นิทานบทเรียนภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่1_6

นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนได้มีเพื่อนใหม่
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายคนหนึ่งชื่ออ้ายจำ เขาเป็นเด็กที่ขยันเรียนและชอบอ่านหนังสือ วันหนึ่งขณะที่อ้ายจำกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุด เขาก็ได้พบกับเพื่อนใหม่ 4 คน ได้แก่ มานี มานะ ปิติ และชูใจ

มานีเป็นเด็กหญิงที่ฉลาดและชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ มานะเป็นเด็กชายที่แข็งแรงและชอบเล่นกีฬา ปิติเป็นเด็กหญิงที่ร่าเริงและชอบร้องเพลง ส่วนชูใจเป็นเด็กชายที่ใจดีและชอบช่วยเหลือผู้อื่น

อ้ายจำและเพื่อนใหม่ทั้งสี่กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขาชอบเรียนด้วยกัน เล่นด้วยกัน และช่วยเหลือกันเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือเรื่องอื่นๆ พวกเขาก็คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันเสมอ

วันหนึ่ง ขณะที่พวกเขากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุด ก็มีเด็กกลุ่มหนึ่งเข้ามาแกล้งพวกเขา เด็กกลุ่มนั้นหัวเราะเยาะพวกเขาและพูดจาดูถูกพวกเขา อ้ายจำและเพื่อนๆ รู้สึกเสียใจและโกรธมาก แต่พวกเขาก็อดทนและไม่โต้ตอบกับเด็กกลุ่มนั้น

เด็กกลุ่มนั้นเห็นว่าอ้ายจำและเพื่อนๆ ไม่โต้ตอบ ก็ยิ่งได้ใจ พวกเขาแกล้งหนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดอ้ายจำก็ทนไม่ไหว เขาจึงลุกขึ้นและพูดว่า "หยุดเถอะ พวกคุณไม่ควรแกล้งพวกเราแบบนี้"

เด็กกลุ่มนั้นหัวเราะเยาะอ้ายจำและพูดว่า "ทำไม เราจะแกล้งก็ได้นี่"

อ้ายจำพูดว่า "เพราะว่าการแกล้งคนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่ดี มันทำให้คนอื่นรู้สึกเสียใจและเจ็บปวด"

เด็กกลุ่มนั้นไม่ฟังอ้ายจำ พวกเขายังคงแกล้งอ้ายจำและเพื่อนๆ ต่อไป อ้ายจำและเพื่อนๆ รู้สึกเสียใจและโกรธมาก แต่พวกเขาก็ยังอดทนและไม่โต้ตอบกับเด็กกลุ่มนั้น

ในที่สุด เด็กกลุ่มนั้นก็เบื่อที่จะแกล้งอ้ายจำและเพื่อนๆ พวกเขาจึงเดินจากไป อ้ายจำและเพื่อนๆ โล่งใจมาก พวกเขากลับไปอ่านหนังสือต่อและสัญญากันว่าจะไม่ยอมให้ใครมาแกล้งพวกเขาอีก
-----
Q301

นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนเข้าเรียนวันแรก
ค่ะ นี่คือเรื่องราวของอ้ายจำเรียนที่เข้าเรียนชั้น ป.1 และได้พบกับเพื่อนใหม่ๆ ในโรงเรียนวัดบ่อภาค

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายชื่ออ้ายจำเรียน เขาตื่นเต้นมากที่จะได้เข้าเรียนชั้น ป.1 ที่โรงเรียนวัดบ่อภาค ในวันแรกของโรงเรียน อ้ายจำเรียนได้พบกับเพื่อนใหม่หลายคน

คนแรกคือมานี เด็กหญิงที่ฉลาดและขยันเรียน ต่อมาคือมานะ เด็กชายที่แข็งแรงและชอบเล่นกีฬา ชูใจ เด็กหญิงที่ร่าเริงและเป็นมิตร ปิติ เด็กชายที่ชอบร้องเพลง เพชร เด็กหญิงที่วาดรูปเก่ง และวีระ เด็กชายที่ชอบเล่นดนตรี

อ้ายจำเรียนและเพื่อนๆ ใหม่ของเขาสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาเรียนรู้และเล่นด้วยกันทุกวัน พวกเขากลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดและสร้างความทรงจำอันแสนสุขร่วมกันมากมาย

วันหนึ่ง ขณะที่พวกเขากำลังเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่น พวกเขาเห็นเด็กชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ที่มุมหนึ่ง อ้ายจำเรียนและเพื่อนๆ รีบวิ่งไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น

เด็กชายตัวเล็กๆ บอกว่าเขาชื่อน้อย และเขาก็หลงทาง เขาไม่รู้ว่าจะกลับบ้านอย่างไร อ้ายจำเรียนและเพื่อนๆ จึงช่วยกันพาน้อยกลับบ้าน พวกเขามีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนใหม่ของพวกเขา

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา อ้ายจำเรียนและเพื่อนๆ ก็ยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้น พวกเขารู้ว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาซึ่งกันและกันได้เสมอ พวกเขาเรียนรู้ที่จะแบ่งปัน ช่วยเหลือ และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

และนั่นก็คือเรื่องราวของอ้ายจำเรียนและเพื่อนใหม่ของเขาในโรงเรียนวัดบ่อภาค
-----
Q302
นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนไลฟ์สด
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีเฟื่องฟู อ้ายจำเรียนได้กลายเป็นนักเล่านิทานชื่อดังบนโลกออนไลน์ เขาจัดไลฟ์สดอ่านนิทานให้กับเด็กๆ ทั่วประเทศ เพื่อนๆ ของเขาอย่างมานี มานะ ชูใจ เพชร และวีระ ต่างก็ติดตามไลฟ์สดของอ้ายจำเรียนเป็นประจำ

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังไลฟ์สดอ่านนิทานเรื่อง "หนูน้อยหมวกแดง" อยู่ เพื่อนๆ ของเขาก็เข้ามาคอมเมนต์และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

"อ้ายจำเรียนเล่านิทานเก่งจังเลย" มานีคอมเมนต์

"ใช่แล้ว อ่านเสียงเพราะมาก" มานะเสริม

"หนูน้อยหมวกแดงน่ารักจัง" ชูใจพูด

"ผมชอบตอนที่หนูน้อยหมวกแดงเจอหมาป่า" เพชรบอก

"ดนตรีประกอบก็เพราะจัง" วีระกล่าว

อ้ายจำเรียนรู้สึกดีใจมากที่เพื่อนๆ ชื่นชอบนิทานที่เขาเล่า เขาจึงอ่านนิทานต่อไปอย่างตั้งใจ เพื่อนๆ ของเขาก็ยังคงคอมเมนต์และพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนจบไลฟ์สด

หลังจากไลฟ์สดจบลง อ้ายจำเรียนก็รู้สึกมีความสุขมาก เขาดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขให้กับเพื่อนๆ และเด็กๆ ทั่วประเทศ เขาตั้งใจว่าจะจัดไลฟ์สดอ่านนิทานต่อไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างความสุขและจินตนาการให้กับทุกคน
-----
Q303
นิทานเพื่อนใหม่
วันแรกของการเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนวัดบ่ภาค ช่างเป็นวันที่น่าตื่นเต้นสำหรับเพื่อนใหม่ทั้ง 9 คน ได้แก่ มานี มานะ อ้ายจำเรียน วีระ ปิติ เพชร ชูใจ นาโน และดวงแก้ว พวกเขาต่างก็มาพร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นและความกังวลใจเล็กน้อย

เมื่อก้าวเข้ามาในห้องเรียน พวกเขาก็ได้พบกับคุณครูใจดีที่ชื่อว่าครูสมศรี คุณครูสมศรีต้อนรับพวกเขาด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นและแนะนำให้พวกเขารู้จักกันและกัน

มานีเป็นเด็กผู้หญิงที่ขี้อายและชอบอ่านหนังสือ มานะเป็นเด็กผู้ชายที่ฉลาดและชอบเล่นกีฬา อ้ายจำเรียนเป็นเด็กผู้ชายที่ขี้เล่นและชอบเล่าเรื่องตลก วีระเป็นเด็กผู้ชายที่เงียบขรึมและชอบวาดรูป ปิติเป็นเด็กผู้หญิงที่ร่าเริงและชอบร้องเพลง เพชรเป็นเด็กผู้ชายที่แข็งแรงและชอบเล่นฟุตบอล ชูใจเป็นเด็กผู้หญิงที่ใจดีและชอบช่วยเหลือเพื่อน นาโนเป็นเด็กผู้ชายที่ฉลาดและชอบคิดค้นสิ่งใหม่ๆ และดวงแก้วเป็นเด็กผู้หญิงที่ขยันและชอบเรียนรู้

เพื่อนใหม่ทั้ง 9 คนต่างก็มาจากภูมิหลังที่แตกต่างกัน แต่พวกเขาก็มีความฝันและความหวังร่วมกัน นั่นคือการเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกันในโรงเรียนแห่งนี้
-----
Q304
นิทานเรื่องประวัติชูใจ
ในรั้วโรงเรียนวัดบ่อภาคอันร่มรื่น ชูใจเด็กหญิงตัวน้อยได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการเรียนรู้ในวัยประถมศึกษาปีที่ 1 ด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นและความอยากรู้อยากเห็น

ชูใจเป็นเด็กที่ขยันและตั้งใจเรียนเสมอ เธอชอบที่จะอ่านหนังสือและเขียนเรื่องราวต่างๆ เธอมีเพื่อนมากมายในห้องเรียน และพวกเขาก็ชอบที่จะเล่นด้วยกันหลังเลิกเรียน

วันหนึ่ง ขณะที่ชูใจกำลังนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุด เธอได้พบกับครูคนหนึ่งที่กำลังมองหาเด็กที่จะแสดงละครในงานวันเด็ก ครูเห็นแววความสามารถในตัวชูใจ จึงชักชวนให้เธอมาลองแสดงละครดู

ชูใจตื่นเต้นมาก เธอฝึกซ้อมอย่างหนักทุกวัน และในที่สุดเธอก็ได้แสดงละครได้อย่างยอดเยี่ยมในงานวันเด็ก ชูใจได้รับคำชมมากมายจากเพื่อนๆ และครู และเธอก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก

หลังจากนั้น ชูใจก็ได้แสดงละครอีกหลายครั้ง เธอชอบที่จะแสดงออกและทำให้คนอื่นๆ มีความสุข เธอรู้ว่าเธอมีพรสวรรค์ด้านการแสดง และเธอหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง

ในช่วงเวลาที่เหลือของปีการศึกษา ชูใจยังคงเรียนหนังสืออย่างขยันขันแข็ง เธอได้เกรดดีๆ และทำให้พ่อแม่ของเธอภูมิใจมาก ชูใจจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ด้วยความสำเร็จ และเธอก็พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่บทต่อไปในชีวิตของเธอ
-----
Q305

นิทานเรื่องเรื่องประวัติชีวิตของอ้ายจำเรียนกำลังศึกษาชั้นป1
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายตัวเล็กๆ ชื่ออ้ายจำเรียน เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ กับพ่อแม่ของเขา อ้ายจำเรียนเป็นเด็กที่ขยันและฉลาดมาก เขาชอบเรียนหนังสือและมักจะได้เกรดดีๆ เสมอ

เมื่ออ้ายจำเรียนอายุได้ 6 ขวบ เขาก็ได้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนประจำหมู่บ้าน ครูของเขาเป็นคุณครูใจดีที่ชื่อคุณครูสมศรี คุณครูสมศรีชอบอ้ายจำเรียนมากเพราะเขาเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนและมีมารยาทดี

อ้ายจำเรียนเรียนหนังสือได้ดีมาก เขาเป็นเด็กที่ชอบอ่านหนังสือและมักจะถามคำถามคุณครูอยู่เสมอ เพื่อนๆ ในห้องเรียนก็ชอบอ้ายจำเรียนเพราะเขาเป็นเด็กที่ใจดีและชอบช่วยเหลือเพื่อนๆ

เมื่ออ้ายจำเรียนเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เขาก็ได้ขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เขาเรียนหนังสือได้ดีเช่นเดิมและยังคงเป็นเด็กที่ขยันและฉลาดเหมือนเดิม

อ้ายจำเรียนเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ด้วยเกรดเฉลี่ยที่ดีมาก เขาเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในชั้นเรียนและได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นประจำปี

หลังจากจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อ้ายจำเรียนก็ได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมในเมือง เขาเรียนหนังสือได้ดีเช่นเดิมและยังคงเป็นเด็กที่ขยันและฉลาดเหมือนเดิม

อ้ายจำเรียนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยเกรดเฉลี่ยที่ดีมาก เขาเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในชั้นเรียนและได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นประจำปี

หลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อ้ายจำเรียนก็ได้เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เขาเรียนหนังสือได้ดีเช่นเดิมและยังคงเป็นเด็กที่ขยันและฉลาดเหมือนเดิม

อ้ายจำเรียนเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เขาเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในรุ่นและได้รับรางวัลนักศึกษาดีเด่นประจำปี

หลังจากจบมหาวิทยาลัย อ้ายจำเรียนก็ได้งานทำในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เขาทำงานได้ดีมากและเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน

อ้ายจำเรียนเป็นเด็กที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมาก เขาเป็นเด็กที่ขยันและฉลาดมาตั้งแต่เด็กๆ และไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เขาเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ คนอื่นๆ และเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างแท้จริง
-----
Q286
นิทานเรื่องเรื่องมานะมานี
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงสาวสองคนชื่อมานะและมานีอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ มานะเป็นคนขยันและทำงานหนัก เธอตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อไปทำงานในไร่ของเธอและทำงานจนดึกดื่นทุกวัน ในทางกลับกัน มานีเป็นคนเกียจคร้านและหลงตัวเอง เธอใช้เวลาทั้งวันไปกับการนอนหลับและแต่งตัว

วันหนึ่ง เทวดาองค์หนึ่งได้ลงมาจากสวรรค์เพื่อทดสอบมานะและมานี เทวดาแปลงกายเป็นชายชราขอทานและไปขอความช่วยเหลือจากทั้งสองสาว มานะรู้สึกสงสารชายชราและให้ข้าวและน้ำแก่เขา ในขณะที่มานีไล่เขาออกไปอย่างหยาบคาย

เพื่อเป็นรางวัลสำหรับความเมตตาของเธอ เทวดาได้มอบเมล็ดถั่ววิเศษให้กับมานะ เมล็ดถั่วเหล่านี้สามารถงอกได้ในชั่วข้ามคืนและออกผลเป็นทองคำ มานะปลูกเมล็ดถั่วในสวนของเธอและในไม่ช้าเธอก็กลายเป็นหญิงสาวที่ร่ำรวยที่สุดในหมู่บ้าน

ในทางกลับกัน มานีก็อิจฉาความโชคดีของมานะ เธอจึงไปหาเทวดาและขอเมล็ดถั่ววิเศษให้กับเธอเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เทวดาปฏิเสธที่จะให้เมล็ดถั่วแก่เธอเพราะเธอเป็นคนเกียจคร้านและเห็นแก่ตัว

มานีโกรธมากและสาปแช่งเทวดา เทวดาโกรธและสาปแช่งมานีให้กลายเป็นกบ มานีตกใจกลัวและวิ่งหนีไปซ่อนตัวในบ่อน้ำ

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มานะก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมั่งคั่ง ในขณะที่มานีก็ยังคงเป็นกบในบ่อน้ำจนถึงทุกวันนี้
-----
Q287

นิทานเรื่องไปดำนากับมานีมานะอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพี่น้องสามคนชื่อ ไปดำ นามาน และมานะ อ้ายจำเรียน พี่ชายคนโตเป็นคนขี้เกียจ ไม่ชอบทำงาน ส่วนน้องชายสองคนเป็นคนขยันขันแข็ง ช่วยพ่อแม่ทำงานทุกอย่าง

วันหนึ่ง พ่อแม่ของสามพี่น้องต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน จึงสั่งให้ลูกชายทั้งสามไปดำนา พี่ชายคนโตได้ยินดังนั้นก็แกล้งทำเป็นป่วย ไม่ยอมไปทำงาน น้องชายทั้งสองจึงต้องไปดำนาเพียงลำพัง

ไปดำกับนามานทำงานอย่างขยันขันแข็ง ตั้งแต่เช้าจรดเย็น โดยไม่บ่นสักคำ แต่พอตกเย็น พี่ชายคนโตกลับแกล้งทำเป็นหายป่วย แล้วรีบไปช่วยน้องชายดำนา เพื่อหวังจะเอาหน้ากับพ่อแม่

เมื่อพ่อแม่กลับมาเห็นลูกชายทั้งสามทำงานเสร็จเรียบร้อย ก็รู้สึกดีใจและภูมิใจในตัวน้องชายทั้งสอง แต่กลับรู้สึกโกรธและผิดหวังในตัวพี่ชายคนโตที่ขี้เกียจและไม่รับผิดชอบ

จากนั้นเป็นต้นมา พ่อแม่ก็ไม่ไว้ใจพี่ชายคนโตอีกต่อไป และมอบหมายให้น้องชายทั้งสองเป็นคนดูแลกิจการของครอบครัว ส่วนพี่ชายคนโตก็ต้องออกไปหางานทำเอง แต่ด้วยความขี้เกียจของเขา จึงไม่มีใครอยากรับเขาเข้าทำงาน

ในที่สุด พี่ชายคนโตก็ต้องกลายเป็นคนยากจนและลำบาก ส่วนน้องชายทั้งสองก็ประสบความสำเร็จในชีวิต และมีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุข
-----
Q288

นิทานเรื่องไปเกี่ยวข้าวกับมานีมานะอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพี่น้อง 3 คนชื่อ มานี มานะ และอ้ายจำเรียน พวกเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ครอบครัวของพวกเขามีฐานะยากจน พวกเขาจึงต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงชีพ

วันหนึ่ง พ่อของพวกเขาบอกว่า "ลูกๆ ถึงเวลาที่เราจะต้องไปเกี่ยวข้าวแล้ว" พี่น้องทั้งสามจึงออกไปยังทุ่งนาพร้อมกับเคียวของพวกเขา

มานีเป็นพี่ชายคนโต เขาเป็นคนขยันและทำงานหนัก เขาเกี่ยวข้าวได้มากที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งสาม มานะเป็นน้องชายคนที่สอง เขาเป็นคนขี้เกียจและไม่ชอบทำงาน เขาเกี่ยวข้าวได้น้อยที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งสาม

อ้ายจำเรียนเป็นน้องสาวคนสุดท้อง เธอเป็นคนฉลาดและขยัน เธอเกี่ยวข้าวได้มากเป็นอันดับสองรองจากมานี

พวกเขาเกี่ยวข้าวกันจนถึงเย็น เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน พ่อของพวกเขาก็ถามว่า "ลูกๆ วันนี้เกี่ยวข้าวได้เท่าไหร่"

มานีตอบว่า "ผมเกี่ยวข้าวได้ 10 กำ"

มานะตอบว่า "ผมเกี่ยวข้าวได้ 5 กำ"

อ้ายจำเรียนตอบว่า "ฉันเกี่ยวข้าวได้ 8 กำ"

พ่อของพวกเขายิ้มและพูดว่า "ลูกๆ ทำได้ดีมาก"

จากนั้น พวกเขาก็แบ่งข้าวที่เกี่ยวได้กันอย่างเท่าๆ กัน พี่น้องทั้งสามมีความสุขที่ได้ทำงานร่วมกันและแบ่งปันผลของการทำงานหนักของพวกเขา
-----
Q289

นิทานเรื่องไปเที่ยวงานวัดกับมานีมานะอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายสามคนชื่อ มานี มานะ และอ้ายจำเรียน ทั้งสามเป็นเพื่อนรักกันมาก วันหนึ่งพวกเขาได้ยินข่าวว่าจะมีงานวัดที่วัดใกล้บ้าน พวกเขาจึงตกลงกันว่าจะไปเที่ยวงานวัดด้วยกัน

เมื่อถึงวันงานวัด ทั้งสามก็ชวนกันไปที่วัด พวกเขาตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเที่ยวงานวัด เพราะพวกเขาไม่เคยไปงานวัดมาก่อนเลย เมื่อไปถึงงานวัด พวกเขาก็เห็นของเล่นมากมาย อาหารอร่อยๆ และการละเล่นสนุกๆ มากมาย

มานี มานะ และอ้ายจำเรียนเล่นของเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเขากินอาหารอร่อยๆ จนอิ่มท้อง และพวกเขาก็เล่นการละเล่นสนุกๆ จนเหนื่อยล้า

เมื่อถึงเวลาเย็น พวกเขาก็กลับบ้านด้วยความสุข พวกเขาเล่าให้พ่อแม่ฟังว่าพวกเขาไปเที่ยวงานวัดมา และพวกเขาก็สนุกมาก

พ่อแม่ของพวกเขาก็ดีใจที่พวกเขาสนุกกับงานวัด และพวกเขาก็สัญญากับพวกเขาว่าจะพาพวกเขาไปเที่ยวงานวัดอีกครั้งในปีหน้า
-----
Q290

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม