มงคลที่16-20

มงคลที่16การประพฤติธรรม
นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนเป็นคนปฏิบัติธรรมตลอดมา
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มชื่ออ้ายจำเรียน เขาเป็นคนปฏิบัติธรรมตลอดมา เขาใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งสมาธิและศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นโพธิ์ เขาก็ได้ยินเสียงกระซิบข้างหู เสียงนั้นบอกเขาว่า "อ้ายจำเรียน เจ้าจงไปที่ป่าหิมพานต์ เจ้าจะพบสมบัติล้ำค่าที่นั่น"

อ้ายจำเรียนรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาจึงออกเดินทางไปยังป่าหิมพานต์ทันที เมื่อเขาไปถึงป่า เขาก็พบกับสิ่งมีชีวิตแปลกๆ มากมาย เช่น ยักษ์ นางฟ้า และสัตว์วิเศษ

อ้ายจำเรียนเดินทางลึกเข้าไปในป่าเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงถ้ำแห่งหนึ่ง เขาเข้าไปในถ้ำและพบกับฤาษีตนหนึ่ง ฤาษีบอกเขาว่า "อ้ายจำเรียน เจ้ามาถูกทางแล้ว สมบัติล้ำค่าที่เจ้าแสวงหานั้นอยู่ที่นี่"

ฤาษีพาอ้ายจำเรียนไปที่ห้องสมบัติ และที่นั่นเขาก็ได้พบกับสมบัติล้ำค่ามากมาย เช่น ทองคำ เพชรพลอย และผ้าไหม

อ้ายจำเรียนรู้สึกดีใจมากที่ได้พบสมบัติเหล่านี้ แต่เขาก็รู้ว่าสมบัติที่แท้จริงนั้นไม่ใช่สิ่งของเหล่านี้ แต่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า

อ้ายจำเรียนจึงขอบคุณฤาษีและเดินทางกลับบ้าน เขาใช้สมบัติที่ได้มาเพื่อช่วยเหลือผู้คนและเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า

ตั้งแต่นั้นมา อ้ายจำเรียนก็กลายเป็นที่รู้จักในฐานะนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ และคำสอนของเขาก็เป็นที่เคารพนับถือมาจนถึงทุกวันนี้

๑๖.การประพฤติธรรม
การประพฤติธรรม ก็คือการปฏิบัติให้เป็นไป แบ่งออกได้เป็น ๒ อันได้แก่
กายสุจริต คือ
๑.การไม่ฆ่าสัตว์ หมายรวมหมดตั้งแต่สัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ และมนุษย์
๒.การไม่ลักทรัพย์ หมายรวมถึงการคอรัปชั่น ไปหลอกลวง ปล้นจี้ชาวบ้านด้วย
๓.การไม่ประพฤติผิดในกาม หมายรวมถึงการคบชู้ นอกใจภรรยา และการข่มขืนด้วย
วจีสุจริต คือ
๑.การไม่พูดเท็จ คือการพูดแต่ความจริง ไม่หลอกลวง
๒.การไม่พูดคำหยาบ คือคำที่ฟังแล้วไม่รื่นหู เกิดความรู้สึกไม่สบายใจรวมหมด
๓.การไม่พูดจาส่อเสียด การนินทาว่าร้าย
๔.การไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล คือการพูดที่ไม่เป็นสาระ หาประโยชน์อันใดมิได้
มโนสุจริต คือ
๑.การไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น คือการนึกอยากได้ของเขามาเป็นของเรา
๒.การไม่คิดพยาบาทปองร้ายผู้อื่น คือการนึกอยากให้คนอื่นประสพเคราะห์กรรม คิดจะทำร้ายผู้อื่น
๓.การเห็นชอบ คือมีความเชื่อความเข้าใจในความเป็นจริง ความถูกต้องตามหลักคำสอนตามแนวทางพระพุทธศาสนา

มงคลที่17การสงเคราะห์ญาติ
นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนเป็นคนสงเคราะญาติของตน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มชื่อจำเรียน เขาเป็นคนขยันขันแข็งและมีน้ำใจงามมาก วันหนึ่ง ขณะที่จำเรียนกำลังทำงานอยู่ในไร่ เขาเห็นชายชราคนหนึ่งกำลังเดินผ่านมา ชายชรามีท่าทางอ่อนเพลียและหิวโหย จำเรียนจึงรีบวิ่งไปหาชายชราและเชิญให้มานั่งพักที่บ้านของเขา

จำเรียนนำอาหารและน้ำมาให้ชายชรา และชายชราก็เล่าเรื่องราวชีวิตของเขาให้จำเรียนฟัง ชายชราบอกว่าเขาชื่อคำผง และเขากำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากที่ไปเยี่ยมลูกชายของเขา แต่ลูกชายของเขาไม่ยอมให้เขาเข้าบ้าน เพราะเขาจนและแก่ชราแล้ว

จำเรียนรู้สึกสงสารคำผงมาก เขาจึงตัดสินใจว่าจะช่วยเหลือคำผง จำเรียนพาคำผงไปที่บ้านของเขาและดูแลเขาเป็นอย่างดี จำเรียนให้คำผงกินอยู่หลับนอนอย่างสุขสบาย และพาคำผงไปหาหมอเพื่อรักษาอาการป่วย

คำผงรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของจำเรียนมาก เขาขอบคุณจำเรียนที่ช่วยเหลือเขา และบอกว่าเขาจะไม่ลืมบุญคุณของจำเรียนตลอดไป

ไม่นานหลังจากนั้น ลูกชายของคำผงก็มาหาจำเรียน เขาบอกว่าเขาเสียใจมากที่ได้ทอดทิ้งพ่อของเขา และเขาต้องการที่จะขอโทษจำเรียนที่ช่วยเหลือพ่อของเขา จำเรียนให้อภัยลูกชายของคำผง และบอกว่าเขาดีใจที่ได้ช่วยเหลือคำผง

ลูกชายของคำผงพาคำผงกลับไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน และดูแลคำผงเป็นอย่างดี คำผงมีความสุขมากที่ได้อยู่กับลูกชายของเขาอีกครั้ง และเขาก็ขอบคุณจำเรียนที่ช่วยให้เขากลับมาอยู่กับลูกชายได้

จำเรียนเป็นคนที่มีน้ำใจงามมาก เขาช่วยเหลือคำผงโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และเขาก็มีความสุขที่ได้เห็นคำผงมีความสุข


-๑๗.การสงเคราะห์ญาติ
ลักษณะของญาติที่ควรให้การสงเคราะห์ เมื่ออยู่ในฐานะดังนี้คือ
๑.เมื่อยากจนหาที่พึ่งมิได้
๒.เมื่อขาดทุนทรัพย์ในการค้าขาย
๓.เมื่อขาดยานพาหนะ
๔.เมื่อขาดอุปกรณ์ทำมาหากิน
๕.เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย
๖.เมื่อคราวมีธุระการงาน
๗.เมื่อคราวถูกใส่ความหรือมีคดี
การสงเคราะห์ญาติ ทำได้ทั้งทางธรรมและทางโลกได้แก่
ในทางธรรม ก็ช่วยแนะนำให้ทำบุญกุศล ให้รักษาศีล และทำสมาธิภาวนา
ในทางโลก ก็ได้แก่
๑.ให้ทาน คือการสงเคราะห์เป็นทรัพย์สิน หรือเงินทองเพื่อให้เขาพ้นจากทุกข์หรือความลำบากตามแต่กำลัง
๒.ใช้ปิยวาจา คือการพูดเจรจาด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยน สุภาพ และประกอบไปด้วยความปรารถนาดี
๓.มีอัตถจริยา คือการประพฤติตนให้เป็นประโยชน์กับเขา อาจช่วยเหลือด้วยแรงกาย กำลังใจ หรือด้วยความสามารถที่มี
๔.รู้จักสมานัตตตา คือการวางตัวให้เหมาะสม อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ร่วมทุกข์ร่วมสุข ไม่ถือตัว
Q234


มงคลที่18ทำงานไม่มีโทษ
นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนเป็นคนที่ไม่ทำงานที่เป็นโทษและผิดกฎหมาย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มชื่ออ้ายจำเรียน เขาเป็นคนขี้เกียจ ไม่ชอบทำงาน และมักจะหาทางทำเงินโดยไม่สุจริตอยู่เสมอ

วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนได้ยินข่าวว่ามีขุนนางผู้มั่งคั่งกำลังเดินทางผ่านหมู่บ้านของเขา เขาจึงวางแผนที่จะปล้นขุนนางผู้นั้น

อ้ายจำเรียนรวมกลุ่มกับโจรอีกสองคน และพวกเขาก็ซุ่มโจมตีขบวนของขุนนาง ขุนนางและผู้ติดตามของเขาต่อสู้กลับอย่างกล้าหาญ แต่พวกโจรก็สามารถเอาชนะและปล้นทรัพย์สินมีค่าไปได้

อ้ายจำเรียนและพวกโจรนำทรัพย์สินที่ปล้นมาได้ไปซ่อนในป่า พวกเขาฉลองความสำเร็จด้วยการกินและดื่มอย่างหรูหรา

อย่างไรก็ตาม ความสุขของพวกเขาอยู่ได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้ตามรอยพวกเขาไปยังป่าและจับกุมพวกเขาได้

อ้ายจำเรียนและพวกโจรถูกนำตัวไปขึ้นศาลและถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานปล้นทรัพย์ พวกเขาถูกจำคุกเป็นเวลาหลายปี

ในคุก อ้ายจำเรียนได้คิดทบทวนถึงการกระทำของตน เขาสำนึกผิดในสิ่งที่ได้ทำลงไป และตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตน

เมื่อพ้นโทษออกมา อ้ายจำเรียนก็หางานสุจริตทำ เขาทำงานหนักและซื่อสัตย์ และในที่สุดก็สามารถสร้างชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้

อ้ายจำเรียนได้เรียนรู้บทเรียนอันล้ำค่าว่าการทำสิ่งที่ผิดกฎหมายและเป็นโทษจะนำมาซึ่งความหายนะเท่านั้น และการทำงานหนักและซื่อสัตย์เป็นหนทางเดียวที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จและความสุขที่แท้จริง

๑๘.ทำงานที่ไม่มีโทษ
งานที่ไม่มีโทษ ประกอบด้วยลักษณะดังต่อไปนี้
๑.ไม่ผิดกฏหมาย คือทำให้ถูกต้องตามกฏหมายของบ้านเมือง
๒.ไม่ผิดประเพณี คือแบบแผนที่ปฏิบัติกันมาแต่เดิม ควรดำเนินตาม
๓.ไม่ผิดศีล คือข้อห้ามที่บัญญัติไว้ในศีล ๕
๔.ไม่ผิดธรรม คือหลักธรรมทั้งหลายอาทิเช่น การพนัน การหลอกลวง
ส่วนอาชีพต้องห้ามสำหรับพุทธศาสนิกชนได้แก่
๑.การค้าอาวุธ
๒.การค้ามนุษย์
๓.การค้ายาพิษ
๔.การค้ายาเสพย์ติด
๕.การค้าสัตว์เพื่อนำไปฆ่า

มงคลที่19ละเว้นจากบาป
นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนละเว้นจากบาป
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มชื่อจำเรียน เขาเป็นคนขยันและซื่อสัตย์ แต่โชคร้ายที่เขามีนิสัยไม่ดีอย่างหนึ่ง นั่นคือชอบลักเล็กขโมยน้อย

วันหนึ่ง ขณะที่จำเรียนกำลังเดินผ่านบ้านหลังหนึ่ง เขาเห็นว่าประตูบ้านเปิดอยู่ จึงแอบเข้าไปข้างในและขโมยของมีค่าบางอย่างไป เมื่อเจ้าของบ้านกลับมาพบว่าของหายไป เขาก็โกรธมากและไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่

เจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบสวนและจับกุมจำเรียนในที่สุด จำเรียนถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปี ในคุก จำเรียนได้คิดทบทวนถึงการกระทำของตนเองและรู้สึกละอายใจมาก เขาตั้งใจว่าเมื่อพ้นโทษออกไปแล้ว เขาจะเลิกขโมยและเป็นคนดี

เมื่อจำเรียนพ้นโทษ เขาได้กลับมาที่หมู่บ้านและเล่าเรื่องราวของตนเองให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้านต่างก็เห็นใจจำเรียนและให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ตนเอง

จำเรียนได้ทำงานหนักและซื่อสัตย์ เขาไม่เคยขโมยของอีกเลย ชาวบ้านจึงยอมรับเขาอีกครั้ง และจำเรียนก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป

๑๙.ละเว้นจากบาป
บาปคือสิ่งที่ไม่ดี เสีย ความชั่วที่ติดตัว ซึ่งไม่ควรทำ ท่านว่าสิ่งที่ทำแล้วถือว่าเป็นบาปได้แก่ อกุศลกรรมบถ ๑๐ คือ
๑.ฆ่าสัตว์
๒.ลักทรัพย์
๓.ประพฤติผิดในกาม
๔.พูดเท็จ
๕.พูดส่อเสียด
๖.พูดคำหยาบ
๗.พูดเพ้อเจ้อ
๘.โลภอยากได้ของเขา
๙.คิดพยาบาทปองร้ายคนอื่น
๑๐.เห็นผิดเป็นชอบ

มงคลที่20สำรวมดื่มน้ำเมา
นิทานเรื่องลูกเศรษฐีขี้เมา
เรื่องมีอยู่ว่า ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีเทวดาองค์หนึ่งได้เห็นจุตินิมิต เหงื่อไหลออกจากรักแร้ ทิพยภูษาอาภรณ์จากที่เคยเปล่งปลั่งสว่างไสว ก็เศร้าหมองลงทันตา มีความรุ่มร้อนขึ้นมาในกาย ท่านรู้ชัดว่า ถึงคราวตนเองจะต้องจุติแล้ว จึงเกิดความเสียดายในทิพยสมบัติที่เคยครอบครอง แต่ก็ไม่รู้ว่า จะทำอย่างไรดี จึงจะได้ครอบครองสมบัติเหล่านี้อีก 

    ขณะนั้นเอง ความคิดถึงท้าวสักกะจอมเทพปรากฏเข้ามาในใจ ท่านจึงคิดจะไปขอความช่วยเหลือจากท้าวสักกะ โดยรีบเหาะเข้าไปนอบน้อมต่อจอมเทพในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และกราบทูลเรื่องราวที่เกิดขึ้น พระอินทร์บังเกิดความสงสาร เทพบุตรท่านนั้น ได้ปลอบใจว่า ท่านอย่าได้กังวลไปเลย การเกิด การตายเป็นเรื่องปกติในเทวโลก ถ้าท่านมีบุญก็จะได้มาเสวยทิพยสมบัติในเทวโลกนี้อีก เพราะฉะนั้น ตอนนี้ท่านต้องจุติลงไปเกิดในโลกมนุษย์ เพื่อสร้างบุญเพิ่มให้มากๆ เมื่อหมดอายุขัย จะได้มาเสวยสมบัติในเทวโลกตามเดิมŽ

    เทพบุตรท่านนี้รู้ว่า หากลงไปเกิดเป็นมนุษย์ ส่วนใหญ่จะประมาทในชีวิต เพราะการเข้าสู่ครรภ์มารดาจะทำให้หลงลืม เมื่อหลงลืม ก็หลงใหล หลงผิด ไปทำบาปอกุศลได้ง่าย จึงทูลขอความช่วยเหลือว่า ข้าแต่เทวราช หากข้าพระองค์จุติลงไปเกิดในโลกมนุษย์แล้ว เมื่อปรารถนาจะทำอะไร ขอพระองค์จงช่วยบันดาลความสำเร็จแก่ข้าพระองค์ด้วยเถิดŽ พระอินทร์ทรงรับคำว่าจะช่วย

    ต่อมา เทพบุตรท่านนี้จุติลงไปเกิดเป็นลูกของเศรษฐีในเมืองพาราณสี เนื่องจากเศรษฐีมีลูกชายเพียงคนเดียว จึงเฝ้าฟูมฟักทะนุถนอมเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ไม่ว่าลูกชายปรารถนาสิ่งใด ก็หามาให้ เลี้ยงดูชนิดตามใจทุกอย่าง ครั้นเติบโตขึ้น ด้วยความรัก และเป็นห่วงลูก แทนที่จะส่งลูกไปเรียนตามสำนักต่างๆ กลับคิดว่า ตนเองมีทรัพย์มาก จึงจ้างครูมาสอนที่บ้าน เพื่อลูกชายจะได้ไม่ลำบาก

    เนื่องจากลูกชายไม่ชอบเรียนหนังสือ ไม่ยอมทำการบ้าน ครูอยากให้ลูกศิษย์ได้ดี บางครั้งก็เฆี่ยนตี บางทีก็ดุด้วยความปรารถนาดี แต่ลูกชายเศรษฐีไม่พอใจที่ถูกทำโทษ จึงไปฟ้องพ่อแม่ว่า ถูกครูรังแก ท่านเศรษฐีจึงไล่ครูออกจากบ้าน แล้วจ้างครูคนใหม่มาแทน เมื่อครูคนใหม่เข้ามาสอน ก็ต้องประสบกับเหตุการณ์เดิมๆ สอนได้ไม่กี่วันก็ถูกเลิกจ้าง ท่านเศรษฐีต้องเปลี่ยนครูหลายคน เพื่อให้ถูกใจลูกชายสุดที่รัก ในที่สุดก็เจอครูในอุดมคติของลูกชาย คือ ลูกศิษย์จะทำอะไรก็ตามใจทุกอย่าง จะเล่นก็ไม่ตักเตือน ไม่ทำการบ้านก็ไม่ลงโทษ ครูคนนี้จึงอยู่ได้นาน แต่ลูกศิษย์ก็โง่เหมือนเดิม

ต่อมาลูกชายคบเพื่อนที่เกเร ได้ชักชวนกันไปเที่ยวเตร่เฮฮาไปวันๆ ไม่ทำมาหากิน เพราะเห็นว่าสมบัติมากมายที่พ่อแม่หามาได้ ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด อีกทั้งลูกเศรษฐีเป็นผู้มีบุญอย่างหนึ่ง คือ เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า จะเห็นท้าวสักกเทวราชเสมอ จึงคิดว่า เรามีผู้ช่วยที่ดีที่สุด ทำให้ประมาท ไม่ยอมทำมาหากิน เอาแต่ดื่มสุราเมรัย ปล่อยชีวิตไปวันๆ เมื่อเศรษฐีละโลกไปแล้ว ลูกเศรษฐีก็ไม่มีใครช่วยดูแลการเงินอีกต่อไป ไม่รู้จักการบริหารงาน บริหารเงิน สมบัติก็ถูกคนรับใช้โกงไปเรื่อยๆ ครั้นดื่มเหล้าหนักเข้าก็กลายเป็นนักเลงสุรา หาความสำราญไปวันๆ เงินทองก็เริ่มร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่รู้สึกกังวลใจ เพราะเห็นพระอินทร์เฝ้ามองดูตนตลอดเวลา

    เพียงไม่กี่ปีที่พ่อแม่ละโลกไป ลูกเศรษฐีผลาญทรัพย์ของตนจนหมดตัว ต้องขายบ้าน ขายที่เพื่อไปเล่นการพนัน และซื้อเหล้าดื่มกิน สุดท้ายเมื่อไม่มีทรัพย์แล้ว เพื่อนเกลอทั้งหลาย ก็กลายเป็นอื่น ไม่มีใครคบหาสมาคมด้วย ตนเองก็กลายเป็นคนไม่มีที่พึ่ง เอากะลาไปเที่ยวขอทานเขากิน ก่อนตายได้แหงนหน้า มองดูพระอินทร์เป็นครั้งสุดท้าย และต่อว่าต่อขานพระอินทร์ว่า ทำไมถึงไม่ยอมช่วย

    พระอินทร์บอกลูกเศรษฐีว่า เราพร้อมจะช่วยท่านทุกเมื่อ แต่ตัวท่านไม่เคยคิดจะทำอะไรสักอย่าง ถ้าหากจะลงทุนทำธุรกิจ เราก็จะช่วยดลบันดาลใจให้ซื้อง่ายขายคล่องกำไรงาม แต่ท่านเอาแต่ดื่มสุราทุกเช้าค่ำ เที่ยวเตร่เฮฮาหาสาระไม่ได้ แล้วจะให้เราช่วยท่านได้อย่างไรŽ จากนั้นได้อันตรธานจากไป เมื่อลูกเศรษฐีตายแล้ว ก็ไปตกในมหานรกทันที

๒๐.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
ว่าด้วยเรื่องของน้ำเมานั้น อาจทำมาจากแป้ง ข้าวสุก การปรุงโดยผสมเชื้อ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ดื่มแล้วทำให้มึนเมา เช่นเบียร์ ไวน์ ไม่ใช่แค่เหล้าเท่านั้น ล้วนมีโทษอันได้แก่
๑.ทำให้เสียทรัพย์ เพราะต้องนำเงินไปซื้อหาทั้งๆที่เงินจำนวนเดียวกันนี้สามารถนำเอาไปใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างอื่นได้มากกว่า
๒.ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท ซึ่งนำไปสู่ความวุ่นวาย เจ็บตัว หรือถึงแก่ชีวิต และคดีความ เพราะน้ำเมาทำให้ขาดการยับยั้งชั่งใจ
๓.ทำให้เกิดโรค โรคที่เกิดเนื่องมาจากการดื่มสุราล้วนแล้วแต่บั่นทอนสุขภาพกายจนถึงตายได้เช่น โรคตับแข็ง โรคหัวใจ โรคความดัน
๔.ทำให้เสียชื่อเสียง เมื่อคนเมาไปทำเรื่องไม่ดีเข้าเช่นไปลวนลามสตรี ปล่อยตัวปล่อยใจ ก็ทำให้วงศ์ตระกูล และหน้าที่การงานเสี่อมเสีย
๕.ทำให้ลืมตัวไม่รู้จักอาย คนเมาทำสิ่งที่ไม่ควรทำ ทำสิ่งที่คนมีสติจะไม่ทำ เช่นแก้ผ้าเดิน หรือนอนในที่สาธารณะเป็นต้น
๖.ทอนกำลังปัญญา ทานแล้วทำให้เซลล์สมองเริ่มเสื่อมลง ก็จะทำให้สุขภาพและปัญญาเสื่อมถอย ความสามารถโดยรวมก็ด้อยลง

เหตุที่ใช้คำว่าสำรวม
 พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประเภทมีเหตุผล บางศาสนาเห็นโทษของเหล้า เห็นโทษของแอลกอฮอล์ เพราะฉะนั้นนอกจากห้ามดื่มแล้วเอามาทาแผลก็ไม่ได้ จับต้องก็ไม่ได้ คนตายแล้วเอาแอลกอฮอล์มาเช็ดล้างศพก็ไม่ได้ ถือเป็นของบาป

            แต่ในพระพุทธศาสนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามเหมารวมหมดอย่างนั้น เพราะทรงมองเห็นว่าเหล้าหรือสิ่งเสพย์ติดแม้จะมีโทษมหันต์ แต่ในบางกรณีก็อาจนำมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้ เช่น มอร์ฟีนใช้ฉีดระงับความเจ็บปวด หรือยาบางอย่างต้องอาศัยเหล้า สกัดเอาตัวยาออกมาเพื่อใช้รักษาโรค คือเอาเหล้าเพียงเล็กน้อยมาเป็นกระสายยา ไม่มีรส ไม่มีกลิ่นเหล้าคงอยู่ อย่างนี้ในพระพุทธศาสนาไม่ได้ห้าม แต่บางคนที่อยากจะดื่มเหล้าแล้วหาข้ออ้าง นำเหล้ามาทั้งขวดเอายาใส่ไปนิดหน่อย อย่านั้นใช้ไม่ได้         

โดยสรุป สำรวมจากการดื่มน้ำเมาจึงหมายถึง การระมัดระวังเมื่อต้องใช้สิ่งเสพย์ติดทั้งหลายในการรักษาโรค และเว้นขาดจากการเสพสิ่งเสพย์ติดให้โทษทุกชนิดไม่ว่าโดยวิธีใดก็ตาม

อ่านต่อมงคลที่21-25กด👇🏽


สวัสดีครับเพื่อนๆอยากจะสนับสนุนนิทานและคำกลอนของอ้ายจำเรียน แต่งโดยใช้เอไอช่วยแต่งให้บางเรื่องอ่านจะขวิดจะขัด อ้ายจำเรียนต้องโทษด้วยนะครับ อยากให้กำลังเล็กๆน้อยๆด้วยการโอนเงินได้ที่
 พร้อมเพย์เบอร์👉0892718015
ทรูมันนี่วอเลทเบอร์👉0892718015
           นาย จำเรียน จันทร์รักษา
          ขอบคุณมากครับ
สุดท้ายนี้อ้ายจำเรียนไม่มีอะไรให้นอกจากอวยพรให้
อ้ายจำเรียนขอให้น้องๆคนที่ใจดีกับอ้ายจำเรียนและใจดีมีความแมตตาต่อผู้อื่นทุกคนสุขสันต์ทุกวันไม่เจ็บไม่ป่วย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ขอให้พระคุ้มครองคุณและครอบครัว ขอให้สุขสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนา ขอให้การเรียนการงานการซื้อขายและธุรกิจ ราบรื่นสดใสปราศจากอุปสรรคทั้งปวง ขอให้สวยหล่อกันทุกคน ขอให้มีความสุขในการตอกกับแฟนราบรื่น จนถึงสวรรค์วิมานกันทุกคนนะครับ






ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม