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในชั้นเรียนและได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นประจำปี
หลังจากจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อ้ายจำเรียนก็ได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมในเมือง เขาเรียนหนังสือได้ดีเช่นเดิมและยังคงเป็นเด็กที่ขยันและฉลาดเหมือนเดิม
อ้ายจำเรียนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยเกรดเฉลี่ยที่ดีมาก เขาเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในชั้นเรียนและได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นประจำปี
หลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อ้ายจำเรียนก็ได้เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เขาเรียนหนังสือได้ดีเช่นเดิมและยังคงเป็นเด็กที่ขยันและฉลาดเหมือนเดิม
อ้ายจำเรียนเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เขาเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในรุ่นและได้รับรางวัลนักศึกษาดีเด่นประจำปี
หลังจากจบมหาวิทยาลัย อ้ายจำเรียนก็ได้งานทำในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เขาทำงานได้ดีมากและเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน
อ้ายจำเรียนเป็นเด็กที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมาก เขาเป็นเด็กที่ขยันและฉลาดมาตั้งแต่เด็กๆ และไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เขาเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ คนอื่นๆ และเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างแท้จริง
-----
Q286
นิทานเรื่องเรื่องมานะมานี
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงสาวสองคนชื่อมานะและมานีอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ มานะเป็นคนขยันและทำงานหนัก เธอตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อไปทำงานในไร่ของเธอและทำงานจนดึกดื่นทุกวัน ในทางกลับกัน มานีเป็นคนเกียจคร้านและหลงตัวเอง เธอใช้เวลาทั้งวันไปกับการนอนหลับและแต่งตัว
วันหนึ่ง เทวดาองค์หนึ่งได้ลงมาจากสวรรค์เพื่อทดสอบมานะและมานี เทวดาแปลงกายเป็นชายชราขอทานและไปขอความช่วยเหลือจากทั้งสองสาว มานะรู้สึกสงสารชายชราและให้ข้าวและน้ำแก่เขา ในขณะที่มานีไล่เขาออกไปอย่างหยาบคาย
เพื่อเป็นรางวัลสำหรับความเมตตาของเธอ เทวดาได้มอบเมล็ดถั่ววิเศษให้กับมานะ เมล็ดถั่วเหล่านี้สามารถงอกได้ในชั่วข้ามคืนและออกผลเป็นทองคำ มานะปลูกเมล็ดถั่วในสวนของเธอและในไม่ช้าเธอก็กลายเป็นหญิงสาวที่ร่ำรวยที่สุดในหมู่บ้าน
ในทางกลับกัน มานีก็อิจฉาความโชคดีของมานะ เธอจึงไปหาเทวดาและขอเมล็ดถั่ววิเศษให้กับเธอเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เทวดาปฏิเสธที่จะให้เมล็ดถั่วแก่เธอเพราะเธอเป็นคนเกียจคร้านและเห็นแก่ตัว
มานีโกรธมากและสาปแช่งเทวดา เทวดาโกรธและสาปแช่งมานีให้กลายเป็นกบ มานีตกใจกลัวและวิ่งหนีไปซ่อนตัวในบ่อน้ำ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มานะก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมั่งคั่ง ในขณะที่มานีก็ยังคงเป็นกบในบ่อน้ำจนถึงทุกวันนี้
-----
Q287
นิทานเรื่องไปดำนากับมานีมานะอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพี่น้องสามคนชื่อ ไปดำ นามาน และมานะ อ้ายจำเรียน พี่ชายคนโตเป็นคนขี้เกียจ ไม่ชอบทำงาน ส่วนน้องชายสองคนเป็นคนขยันขันแข็ง ช่วยพ่อแม่ทำงานทุกอย่าง
วันหนึ่ง พ่อแม่ของสามพี่น้องต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน จึงสั่งให้ลูกชายทั้งสามไปดำนา พี่ชายคนโตได้ยินดังนั้นก็แกล้งทำเป็นป่วย ไม่ยอมไปทำงาน น้องชายทั้งสองจึงต้องไปดำนาเพียงลำพัง
ไปดำกับนามานทำงานอย่างขยันขันแข็ง ตั้งแต่เช้าจรดเย็น โดยไม่บ่นสักคำ แต่พอตกเย็น พี่ชายคนโตกลับแกล้งทำเป็นหายป่วย แล้วรีบไปช่วยน้องชายดำนา เพื่อหวังจะเอาหน้ากับพ่อแม่
เมื่อพ่อแม่กลับมาเห็นลูกชายทั้งสามทำงานเสร็จเรียบร้อย ก็รู้สึกดีใจและภูมิใจในตัวน้องชายทั้งสอง แต่กลับรู้สึกโกรธและผิดหวังในตัวพี่ชายคนโตที่ขี้เกียจและไม่รับผิดชอบ
จากนั้นเป็นต้นมา พ่อแม่ก็ไม่ไว้ใจพี่ชายคนโตอีกต่อไป และมอบหมายให้น้องชายทั้งสองเป็นคนดูแลกิจการของครอบครัว ส่วนพี่ชายคนโตก็ต้องออกไปหางานทำเอง แต่ด้วยความขี้เกียจของเขา จึงไม่มีใครอยากรับเขาเข้าทำงาน
ในที่สุด พี่ชายคนโตก็ต้องกลายเป็นคนยากจนและลำบาก ส่วนน้องชายทั้งสองก็ประสบความสำเร็จในชีวิต และมีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุข
-----
Q288
นิทานเรื่องไปเกี่ยวข้าวกับมานีมานะอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพี่น้อง 3 คนชื่อ มานี มานะ และอ้ายจำเรียน พวกเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ครอบครัวของพวกเขามีฐานะยากจน พวกเขาจึงต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงชีพ
วันหนึ่ง พ่อของพวกเขาบอกว่า "ลูกๆ ถึงเวลาที่เราจะต้องไปเกี่ยวข้าวแล้ว" พี่น้องทั้งสามจึงออกไปยังทุ่งนาพร้อมกับเคียวของพวกเขา
มานีเป็นพี่ชายคนโต เขาเป็นคนขยันและทำงานหนัก เขาเกี่ยวข้าวได้มากที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งสาม มานะเป็นน้องชายคนที่สอง เขาเป็นคนขี้เกียจและไม่ชอบทำงาน เขาเกี่ยวข้าวได้น้อยที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งสาม
อ้ายจำเรียนเป็นน้องสาวคนสุดท้อง เธอเป็นคนฉลาดและขยัน เธอเกี่ยวข้าวได้มากเป็นอันดับสองรองจากมานี
พวกเขาเกี่ยวข้าวกันจนถึงเย็น เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน พ่อของพวกเขาก็ถามว่า "ลูกๆ วันนี้เกี่ยวข้าวได้เท่าไหร่"
มานีตอบว่า "ผมเกี่ยวข้าวได้ 10 กำ"
มานะตอบว่า "ผมเกี่ยวข้าวได้ 5 กำ"
อ้ายจำเรียนตอบว่า "ฉันเกี่ยวข้าวได้ 8 กำ"
พ่อของพวกเขายิ้มและพูดว่า "ลูกๆ ทำได้ดีมาก"
จากนั้น พวกเขาก็แบ่งข้าวที่เกี่ยวได้กันอย่างเท่าๆ กัน พี่น้องทั้งสามมีความสุขที่ได้ทำงานร่วมกันและแบ่งปันผลของการทำงานหนักของพวกเขา
-----
Q289
นิทานเรื่องไปเที่ยวงานวัดกับมานีมานะอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายสามคนชื่อ มานี มานะ และอ้ายจำเรียน ทั้งสามเป็นเพื่อนรักกันมาก วันหนึ่งพวกเขาได้ยินข่าวว่าจะมีงานวัดที่วัดใกล้บ้าน พวกเขาจึงตกลงกันว่าจะไปเที่ยวงานวัดด้วยกัน
เมื่อถึงวันงานวัด ทั้งสามก็ชวนกันไปที่วัด พวกเขาตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเที่ยวงานวัด เพราะพวกเขาไม่เคยไปงานวัดมาก่อนเลย เมื่อไปถึงงานวัด พวกเขาก็เห็นของเล่นมากมาย อาหารอร่อยๆ และการละเล่นสนุกๆ มากมาย
มานี มานะ และอ้ายจำเรียนเล่นของเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเขากินอาหารอร่อยๆ จนอิ่มท้อง และพวกเขาก็เล่นการละเล่นสนุกๆ จนเหนื่อยล้า
เมื่อถึงเวลาเย็น พวกเขาก็กลับบ้านด้วยความสุข พวกเขาเล่าให้พ่อแม่ฟังว่าพวกเขาไปเที่ยวงานวัดมา และพวกเขาก็สนุกมาก
พ่อแม่ของพวกเขาก็ดีใจที่พวกเขาสนุกกับงานวัด และพวกเขาก็สัญญากับพวกเขาว่าจะพาพวกเขาไปเที่ยวงานวัดอีกครั้งในปีหน้า
-----
Q2
นิทานเรื่องเรื่องของเด็กชายมานะ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อมานะ เขาเป็นเด็กที่ขยันและไม่เคยย่อท้อต่อความยากลำบากใดๆ วันหนึ่งขณะที่มานะกำลังเดินไปโรงเรียน เขาเห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังแกล้งเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง มานะไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไปช่วยเด็กคนนั้นทันที
เด็กกลุ่มนั้นตัวใหญ่กว่ามานะมาก แต่ด้วยความมานะอดทนของมานะ เขาจึงสามารถช่วยเด็กคนนั้นออกมาได้สำเร็จ เด็กๆ กลุ่มนั้นรู้สึกละอายใจมากที่แพ้เด็กตัวเล็กๆ อย่างมานะ จึงรีบวิ่งหนีไป
หลังจากนั้น มานะก็กลายเป็นที่รู้จักในหมู่เพื่อนๆ ว่าเป็นเด็กที่กล้าหาญและไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากใดๆ ไม่ว่าจะเจออุปสรรคใดๆ มานะก็จะพยายามเอาชนะมันให้ได้เสมอ
วันหนึ่ง ขณะที่มานะกำลังเดินกลับบ้านจากโรงเรียน เขาเห็นไฟไหม้บ้านหลังหนึ่ง มานะไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไปช่วยคนในบ้านทันที
ด้วยความกล้าหาญและความมานะของมานะ เขาจึงสามารถช่วยคนในบ้านออกมาได้สำเร็จ คนในบ้านรู้สึกขอบคุณมานะมากที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้
หลังจากนั้น มานะก็กลายเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวบ้านว่าเป็นเด็กที่กล้าหาญและไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากใดๆ ไม่ว่าจะเจออุปสรรคใดๆ มานะก็จะพยายามเอาชนะมันให้ได้เสมอ
และด้วยความมานะอดทนของมานะ ในที่สุดเขาก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างที่ตั้งใจไว้
-----
Q291
นิทานเรื่องเด็กชายวีระกับเด็กชชายอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายสองคนชื่อวีระและอ้ายจำเรียน ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันมาก พวกเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง
วันหนึ่ง ขณะที่วีระและอ้ายจำเรียนกำลังเล่นอยู่ในป่า พวกเขาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ พวกเขารีบวิ่งไปตามเสียงนั้นและพบเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งกำลังร้องไห้อยู่
เด็กหญิงเล่าให้วีระและอ้ายจำเรียนฟังว่า เธอหลงทางในป่าและหาทางกลับบ้านไม่เจอ วีระและอ้ายจำเรียนจึงตัดสินใจช่วยเธอหาทางกลับบ้าน
พวกเขาพาเด็กหญิงเดินไปตามเส้นทางต่างๆ แต่ก็ไม่พบทางกลับบ้านเสียที พวกเขาเริ่มหมดหวังและเหนื่อยล้า
ในขณะที่พวกเขากำลังจะถอดใจ วีระก็สังเกตเห็นรอยเท้าเล็กๆ บนพื้น เขาชี้ให้เพื่อนๆ ดู และพวกเขาก็ตัดสินใจเดินตามรอยเท้านั้น
พวกเขาเดินตามรอยเท้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงกระท่อมหลังเล็กๆ หลังหนึ่ง เด็กหญิงร้องไห้ด้วยความดีใจเมื่อเธอรู้ว่านั่นคือบ้านของเธอ
วีระและอ้ายจำเรียนดีใจที่ได้ช่วยเด็กหญิงหาทางกลับบ้าน พวกเขากลับไปที่หมู่บ้านและเล่าเรื่องราวของพวกเขาให้ทุกคนฟัง
ตั้งแต่นั้นมา วีระและอ้ายจำเรียนก็กลายเป็นวีรบุรุษของหมู่บ้าน ทุกคนชื่นชมพวกเขาในความกล้าหาญและความมีน้ำใจของพวกเขา
-----
Q292
นิทานเรื่องเด็กชายปิติมีลูกม้าตั้งชื่อว่านิล
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายชื่อปิติ เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ปิติเป็นเด็กชายที่ขยันขันแข็งและมีจิตใจดี เขาชอบช่วยเหลือผู้อื่นและรักสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ
วันหนึ่ง ขณะที่ปิติกำลังเดินเล่นอยู่ในทุ่งหญ้า เขาก็ได้ยินเสียงร้องของลูกม้าตัวเล็กๆ ปิติรีบวิ่งไปยังต้นเสียงและพบลูกม้าตัวน้อยนอนอยู่บนพื้น หายใจรวยริน ปิติรู้ทันทีว่าลูกม้าตัวนี้ต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน
ปิติอุ้มลูกม้าตัวน้อยกลับบ้านและดูแลมันอย่างดี เขาทำความสะอาดแผลและให้อาหารลูกม้าอย่างอ่อนโยน ลูกม้าตัวน้อยค่อยๆ แข็งแรงขึ้นและกลายเป็นเพื่อนซี้ของปิติ ปิติตั้งชื่อลูกม้าตัวนี้ว่า "นิล" เพราะขนของมันมีสีดำสนิทเหมือนกับสีของกลางคืน
ปิติและนิลกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขาใช้เวลาร่วมกันทุกวัน ปิติจะขี่นิลไปยังทุ่งหญ้าและเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน นิลเป็นลูกม้าที่ซื่อสัตย์และฉลาด มันคอยปกป้องปิติจากอันตรายและไม่เคยทิ้งปิติไปไหนเลย
ปีติและนิลเติบโตขึ้นมาด้วยกัน พวกเขากลายเป็นเพื่อนที่แยกจากกันไม่ได้ ปิติรักนิลเหมือนกับน้องชายของตัวเอง และนิลก็รักปิติเหมือนกับพี่ชายของตัวเองเช่นกัน
นิทานเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่ามิตรภาพเป็นสิ่งที่มีค่ามาก และเราควรดูแลเพื่อนของเราเหมือนกับที่เราดูแลตัวเอง
-----
Q293
นิทานเรื่องของเด็กชายวีระกับเจ้าจ๋อจอมชน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายชื่อวีระ เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ กับพ่อแม่ของเขา วีระเป็นเด็กที่ขยันและซื่อสัตย์ เขาชอบช่วยพ่อแม่ทำงานในไร่และเลี้ยงสัตว์
วันหนึ่ง ขณะที่วีระกำลังเลี้ยงควายอยู่ริมป่า เขาก็ได้ยินเสียงร้องของสุนัข วีระเดินตามเสียงไปจนกระทั่งพบลูกสุนัขตัวน้อยนอนอยู่ใต้ต้นไม้ ลูกสุนัขตัวนั้นบาดเจ็บที่ขาและดูอ่อนแอมาก วีระรู้สึกสงสารจึงอุ้มลูกสุนัขกลับบ้านไปด้วย
วีระตั้งชื่อลูกสุนัขตัวนั้นว่า "จ๋อ" จ๋อเป็นสุนัขที่ฉลาดและซื่อสัตย์มาก มันกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของวีระ ทั้งสองเล่นด้วยกันทุกวันและจ๋อก็คอยปกป้องวีระจากอันตราย
วันหนึ่ง ขณะที่วีระและจ๋อกำลังเล่นอยู่ในป่า พวกเขาก็ได้ยินเสียงคำรามของเสือ วีระตกใจมากและวิ่งหนีไป แต่จ๋อกลับวิ่งเข้าไปหาเสือเพื่อปกป้องวีระ เสือคำรามใส่จ๋อและพยายามจะทำร้ายมัน แต่จ๋อก็ไม่ยอมแพ้ มันเห่าใส่เสือและพยายามกัดเสือ
เสือโกรธมากและพยายามจะฆ่าจ๋อ แต่จ๋อก็ต่อสู้กลับอย่างกล้าหาญ ในที่สุด เสือก็ยอมแพ้และวิ่งหนีไป วีระวิ่งเข้ามาหาจ๋อและกอดมันไว้แน่น จ๋อได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ วีระพาจ๋อกลับบ้านและดูแลมันจนหายดี
หลังจากนั้น วีระและจ๋อก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดกันตลอดไป พวกเขาผจญภัยด้วยกันมากมายและจ๋อก็คอยปกป้องวีระจากอันตรายเสมอ
-----
Q294
นิทานเรื่องของเด็กชายเพชรฐานะยากจนไม่ได้เรียนหนังสือ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายยากจนคนหนึ่งชื่อเพชร เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ กับแม่ของเขา ครอบครัวของเขายากจนมากจนไม่มีเงินส่งเขาไปโรงเรียน
เพชรเป็นเด็กที่ฉลาดและอยากเรียนรู้มาก แต่เขาไม่มีโอกาส เขาจึงใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือทุกเล่มที่หาได้ในหมู่บ้าน
วันหนึ่ง ขณะที่เพชรกำลังอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาก็ได้ยินเสียงคนกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกัน พวกเขากำลังพูดถึงการแข่งขันที่กำลังจะจัดขึ้นในเมืองหลวง
การแข่งขันนี้เปิดให้ทุกคนเข้าร่วม และผู้ชนะจะได้รับรางวัลเป็นเงินจำนวนมาก เพชรฟังด้วยความสนใจ เขาคิดว่านี่อาจเป็นโอกาสของเขาที่จะได้เรียนหนังสือ
เพชรตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขัน เขาฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน และในที่สุดก็ถึงวันแข่งขัน เพชรทำได้ดีมากในทุกๆ รอบ และในที่สุดก็ชนะการแข่งขัน
เพชรได้รับรางวัลเป็นเงินจำนวนมาก และเขาก็ใช้เงินนั้นเพื่อส่งตัวเองไปโรงเรียน เขาเรียนหนักมากและในที่สุดก็กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง
เพชรไม่เคยลืมความยากลำบากที่เขาต้องเผชิญในวัยเด็ก และเขาก็ใช้ความรู้ของเขาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นที่ยากจนและด้อยโอกาส
-----
Q295
นิทานเรื่องเด็กหญิงมานีกับสุนัขคู่ใจมีนามว่าเจ้าโต
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อมานี เธออาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ กับพ่อแม่ของเธอ มานีเป็นเด็กที่ขยันและมีน้ำใจ เธอชอบช่วยเหลือผู้อื่นและรักสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ
วันหนึ่ง ขณะที่มานีกำลังเดินกลับบ้านจากโรงเรียน เธอได้ยินเสียงร้องของลูกสุนัขตัวน้อย เธอรีบวิ่งไปตามเสียงและพบลูกสุนัขตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างถนน ลูกสุนัขตัวนั้นดูหิวโหยและน่าสงสารมาก มานีจึงอุ้มลูกสุนัขตัวนั้นกลับบ้านไปด้วย
มานีตั้งชื่อลูกสุนัขตัวนั้นว่าเจ้าโต เธอเลี้ยงดูเจ้าโตด้วยความรักและเอาใจใส่ เธอแบ่งปันอาหารของเธอกับเจ้าโต และพาเจ้าโตไปเดินเล่นทุกวัน เจ้าโตกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมานี พวกเขาไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลา
วันหนึ่ง ขณะที่มานีและเจ้าโตกำลังเดินเล่นอยู่ในป่า พวกเขาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ มานีและเจ้าโตรีบวิ่งไปตามเสียงและพบชายชราคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น ชายชราคนนั้นได้รับบาดเจ็บที่ขาและไม่สามารถเดินได้
มานีและเจ้าโตช่วยชายชราคนนั้นพาไปที่บ้านของเธอ พวกเขาทำแผลให้ชายชราคนนั้นและให้ที่พักพิงแก่เขา ชายชราคนนั้นเล่าให้มานีฟังว่าเขาเป็นนักเดินทาง และกำลังเดินทางกลับบ้านเกิดของเขา
มานีและเจ้าโตดูแลชายชราคนนั้นเป็นอย่างดีจนกระทั่งเขาหายดี ชายชราคนนั้นขอบคุณมานีและเจ้าโตเป็นอย่างมาก และบอกว่าเขาจะไม่ลืมความเมตตาของพวกเขาตลอดไป
หลังจากนั้น ชายชราคนนั้นก็เดินทางกลับบ้านเกิดของเขาไป มานีและเจ้าโตยังคงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดกัน พวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยกันไปอีกนานแสนนาน
-----
Q296
นิทานเรื่องมานะกับมานีไปตลาดสดกัน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพี่น้องสองคนชื่อ มานะและมานี พี่น้องคู่นี้เป็นลูกของชาวนาที่ยากจน พวกเขาอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆ หลังหนึ่งในชนบท
วันหนึ่ง มานะและมานีตัดสินใจไปตลาดสดเพื่อซื้อของใช้จำเป็น พวกเขามีเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
เมื่อพวกเขามาถึงตลาด พวกเขาก็ตกใจกับความวุ่นวายและผู้คนจำนวนมาก มานะและมานีเดินไปเดินมาเพื่อหาของที่พวกเขาต้องการ
ในที่สุด พวกเขาก็พบแผงขายผักที่ขายผักราคาถูก มานะและมานีจึงซื้อผักจำนวนมากเท่าที่เงินของพวกเขาจะซื้อได้
หลังจากนั้น พวกเขาก็ไปซื้อเนื้อสัตว์และของใช้จำเป็นอื่นๆ เมื่อพวกเขาซื้อของเสร็จแล้ว พวกเขาก็เตรียมตัวกลับบ้าน
ขณะที่พวกเขากำลังเดินกลับบ้าน พวกเขาก็เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นอยู่ริมถนน เด็กๆ เหล่านั้นดูมีความสุขและสนุกสนาน
มานะและมานีรู้สึกอิจฉาเด็กๆ เหล่านั้น พวกเขาอยากจะเล่นด้วย แต่พวกเขาก็ต้องรีบกลับบ้านเพื่อช่วยพ่อแม่ทำงาน
เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน พวกเขาก็เล่าให้พ่อแม่ฟังเกี่ยวกับการเดินทางไปตลาดสด พ่อแม่ของพวกเขาก็ภูมิใจในตัวพวกเขาที่สามารถซื้อของที่จำเป็นได้
มานะและมานีเป็นเด็กที่ขยันและอดทน พวกเขาไม่เคยบ่นเกี่ยวกับความยากจนของพวกเขา พวกเขารู้ว่าถ้าพวกเขาทำงานหนัก พวกเขาก็จะสามารถมีชีวิตที่ดีได้
-----
Q306
นิทานเรื่องมานะกับมานีเจอลูกเจี๊ยบไก่ในป่า
ในป่าอันกว้างใหญ่ มีลูกเจี๊ยบไก่ตัวน้อยหลงทางอยู่ มันร้องเจี๊ยบๆ ด้วยความกลัวและหิวโหย
ขณะที่ลูกเจี๊ยบไก่กำลังเดินไปเรื่อยๆ มันก็ได้ยินเสียงฝีเท้า มานะและมานีสองพี่น้องกำลังเดินผ่านมา ลูกเจี๊ยบไก่รีบวิ่งไปหาพวกเขาและร้องเจี๊ยบๆ ขอความช่วยเหลือ
มานะและมานีรู้สึกสงสารลูกเจี๊ยบไก่ พวกเขาจึงพามันกลับบ้านไปด้วย พวกเขาเลี้ยงดูมันอย่างดี ให้ข้าวให้น้ำ และหาที่นอนที่อบอุ่นให้
ลูกเจี๊ยบไก่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงและร่าเริง มันกลายเป็นเพื่อนที่ดีของมานะและมานี พวกเขาเล่นด้วยกันทุกวันและแบ่งปันความสุขร่วมกัน
วันหนึ่ง ขณะที่มานะและมานีกำลังเล่นกับลูกเจี๊ยบไก่ในสวน พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องของแม่ไก่ ลูกเจี๊ยบไก่ได้ยินเสียงแม่ก็รีบวิ่งไปหาทันที
แม่ไก่ดีใจมากที่ได้พบลูกของตัวเองอีกครั้ง มันกอดลูกเจี๊ยบไก่ไว้แน่นและไม่ยอมปล่อย มานะและมานียิ้มด้วยความสุข พวกเขารู้ว่าลูกเจี๊ยบไก่ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว
จากนั้น มานะและมานีก็โบกมือลาลูกเจี๊ยบไก่และแม่ไก่ พวกเขาดูพวกมันเดินจากไปด้วยความอบอุ่นใจ พวกเขารู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือลูกเจี๊ยบไก่ และพวกเขาก็จะไม่มีวันลืมมิตรภาพที่พวกเขามีร่วมกัน
-----
Q307
นิทานเรื่องเด็กชายวีระเจอลิงมีนามว่าเจ้าจ๋อ
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อวีระ เขาเป็นเด็กที่ขยันและซื่อสัตย์ วันหนึ่ง ขณะที่วีระกำลังเดินผ่านป่า เขาก็ได้ยินเสียงร้องของลิงน้อย เขาจึงรีบวิ่งไปดู
เมื่อวีระไปถึง เขาก็เห็นลิงน้อยตัวหนึ่งติดอยู่ในกับดัก วีระสงสารลิงน้อยมาก จึงรีบช่วยมันออกมา ลิงน้อยตัวนั้นดีใจมากที่ได้เป็นอิสระ มันจึงวิ่งไปหาแม่ของมัน
แม่ของลิงน้อยขอบคุณวีระมากที่ช่วยลูกของมันไว้ และเพื่อเป็นการตอบแทน แม่ลิงจึงให้ลิงน้อยตัวนั้นไปอยู่กับวีระ วีระตั้งชื่อลิงน้อยตัวนั้นว่า "เจ้าจ๋อ"
วีระและเจ้าจ๋อเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขาเล่นด้วยกันทุกวัน เจ้าจ๋อเป็นลิงที่ฉลาดมาก มันสามารถช่วยวีระทำอะไรหลายๆ อย่างได้ เช่น เก็บผลไม้ หาเห็ด และหาหน่อไม้
วันหนึ่ง ขณะที่วีระและเจ้าจ๋อกำลังเดินเล่นอยู่ในป่า พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องของคนช่วยเหลือ วีระและเจ้าจ๋อรีบวิ่งไปดู พวกเขาเห็นชายชราคนหนึ่งนอนอยู่ที่พื้น ชายชราได้รับบาดเจ็บที่ขา
วีระและเจ้าจ๋อรีบช่วยชายชราพากลับบ้าน ชายชราขอบคุณวีระและเจ้าจ๋อมากที่ช่วยชีวิตเขาไว้ วีระและเจ้าจ๋อมีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น
วีระและเจ้าจ๋อเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมา พวกเขาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมีความสุขร่วมกันเสมอ
-----
Q308
นิทานเรื่องเด็กชายวีระกับเจ้าจ๋อ
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อวีระ เขาเป็นเด็กที่ขยันและซื่อสัตย์ วันหนึ่ง ขณะที่วีระกำลังเดินผ่านป่า เขาก็ได้ยินเสียงร้องของลิงน้อย เขาจึงรีบวิ่งไปดู
เมื่อวีระไปถึง เขาก็เห็นลิงน้อยตัวหนึ่งติดอยู่ในกับดัก วีระสงสารลิงน้อยมาก จึงรีบช่วยมันออกมา ลิงน้อยตัวนั้นดีใจมากที่ได้เป็นอิสระ มันจึงวิ่งไปหาแม่ของมัน
แม่ของลิงน้อยขอบคุณวีระมากที่ช่วยลูกของมันไว้ และเพื่อเป็นการตอบแทน แม่ลิงจึงให้ลิงน้อยตัวนั้นไปอยู่กับวีระ วีระตั้งชื่อลิงน้อยตัวนั้นว่า "เจ้าจ๋อ"
วีระและเจ้าจ๋อเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขาเล่นด้วยกันทุกวัน เจ้าจ๋อเป็นลิงที่ฉลาดมาก มันสามารถช่วยวีระทำอะไรหลายๆ อย่างได้ เช่น เก็บผลไม้ หาเห็ด และหาหน่อไม้
วันหนึ่ง ขณะที่วีระและเจ้าจ๋อกำลังเดินเล่นอยู่ในป่า พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องของคนช่วยเหลือ วีระและเจ้าจ๋อรีบวิ่งไปดู พวกเขาเห็นชายชราคนหนึ่งนอนอยู่ที่พื้น ชายชราได้รับบาดเจ็บที่ขา
วีระและเจ้าจ๋อรีบช่วยชายชราพากลับบ้าน ชายชราขอบคุณวีระและเจ้าจ๋อมากที่ช่วยชีวิตเขาไว้ วีระและเจ้าจ๋อมีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น
วีระและเจ้าจ๋อเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมา พวกเขาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมีความสุขร่วมกันเสมอ
-----
Q309
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น