รวมนิทาน

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่าลึกอันกว้างใหญ่ มีเด็กชายกำพร้าชื่ออ้ายจำเรียน เขาอาศัยอยู่ตามลำพังในกระท่อมเล็กๆ กลางป่า

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังหาอาหารในป่า เขาก็ได้พบกับสัตว์ป่าต่างๆ มากมาย ได้แก่ เสือโคร่ง ช้าง หมี และลิง อ้ายจำเรียนรู้สึกกลัวสัตว์เหล่านี้มาก แต่สัตว์ป่ากลับไม่ทำร้ายเขา พวกเขามองเขาด้วยความสงสารและเสนอความช่วยเหลือ

"เด็กน้อย เจ้ามาทำอะไรในป่าลึกเช่นนี้" เสือโคร่งถาม

"ข้า...ข้ามาหาอาหาร" อ้ายจำเรียนตอบด้วยเสียงสั่น

"เจ้าไม่ต้องกลัว พวกเราจะช่วยเจ้าหาอาหาร" ช้างกล่าว

สัตว์ป่าพาอ้ายจำเรียนไปยังแหล่งอาหารต่างๆ ในป่า พวกเขาช่วยกันหาผลไม้ ผัก และน้ำผึ้งมาให้เขากิน อ้ายจำเรียนรู้สึกขอบคุณสัตว์ป่ามากที่ช่วยเหลือเขา

หลังจากนั้น อ้ายจำเรียนก็อาศัยอยู่กับสัตว์ป่าในป่า สัตว์ป่าสอนให้เขารู้จักธรรมชาติและวิธีการเอาตัวรอดในป่า อ้ายจำเรียนเรียนรู้ที่จะเคารพธรรมชาติและสัตว์ป่า และสัตว์ป่าก็เรียนรู้ที่จะไว้ใจเขา

วันหนึ่ง มีนายพรานกลุ่มหนึ่งเข้ามาในป่าเพื่อล่าสัตว์ อ้ายจำเรียนและสัตว์ป่ารู้ดีว่าพวกนายพรานจะต้องทำร้ายพวกเขา พวกเขาจึงต้องหาทางปกป้องตัวเอง

อ้ายจำเรียนใช้ความรู้ที่เขาเรียนรู้จากสัตว์ป่าในการวางกับดักและหลอกล่อนายพราน นายพรานถูกกับดักและหลงทางในป่า สัตว์ป่าก็ช่วยกันไล่ให้นายพรานออกไปจากป่า

หลังจากนั้น อ้ายจำเรียนและสัตว์ป่าก็อยู่กันอย่างมีความสุขในป่า พวกเขาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และเคารพซึ่งกันและกันเสมอไป

เรื่องอ้ายจำเรียนอกหักรัก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว    มีชายหนุ่มชื่ออ้ายจำเรียน   เขาเป็นคนขยันและฉลาด แต่โชคร้ายในเรื่องความรัก     เขาแอบหลงรักสาวงามนามว่าคำแก้วมานาน แต่คำแก้วกลับไม่สนใจเขาเลย

วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนตัดสินใจสารภาพความในใจกับคำแก้ว แต่คำแก้วปฏิเสธอย่างไม่ใยดี นางบอกว่านางมีคนรักอยู่แล้ว อ้ายจำเรียนหัวใจสลาย เขาเสียใจมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ

อ้ายจำเรียนตัดสินใจออกเดินทางไปต่างแดนเพื่อลืมความรักที่ผิดหวัง เขาเดินทางไปหลายเมืองและได้พบกับผู้คนมากมาย แต่เขาก็ยังคงคิดถึงคำแก้วอยู่เสมอ

หลายปีผ่านไป อ้ายจำเรียนกลายเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวย เขาเดินทางกลับบ้านเกิดและได้พบกับคำแก้วอีกครั้ง คำแก้วตอนนี้แก่ชราและยากจน นางเล่าให้อ้ายจำเรียนฟังว่าคนรักของนางได้ทอดทิ้งนางไปนานแล้ว

อ้ายจำเรียนรู้สึกสงสารคำแก้ว เขาจึงช่วยเหลือและดูแลนางจนกระทั่งนางเสียชีวิต คำแก้วรู้สึกขอบคุณอ้ายจำเรียนมาก นางบอกกับเขาว่านางเสียใจที่ปฏิเสธเขาไปในวันนั้น

อ้ายจำเรียนได้เรียนรู้ว่าความรักที่แท้จริงไม่ใช่สิ่งที่เราจะได้มาโดยง่ายดาย บางครั้งเราต้องผ่านความเจ็บปวดและความผิดหวังมากมาย แต่ถ้าเราอดทนและไม่ย่อท้อ สักวันหนึ่งเราจะพบกับความรักที่แท้จริงของเรา
-----
Q26

ความรักของอ้ายจำเรียนกับมะปราง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มชื่ออ้ายจำเรียน เขาเป็นคนขยันและฉลาด แต่โชคร้ายที่เขาไม่ประสบความสำเร็จในความรัก

วันหนึ่ง อ้ายจำเรียนได้พบกับหญิงสาวชื่อมะปราง เธอเป็นคนสวยและฉลาด อ้ายจำเรียนตกหลุมรักเธอทันที เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะใจเธอ แต่เธอก็ไม่สนใจเขา

อ้ายจำเรียนเสียใจมาก เขาตัดสินใจที่จะลืมเธอและมุ่งมั่นกับการเรียนแทน เขาตั้งใจเรียนอย่างหนักและในที่สุดก็ได้เป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียง

หลายปีต่อมา อ้ายจำเรียนได้พบกับมะปรางอีกครั้ง เธอได้กลายเป็นหญิงสาวที่สวยงามและฉลาดยิ่งกว่าเดิม อ้ายจำเรียนยังคงรักเธออยู่ แต่เขาก็รู้ว่าเธอคงไม่มีวันรักเขา

อ้ายจำเรียนตัดสินใจที่จะสารภาพความรู้สึกของเขาให้มะปรางรู้ เธอประหลาดใจที่ได้ยินคำสารภาพของเขา แต่เธอก็ปฏิเสธเขาอย่างสุภาพ

อ้ายจำเรียนเสียใจมาก แต่เขาก็เข้าใจ เธอมีสิทธิ์ที่จะเลือกคนที่เธอรัก เขาอวยพรให้เธอมีความสุขและจากไป

อ้ายจำเรียนกลับมาใช้ชีวิตของตัวเอง เขาประสบความสำเร็จในอาชีพการงานและมีเพื่อนที่ดีมากมาย แม้ว่าเขาจะไม่เคยลืมมะปราง แต่เขาก็สามารถก้าวต่อไปได้

และนั่นคือเรื่องราวของอ้ายจำเรียน ชายหนุ่มที่ผิดหวังในความรัก แต่ก็ประสบความสำเร็จในชีวิต
-----

นิทานเรื่อง นายกรัฐมนตรี นายจำเรียน จันทร์รักษา ผู้บริหารประเทศไทย

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในดินแดนอันไกลโพ้น มีประเทศหนึ่งชื่อว่า "ไทยแลนด์" ประเทศนี้ปกครองโดยกษัตริย์ผู้ทรงพระปรีชาสามารถ พระนามว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช"

ในสมัยนั้น ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง ประชาชนยากจนข้นแค้นแสนสาหัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วงพสกนิกรของพระองค์ จึงทรงมีพระราชโองการให้หาผู้ที่มีความสามารถมาบริหารประเทศ

เหล่าขุนนางและเสนาบดีต่างก็เสนอชื่อผู้ที่มีความรู้ความสามารถมากมาย แต่พระองค์ยังไม่ทรงพอพระทัย จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่พระองค์ทรงเสด็จประพาสชนบท พระองค์ได้พบกับชายหนุ่มผู้หนึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นไม้

ชายหนุ่มผู้นั้นมีใบหน้าซื่อสัตย์และแววตาฉลาด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสถามว่า "เจ้าชื่ออะไร"

ชายหนุ่มกราบทูลว่า "ข้าพระบาทชื่อ จำเรียน จันทร์รัก ขอเดชะ"

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงซักถามถึงความรู้ความสามารถของชายหนุ่ม จำเรียนเล่าให้พระองค์ฟังถึงประสบการณ์การทำงานของตนในด้านเศรษฐกิจและการบริหาร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพอพระทัยในความรู้ความสามารถของจำเรียน จึงทรงแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย

จำเรียนรับพระราชโองการด้วยความปลาบปลื้มใจ และตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เขาเริ่มต้นด้วยการปฏิรูประบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

จำเรียนยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เขาสร้างโรงเรียนและโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และจัดสวัสดิการต่างๆ ให้แก่ผู้ยากไร้

ภายใต้การบริหารของจำเรียน ประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง และประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่น่าอยู่มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

จำเรียนบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและเสียสละเพื่อส่วนรวม เขาไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว และทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อความสุขของประชาชน

เมื่อถึงวาระที่จำเรียนจะต้องวางมือจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ประชาชนทั้งประเทศต่างโศกเศร้าและอาลัยรักเขา แต่จำเรียนก็ยังคงทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลต่อไป

จำเรียน จันทร์รัก เป็นนายกรัฐมนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย เขาเป็นผู้นำที่ซื่อสัตย์ ฉลาด และเสียสละเพื่อส่วนรวม ชื่อของเขาจะยังคงอยู่ในใจของชาวไทยตลอดไป
-----
เรื่องสิงโตกับงูพิษ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไพศาล มีสิงโตตัวหนึ่งอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนั้น สิงโตตัวนี้มีนิสัยดุร้ายและชอบล่าเหยื่อเป็นอาหาร

วันหนึ่ง สิงโตตัวนี้ได้ออกล่าเหยื่อตามปกติ แต่กลับไม่พบเหยื่อแม้แต่ตัวเดียว มันเดินเตร่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงก้อนหินก้อนหนึ่งที่มีรูเล็กๆ อยู่

สิงโตตัวนี้รู้สึกอยากรู้อยากเห็น จึงเอามือล้วงเข้าไปในรู แต่ทันใดนั้น มันก็รู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัส เพราะมีงูพิษตัวหนึ่งกัดเข้าที่มือของมัน

สิงโตตัวนี้ร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดและพยายามดึงมือของมันกลับออกมา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ งูพิษตัวนั้นได้ฉีดพิษเข้าไปในร่างกายของสิงโตจนหมดสิ้น

สิงโตตัวนี้รู้ตัวดีว่าตนเองใกล้จะตายแล้ว จึงได้นอนลงและคร่ำครวญถึงความโง่เขลาของตนเองที่ได้เอามือล้วงเข้าไปในรูโดยไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน

ในขณะที่สิงโตตัวนี้กำลังจะสิ้นใจนั้น มันได้คิดถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ได้ตรัสไว้ว่า "อย่าประมาทในสิ่งที่ไม่รู้จัก"

สิงโตตัวนี้ได้สำนึกผิดในบาปกรรมที่ตนเองได้กระทำมา และได้อธิษฐานขอให้พระพุทธเจ้าโปรดอภัยให้กับตนด้วยเถิด

หลังจากนั้น สิงโตตัวนี้ก็ได้สิ้นใจตายลง ณ ที่แห่งนั้น และได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่าเดิม
-----

เรื่องเครื่องประดับ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพระราชาพระนามว่าพระเจ้าเสริววนิชาธิบดี ครองราชย์อยู่ในเมืองพาราณสี พระองค์ทรงมีพระมเหสีพระนามว่าพระนางเสริววนิชาเทวี พระนางทรงเป็นหญิงงามเลิศล้ำ มีพระทัยโอบอ้อมอารี

วันหนึ่ง พระเจ้าเสริววนิชาธิบดีเสด็จออกว่าราชการ พระนางเสริววนิชาเทวีจึงเสด็จไปเยี่ยมพระอัครมเหสี พระนางทรงเห็นพระอัครมเหสีทรงเครื่องประดับอันวิจิตรอลังการ จึงเกิดความริษยาขึ้นมาในพระทัย

พระนางเสริววนิชาเทวีจึงเสด็จกลับมายังตำหนัก แล้วตรัสสั่งให้พระพี่เลี้ยงไปนำเครื่องประดับอันวิจิตรอลังการมาจากพระคลัง พระพี่เลี้ยงกราบทูลว่าเครื่องประดับเหล่านั้นเป็นของพระอัครมเหสี พระนางเสริววนิชาเทวีจึงตรัสสั่งให้พระพี่เลี้ยงไปขโมยเครื่องประดับเหล่านั้นมา

พระพี่เลี้ยงจำใจต้องไปขโมยเครื่องประดับมาให้พระนางเสริววนิชาเทวี พระนางทรงสวมเครื่องประดับเหล่านั้นแล้วเสด็จไปเฝ้าพระเจ้าเสริววนิชาธิบดี พระองค์ทรงเห็นพระนางทรงเครื่องประดับอันวิจิตรอลังการก็ทรงพิโรธนัก

พระเจ้าเสริววนิชาธิบดีตรัสสั่งให้พระพี่เลี้ยงไปนำพระอัครมเหสีมา พระอัครมเหสีเสด็จมาเฝ้าพระเจ้าเสริววนิชาธิบดี พระองค์ทรงซักถามเรื่องเครื่องประดับ พระอัครมเหสีกราบทูลว่าพระนางไม่ได้ทรงขโมยเครื่องประดับมา

พระเจ้าเสริววนิชาธิบดีไม่ทรงเชื่อ จึงตรัสสั่งให้ลงโทษพระอัครมเหสี พระอัครมเหสีทรงเสียพระทัยนัก จึงเสด็จหนีออกจากพระราชวังไป

พระอัครมเหสีเสด็จไปอาศัยอยู่ในป่า พระนางทรงตั้งครรภ์และประสูติโอรสพระองค์หนึ่ง พระนางทรงตั้งพระนามโอรสว่าพระกุมารเสริววนิชา

พระกุมารเสริววนิชาทรงเจริญวัยขึ้นมาเป็นหนุ่มรูปงาม มีพระทัยโอบอ้อมอารี วันหนึ่ง พระกุมารเสริววนิชาเสด็จออกล่าสัตว์ในป่า พระองค์ทรงพบพระเจ้าเสริววนิชาธิบดี พระองค์จำพระราชบิดาได้ จึงเสด็จเข้าไปกราบ

พระเจ้าเสริววนิชาธิบดีทรงโสมนัสมากที่ได้พบพระโอรส จึงทรงอภัยโทษให้พระอัครมเหสีและนำพระนางกลับมายังพระราชวัง พระเจ้าเสริววนิชาธิบดีทรงสละราชสมบัติให้พระกุมารเสริววนิชา และพระกุมารเสริววนิชาก็ได้ครองราชย์สมบัติสืบต่อจากพระราชบิดา
-----
นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนกับชู
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มชื่อ อ้ายจำเรียน เขาเป็นคนขยันขันแข็ง แต่ยากจนมาก วันหนึ่งเขาได้ไปขุดดินในป่า แล้วก็ได้พบกับหม้อทองคำใบใหญ่ เขาจึงนำหม้อทองคำนั้นกลับบ้านไปให้แม่

แม่ของอ้ายจำเรียนดีใจมาก นางจึงนำทองคำไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ มาไว้ในบ้าน แล้วก็จ้างคนมาสร้างบ้านใหม่ให้อ้ายจำเรียนอยู่

เมื่ออ้ายจำเรียนมีเงินทองมากมาย เขาก็เริ่มเที่ยวเตร่และดื่มเหล้าจนเมามายทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้ไปเที่ยวงานวัด แล้วก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ ชู

ชูเป็นหญิงสาวที่สวยงามมาก อ้ายจำเรียนจึงตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น เขาจึงขอให้แม่ไปสู่ขอชูมาเป็นภรรยาของเขา

แม่ของอ้ายจำเรียนก็ดีใจมาก นางจึงไปสู่ขอชูมาเป็นภรรยาของลูกชาย แต่ชูเป็นหญิงสาวที่ขี้เกียจและไม่ชอบทำงาน เธอชอบนอนตื่นสายและใช้เงินของอ้ายจำเรียนไปซื้อของฟุ่มเฟือยต่างๆ

อ้ายจำเรียนเริ่มเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของชู เขาจึงเริ่มดื่มเหล้าหนักขึ้นทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้เมาจนหลับไปในป่า แล้วก็ถูกเสือมากิน

เมื่อชูรู้ว่าอ้ายจำเรียนตายแล้ว เธอก็ไม่เสียใจเลย เธอกลับดีใจด้วยซ้ำ เพราะเธอจะได้ใช้เงินของอ้ายจำเรียนได้ตามใจชอบ

ชูใช้เงินของอ้ายจำเรียนไปซื้อของฟุ่มเฟือยต่างๆ จนหมดเกลี้ยง แล้วเธอก็กลายเป็นขอทานในที่สุด
-----

สวัสดีครับท่านผู้อ่านและFCอ้ายจำเรียนตอกสดๆที่น่ารักทุกคนอ่านนิทานแล้วอยากสนับสนุนนิทานของอ้ายจำเรียนแต่งนิทานด้วยAI เพื่อเป็นกำลังใจและเป็นค่าAI จะทะยอยลงวันละ3-4เรื่องสนับสนุนด้วยการโอนเงินตามช่องทางนี้นะครับแล้วแต่จะให้นะครับ อย่าโอนมาเยอะโอนมาแค่1-100บาทพอ ครับแต่โอนเป็นประจำโอนมาบ่อยๆนะครับ อยากแนะนำนิทานแนวไหน ขอคำติชมด้วยนะครับพิมบอกทางไลน์มานะคับหรือจะคอมเม้นท์มาในโพสนี้ก็ได้ครับ
ช่องทางการโอนเงิน👇
โทร/พร้อมเพย์/ทรูมันนี่วอเลทเบอร์👉 0892718015
ชื่อนาย จำเรียน จันทร์รักษา
ทักแชทไลน์กดค้างไว้จนกว่าจะขึ้นรูปไลน์👇กดที่รูปไลน์เลยครับ👇🏽
https://line.me/ti/p/cGDqLx_Lhe

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม