รวมนิทาน
กวางกับเพื่อน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีกวางตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง มันมีเพื่อนสนิทอยู่สองตัว ได้แก่ สุนัขจิ้งจอกและนกกระเรียน
วันหนึ่ง ขณะที่กวางกำลังเดินเล่นอยู่ในป่า มันก็ได้ยินเสียงสุนัขจิ้งจอกร้องโหยหวน มันจึงรีบวิ่งไปหาเพื่อนของมัน และพบว่าสุนัขจิ้งจอกกำลังติดอยู่ในหลุมพราง
กวางรีบช่วยสุนัขจิ้งจอกออกมาจากหลุมพราง และสุนัขจิ้งจอกก็ขอบคุณกวางเป็นอย่างมาก ต่อมาไม่นาน กวางก็ได้ยินเสียงนกกระเรียนร้องโหยหวน มันจึงรีบวิ่งไปหาเพื่อนของมัน และพบว่านกกระเรียนกำลังติดอยู่ในกับดัก
กวางรีบช่วยนกกระเรียนออกมาจากกับดัก และนกกระเรียนก็ขอบคุณกวางเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นาน นักล่าก็เข้ามาในป่า และไล่ล่ากวาง กวางวิ่งหนีสุดชีวิต แต่ก็ไม่สามารถหนีนักล่าได้
ในขณะที่กวางกำลังจะสิ้นหวัง สุนัขจิ้งจอกและนกกระเรียนก็ปรากฏตัวขึ้น สุนัขจิ้งจอกใช้หางของมันล่อให้นักล่าวิ่งตามไปทางอื่น ส่วนนกกระเรียนก็บินไปเกาะบนต้นไม้ และส่งเสียงร้องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของนักล่า
ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนๆ กวางจึงสามารถหนีจากนักล่าได้สำเร็จ และมันก็ได้เรียนรู้ว่าเพื่อนแท้คือคนที่อยู่เคียงข้างเราในยามยากลำบาก
มีหมู่บ้านชายป่า มีเด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งชื่อจ่อย จ่อยเป็นคนชอบพูดโกหกเป็นประจำ วันหนึ่งจ่อยเกิดนึกสนุกอยากแกล้งชาวบ้านจึงร้องตะโกนว่า "ช่วยด้วย ๆ หมาป่ามันจะมากินแกะแล้ว" ชาวบ้านต่างพากันมาช่วย พอจ่อยเห็นชาวบ้านวิ่งหน้าตาตื่น จ่อยก็หัวเราะอ้ากๆๆ อย่างชอบอกชอบใจ แล้วชอบเล่นสนุกแบบนี้อีกหลายครั้ง จนชาวบ้านก็พากันวิ่งหน้าตาตื่นมาช่วยเขาทุกครั้ง และพบว่าพวกเขาถูกหลอกอีกเช่นเคย จนวันหนึ่งหมาป่าก็มาแทร้ ๆ คราวนี้จ่อยตะโกนให้คนมาช่วยสุดเสียง "ช่วยด้วย ๆ หมาป่ามันจะมากินแกะข้อยแล้วเด้อพ่อแหม่พี่น้องเอ้ย" แต่ครั้งนี้กลับบ่อมีชาวบ้านออกมาช่วยจ่อยอีกแล้ว เพราะชาวบ้านคิดหว่าจ่อยคงจะโกหกอีก สุดท้ายเจ้าหมาป่าจึงกินแกะของจ่อยไปทีละตัว ๆ จนหมด จนชาวได้รู้หว่า แกะของจ่อยโดนหมากินจนหมดคอก มีชาวบ้านบางคนออกมาสมน้ำหน้าจ๋อย ที่ชอบไปโกหกชาวบ้านเป็นเรื่องสนุกสนาน บางคนก็สงสาร เมื่อจ่อยได้บทเรียนจากการโกหกหลอกผู้อื่น ในครั้งที่ผ่านมา จนได้บทเรียนที่ราคาแพงครั้งนี้ จ่อยเลยขอสาบานต่อชาวบ้านว่า ตั้งแต่นี้ไปจะไม่โกหกใครอีก หากผิดคำสาบานขอให้มีอันเป็นไป ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จ่อยไม่เคยไปโกหกหลอกลวงใครอีกเลย ต่อมาจ่อยได้ซื้อแกะชุดใหม่มาเลี้ยงอีกประมาณ100ตัว.มีอยู่วันหนึ่งมีหมาป่าเข้ามากัดกินแกะอีกครั้ง จ่อยก็ตระโกนให้ชาวบ้านมาช่วยอีก ชาวบ้านก็มาจริงๆก็เห็นหมาป่ากำลังไล่กัดแกะของเขาอยู่ ชาวบ้านก็ช่วยกันไล่หมาป่าให้ออกไป มีชาวบ้านคนหนึ่งพูดว่า จ่อยเอ้ยอันนี้แหละเกิดผลดีการที่เราไม่โกหกหลอกลวงใคร ใครๆก็อยากมาช่วยเหลือเองไล่หมาป่าให้ จ่อยพูดว่า ต่อไปนี้ผมจะไม่ไปโกหกหรอกชาวบ้านอีก ผมขอบคุณลุงป้าน้าอาและพี่ๆด้วย ที่มาไล่หมาป่าให้ครั้ง ถ้าวันนี้ผมไม่มีลุงป้าน้าอาและพี่ๆมาช่วยอีกป่านนี้ แกะของผมคงจะถูกหมาป่ากัดกินหมดแล้วครับ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
คนที่ชอบโกหก แม้พูดควางจริงก็ไม่มีใครเชื่อ
เเม่ปูกับลูกปู
เช้าวันหนึ่งแม่ปูพาลูก ๆ ออกมาเดินหาอาหารที่ชายหาด แม่ปูเห็นลูกปูเดินเฉไปเฉมา ไม่เป็นระเบียบจึงบอกลูกปูว่า "ลูก ๆ จ๋า เดินแบบนี้ไม่สวยเลยนะจ๊ะ ไหนลองเดินตรง ๆ หน่อยซิ" ลูกปูจึงพูดกับแม่ว่า "ถ้าอย่างนั้นแม่ช่วยเดินให้พวกหนูดูหน่อยสิคะ พวกหนูจะได้เดินตาม" แม่ปูจึงเดินให้ลูกดู แต่มันก็ไม่สามารถเดินให้ตรงได้เช่นเดียวกัน หลังจากวันนั้น แม่ปูจึงไม่กล้าสอนลูกในสิ่งที่ตนทำไม่ได้อีกเลย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ก่อนจะสอนใคร ควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้ได้เสียก่อน
ผู้ฟังย่อม ไม่เชื่อถือและไม่มีกำลังใจในการปฏิบัติตามลองคิดดูเถิด ถ้าคนเป็น โรคเรื้อนคนหนึ่งยืนพรรณนาถึงคุณภาพของยา และวิธีรักษาโรคเรื้อนให้หายขาดได้
ท่านผู้ฟังจะรู้สึกอย่างไรถ้ามันดีจริง
ไฉนผู้นั้นจึงไม่จัดการรักษาโรคเรื้อนของตนให้หายขาดเสียก่อน
หรือเป็นแต่เพียงผู้โฆษณาขายยา แต่ไม่เคยลอง ใช้ด้วยตนเองเลย
ทั้ง ๆ ที่ตนก็เป็นโรคนั้นอยู่ น่าสลดใจหรือไม่?
บางคนสอนให้คนอื่นเลิกโลภ เลิกโกรธ เลิกหลง
แต่ตนเองยังเต็มอยู่ด้วยความ โลภ ความโกรธ ความหลง
จนล้นออกมาให้เห็นกันชัด ๆ อยู่ข้างนอก น่าสลดใจ เพียงใด
ถึงกระนั้นก็ยังดีกว่าคนบางพวกที่เพียบพร้อมไปด้วย ราคะ โทสะ โมหะ
คือ โลภ โกรธ หลง แล้วยังชักชวนผู้อื่นเพื่อเป็นอย่างนั้นด้วย
เหมือนสุนัขหางด้วนแล้วชวนเพื่อน ๆ ให้ไปตัดหางเสียด้วย
อย่างนี้มีโทษ สองซ้ำสามซ้อนพ่อบางคนเป็นโจร แต่พรรณนาโทษแห่งความโจรให้ลูกฟัง
ก็ยังดีกว่าชักชวนลูกให้เป็นโจรเสียด้วย
ทางที่ดีกว่านั้น คือเลิกความเป็นโจร ด้วยตนเองเสียด้วย
และพรรณนาโทษแห่งความเป็นโจรให้ลูกฟังด้วย
นิทานเรื่องคนกับเงิน
ชายหนุ่มคนหนึ่ง มุ่งมั่นทำงานตั้งใจเก็บเงินอย่างขยันขันแข็ง จนเขามีเงินเก็บจำนวนมาก เขานำเงินไปสร้างบ้านหลังใหญ่โตและจ้างบริวารมากมายมาคอยดูแล เขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนกองเงินกองทอง ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย เที่ยวเตร่ไปวัน ๆ ในที่สุดเงินที่มีก็ค่อย ๆ หมดไป บริวารก็หนีหาย จนต้องนำบ้านและรถไปขายเพื่อใช้หนี้ เขาได้แต่นึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป แต่มันก็สายไปเสียแล้ว ชีวิตที่เหลือของเขาจึงต้องอยู่อย่างยากลำบาก
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ควรใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท
ลักษณะสำคัญของความไม่ประมาท คือ ความเป็นอยู่อย่างไม่ขาดสติ สติ แปลว่า ความระลึก ความนึก หมายความว่า มีความตื่นตัว คอยระลึกคอยนึกอยู่ เพื่อดึง เพื่อตรึงจิตใจเอาไว้ให้อยู่และให้ดำเนินไปกับสิ่งถูกต้องดีงาม เป็นคุณเป็นประโยชน์ และไม่ยอมให้จิตใจไถลออกไปกับความชั่ว และสิ่งที่เป็นโทษอันจะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหาย ในตัวอย่างนิทานเรื่องคนกับเงินนี้นะคับ
กระต่ายป่าฝูงหนึ่งมีนิสัยขี้ขลาด ชอบตื่นตกใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง จึงมักโดนสัตว์ตัวอื่น ๆ แกล้งอยู่เป็นประจำ พวกมันรู้สึกเหนื่อยล้ากับการต้องอยู่อย่างอกสั่นขวัญแขวนแบบนี้เหลือเกิน จึงตัดสินใจจะจบชีวิตลงด้วยการกระโดดลงน้ำ แต่พอเจ้ากระต่ายวิ่งไปถึงสระน้ำ บรรดากบซึ่งกำลังนั่งเล่นอยู่ริมสระก็ตกใจนึกว่ามีอันตรายมา พากันกระโดดหนีลงน้ำอย่างรวดเร็ว กระต่ายตัวหนึ่งเห็นดังนั้น จึงบอกกับกระต่ายตัวอื่น ๆ ว่า "ช้าก่อนเพื่อน ๆ เราอย่าคิดฆ่าตัวตายกันเลย เห็นมั้ยว่ายังมีสัตว์อื่นที่อ่อนแอและขี้ขลาดกว่าพวกเราเสียอีก"
นิทานเรื่องนี้สอนว่า
ในโลกนี้ยังมีคนเป็นทุกข์มากว่าเราอยู่เสมอนะคับ
อย่า ได้ด้อิจฉา ใครเลย
เขาอาจเป็นสุขกว่าเราบางเรื่อง
แต่ก็เป็นทุกข์กว่าเราบางเรื่องเช่นกัน
ชีวิตมีความสมดุลเสมอ
ไม่มีใครสุขไปทุกเรื่อง
แค่เราอาจยังไม่เห็นด้านที่เขาทุกข์
อย่าลืมขอบคุณเรื่องดีๆ ที่เรามีอยู่
มันอาจเป็นสิ่งที่คนอื่นโหยหาก็เป็นได้
เวลาเห็นความสุขของใคร
ถ้าเห็นทุกข์ของเขาด้วยย่อมพบว่า
เราแค่สุข-ทุกข์คนละเรื่อง
และชีวิตเราก็ไม่แย่อย่างที่เราคิดหรอกค้าบ
นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนตอกสดๆกับคำแก้ว
ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีหนุ่มน้อยชื่อจำเรียน เขาเป็นคนขยันหมั่นเพียรและชอบเรียนหนังสือมาก วันหนึ่ง ขณะที่จำเรียนกำลังตั้งใจท่องหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาก็ได้ยินเสียงเพลงอันไพเราะดังมาจากกระท่อมหลังหนึ่ง
จำเรียนเงยหน้าขึ้นมองและเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งดีดพิณอยู่หน้ากระท่อม เธอมีใบหน้าที่งดงามและดวงตาที่สดใสเป็นประกาย จำเรียนรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่าเมื่อได้เห็นเธอ เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น
จำเรียนรีบวิ่งไปที่กระท่อมและแนะนำตัวกับหญิงสาว เธอชื่อว่าคำแก้ว เป็นลูกสาวของชาวนาในหมู่บ้าน จำเรียนและคำแก้วพูดคุยกันอย่างถูกคอและรู้สึกผูกพันกันอย่างรวดเร็ว
นับจากวันนั้น จำเรียนก็แวะเวียนไปหาคำแก้วที่กระท่อมทุกวัน พวกเขาใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุขโดยการอ่านหนังสือ เล่นดนตรี และพูดคุยกันอย่างไม่รู้จบ
ความรักของจำเรียนและคำแก้วงอกงามขึ้นทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่ง จำเรียนตัดสินใจขอคำแก้วแต่งงาน คำแก้วตอบตกลงด้วยความเต็มใจ และทั้งคู่ก็แต่งงานกันอย่างเรียบง่ายในหมู่บ้าน
จำเรียนและคำแก้วใช้ชีวิตคู่ด้วยความรักและความเข้าใจ พวกเขามีลูกด้วยกันหลายคนและเลี้ยงดูพวกเขาให้เป็นคนดีของสังคม นิทานเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าความรักสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา และความรักที่แท้จริงจะอยู่เคียงข้างเราตลอดไป
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าชายองค์หนึ่งนามว่าเจ้าชายอ้ายจำเรียน เจ้าชายอ้ายจำเรียนเป็นเจ้าชายที่รูปงามและฉลาดมาก แต่พระองค์กลับมีนิสัยขี้เกียจและไม่ชอบเรียนขหนังสือ
วันหนึ่ง พระราชาผู้เป็นพระบิดาของเจ้าชายอ้ายจำเรียนได้ตรัสว่า "ลูกเอ๋ย ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องเรียนหนังสือ เจ้าโตเป็นหนุ่มแล้วและจำเป็นต้องรู้จักหน้าที่ของตน"
แต่เจ้าชายอ้ายจำเรียนกลับกราบทูลว่า "ข้าพระองค์ไม่ชอบเรียนหนังสือ ข้าพระองค์ชอบเล่นมากกว่า"
พระราชาทรงโกรธมากและตรัสว่า "ถ้าเจ้าไม่เรียนหนังสือ เจ้าจะไม่ได้รับมรดกใดๆ จากข้า"
เจ้าชายอ้ายจำเรียนตกใจมาก เพราะพระองค์รักความหรูหราและความสะดวกสบาย จึงจำใจต้องเรียนหนังสือ
แต่เจ้าชายอ้ายจำเรียนก็ยังแอบหนีไปเล่นอยู่บ่อยๆ จนพระราชาทรงทราบเข้า จึงตรัสว่า "ถ้าเจ้าหนีไปเล่นอีก ข้าจะขังเจ้าไว้ในหอคอย"
เจ้าชายอ้ายจำเรียนกลัวมาก จึงไม่กล้าหนีไปเล่นอีก แต่พระองค์ก็ยังไม่ชอบเรียนหนังสืออยู่ดี
วันหนึ่ง ขณะที่เจ้าชายอ้ายจำเรียนกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ ก็มีนกตัวหนึ่งบินเข้ามาในห้อง นกตัวนั้นพูดได้ว่า "เจ้าชายอ้ายจำเรียน ข้าจะช่วยให้เจ้าเรียนหนังสือได้"
เจ้าชายอ้ายจำเรียนดีใจมาก จึงถามว่า "เจ้าจะช่วยข้าอย่างไร"
นกตัวนั้นตอบว่า "ข้าจะสอนให้เจ้าจำทุกสิ่งที่เจ้าอ่าน"
เจ้าชายอ้ายจำเรียนตกลง นกตัวนั้นก็สอนให้พระองค์จำทุกสิ่งที่พระองค์อ่านได้อย่างแม่นยำ
หลังจากนั้น เจ้าชายอ้ายจำเรียนก็เรียนหนังสือได้ดีมาก พระองค์สอบได้ที่หนึ่งในชั้นเรียนทุกครั้ง พระราชาทรงดีใจมากและยกเลิกคำสั่งที่ว่าจะขังพระองค์ไว้ในหอคอย
เจ้าชายอ้ายจำเรียนได้ครองราชย์เป็นกษัตริย์หลังจากที่พระราชาผู้เป็นพระบิดาสวรรคต พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ฉลาดและเป็นที่รักของประชาชน พระองค์ครองราชย์ด้วยความยุติธรรมและเมตตา และอาณาจักรของพระองค์ก็เจริญรุ่งเรืองตลอดมา
สวัสดีครับท่านผู้อ่านและFCอ้ายจำเรียนตอกสดๆที่น่ารักทุกคนอ่านนิทานแล้วอยากสนับสนุนนิทานของอ้ายจำเรียนแต่งนิทานด้วยAI เพื่อเป็นกำลังใจและเป็นค่าAI จะทะยอยลงวันละ3-4เรื่องสนับสนุนด้วยการโอนเงินตามช่องทางนี้นะครับแล้วแต่จะให้นะครับ อย่าโอนมาเยอะโอนมาแค่1-100บาทพอ ครับแต่โอนเป็นประจำโอนมาบ่อยๆนะครับ อยากแนะนำนิทานแนวไหน ขอคำติชมด้วยนะครับพิมบอกทางไลน์มานะคับหรือจะคอมเม้นท์มาในโพสนี้ก็ได้ครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น