นิทานวันที่20/04/2567

สวัสดีครับเพื่อนๆอยากจะสนับสนุนนิทานและคำกลอนของอ้ายจำเรียน แต่งโดยใช้เอไอช่วยแต่งให้บางเรื่องอ่านจะขวิดจะขัด อ้ายจำเรียนต้องโทษด้วยนะครับ อยากให้กำลังเล็กๆน้อยๆด้วยการโอนเงินได้ที่
 พร้อมเพย์เบอร์👉0892718015
ทรูมันนี่วอเลทเบอร์👉0892718015
           นาย จำเรียน จันทร์รักษา
          ขอบคุณมากครับ
สุดท้ายนี้อ้ายจำเรียนไม่มีอะไรให้นอกจากอวยพรให้
อ้ายจำเรียนขอให้น้องๆคนที่ใจดีกับอ้ายจำเรียนและใจดีมีความแมตตาต่อผู้อื่นทุกคนสุขสันต์ทุกวันไม่เจ็บไม่ป่วย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ขอให้พระคุ้มครองคุณและครอบครัว  ขอให้สุขสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนา ขอให้การเรียนการงานการซื้อขายและธุรกิจ  ราบรื่นสดใสปราศจากอุปสรรคทั้งปวง ขอให้สวยหล่อกันทุกคน ขอให้มีความสุขในการตอกกับแฟนราบรื่น จนถึงสวรรค์วิมานกันทุกคนนะครับ



หัวหน้าห้องคนใหม่
ณ โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง มีการเลือกตั้งหัวหน้าห้องชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทุกคนต่างก็หมายปอง

ในบรรดานักเรียนทั้งหมด มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อ "อ้ายจำเรียน" ที่มีความตั้งใจและมุ่งมั่นในการเรียนเป็นอย่างมาก เขาเป็นเด็กที่ขยัน อ่านหนังสือทุกวัน และมักจะได้คะแนนสอบเป็นอันดับต้นๆ ของห้องเสมอ

เมื่อถึงวันเลือกตั้ง อ้ายจำเรียนก็ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าห้อง เขาหาเสียงโดยเน้นนโยบายที่จะพัฒนาการเรียนการสอนในห้องให้ดียิ่งขึ้น และจะสร้างความสามัคคีในหมู่นักเรียน

การหาเสียงของอ้ายจำเรียนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเพื่อนๆ ในห้อง เพราะทุกคนต่างก็รู้จักความตั้งใจและความสามารถของเขา ในวันเลือกตั้ง อ้ายจำเรียนจึงได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าห้องชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ด้วยคะแนนเสียงที่ท่วมท้น

เมื่อได้รับเลือกเป็นหัวหน้าห้องแล้ว อ้ายจำเรียนก็เริ่มลงมือทำงานตามนโยบายที่หาเสียงไว้ เขาจัดให้มีการเรียนพิเศษในวิชาที่เพื่อนๆ อ่อน เพื่อช่วยให้ทุกคนพัฒนาการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เขายังจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่นักเรียน เช่น การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ และการจัดแข่งขันกีฬาสี

ด้วยความตั้งใจและความทุ่มเทของอ้ายจำเรียน ทำให้ห้องเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 กลายเป็นห้องเรียนที่มีการเรียนการสอนที่ดีเยี่ยม และนักเรียนทุกคนก็มีความสามัคคีกลมเกลียวกันเป็นอย่างมาก อ้ายจำเรียนจึงเป็นหัวหน้าห้องที่ได้รับการยกย่องและชื่นชมจากทั้งเพื่อนๆ และคุณครู
-----
Q163
นิทานอ้ายจำเรียนไปโอลิมปิก
ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง มีเด็กชายชื่ออ้ายจำเรียน เป็นเด็กที่เรียนเก่งและมีความมุ่งมั่นสูง เขาตั้งใจเรียนทุกวิชา และมักจะได้คะแนนสอบเป็นอันดับหนึ่งของห้องเสมอ ด้วยความเก่งและความขยันของเขา ทำให้อ้ายจำเรียนได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าห้อง

วันหนึ่ง ครูประจำชั้นได้ประกาศว่า โรงเรียนจะส่งนักเรียนไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับประเทศ อ้ายจำเรียนรู้สึกตื่นเต้นและอยากเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งขันมาก เขาจึงตั้งใจฝึกฝนและทบทวนบทเรียนอย่างหนัก

หลังจากการแข่งขันรอบคัดเลือก อ้ายจำเรียนก็ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับประเทศ เขาดีใจมากและตั้งใจฝึกฝนอย่างเต็มที่

ในวันแข่งขัน อ้ายจำเรียนทำข้อสอบได้ดีมาก เขาตอบคำถามได้อย่างถูกต้องทุกข้อ และได้คะแนนสูงเป็นอันดับต้นๆ ทำให้เขาได้รับรางวัลเหรียญทองกลับมา

เมื่ออ้ายจำเรียนกลับมาถึงโรงเรียน เขาก็ได้รับการต้อนรับจากเพื่อนๆ และครูด้วยความชื่นชมและยินดี ทุกคนภูมิใจในตัวเขาที่สามารถคว้ารางวัลเหรียญทองมาได้

จากนั้น อ้ายจำเรียนก็ได้เล่าประสบการณ์การแข่งขันโอลิมปิกวิชาการให้เพื่อนๆ ฟัง เขาบอกว่าการแข่งขันครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าและสนุกมาก เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมาย และได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ จากทั่วประเทศ

เพื่อนๆ ของอ้ายจำเรียนต่างก็ชื่นชมและซาบซึ้งในความเก่งและความมุ่งมั่นของเขา พวกเขาตั้งใจว่าจะเอาอ้ายจำเรียนเป็นแบบอย่าง และจะตั้งใจเรียนเพื่อประสบความสำเร็จในอนาคตเช่นกัน
-----
Q162
นิทานอ้ายจำเรียนเป็นฮีโร่
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีเด็กชายชื่ออ้ายจำเรียน เป็นเด็กที่เรียนเก่งและขยันมาก เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นหัวหน้าห้องและเป็นฮีโร่ของเพื่อนๆ

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังเดินกลับบ้านจากโรงเรียน เขาเห็นกลุ่มเด็กนักเลงกำลังรังแกเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง อ้ายจำเรียนไม่ลังเลที่จะเข้าไปช่วยเหลือเด็กคนนั้นทันที

"หยุดนะ!" อ้ายจำเรียนตะโกน

เด็กนักเลงหันมามองอ้ายจำเรียนด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่คิดว่าเด็กตัวเล็กๆ อย่างอ้ายจำเรียนจะกล้ามาขวางทางพวกเขา

"แกเป็นใครวะ" เด็กนักเลงตัวหัวหน้าถาม

"ฉันชื่ออ้ายจำเรียน ฉันจะไม่ยอมให้พวกแกมารังแกเพื่อนของฉัน" อ้ายจำเรียนตอบอย่างกล้าหาญ

เด็กนักเลงหัวเราะเยาะ "แกจะทำอะไรได้วะ เด็กตัวแค่นี้"

อ้ายจำเรียนไม่พูดอะไร เขาใช้ความรู้และไหวพริบของเขาในการต่อสู้กับเด็กนักเลง ทีละคน ทีละคน จนในที่สุดเด็กนักเลงก็พ่ายแพ้และวิ่งหนีไป

เด็กตัวเล็กๆ ที่อ้ายจำเรียนช่วยไว้รู้สึกขอบคุณมาก เขาบอกอ้ายจำเรียนว่าเขาเป็นฮีโร่ของเขา อ้ายจำเรียนรู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก

ข่าวการที่อ้ายจำเรียนช่วยเด็กตัวเล็กๆ แพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ทุกคนชื่นชมในความกล้าหาญและความมีน้ำใจของเขา

หลังจากนั้นไม่นาน อ้ายจำเรียนก็ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าห้อง เขาใช้ความรู้และความสามารถของเขาในการนำพาเพื่อนๆ ไปสู่ความสำเร็จ เขาจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสามัคคีและความสนุกสนานให้กับเพื่อนๆ

อ้ายจำเรียนเป็นทั้งหัวหน้าห้องและฮีโร่ของเพื่อนๆ เขาเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทุกคนในหมู่บ้าน และเป็นที่รักของทุกๆ คน
-----
Q161
นิทานอ้ายจำเรียนนักเรียนดีเด่น
ในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง มีเด็กชายคนหนึ่งชื่ออ้ายจำเรียน เขาเป็นเด็กที่เรียนเก่งและขยันมากเสมอมา เขาตั้งใจเรียนทุกวิชา และมักจะได้คะแนนสอบเป็นอันดับต้นๆ ของห้องอยู่เสมอ

ด้วยความที่อ้ายจำเรียนเป็นเด็กที่เรียนเก่งและมีความรับผิดชอบสูง คุณครูจึงเลือกให้เขาเป็นหัวหน้าห้องชั้นเรียนดีเด่น อ้ายจำเรียนรู้สึกภูมิใจมากที่ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าห้อง เขาตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด

อ้ายจำเรียนคอยช่วยเหลือเพื่อนๆ ในห้องอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการติวหนังสือ หรือการช่วยเหลือในการทำกิจกรรมต่างๆ เขายังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อนๆ ในเรื่องของความมีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบอีกด้วย

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังเดินกลับบ้านจากโรงเรียน เขาก็เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังแกล้งเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง อ้ายจำเรียนรู้สึกโกรธมากที่เห็นเด็กกลุ่มนั้นรังแกเด็กที่อ่อนแอกว่า เขาจึงรีบเข้าไปช่วยเด็กตัวเล็กๆ คนนั้นทันที

เด็กกลุ่มนั้นเห็นอ้ายจำเรียนเข้ามาก็ตกใจและรีบวิ่งหนีไป อ้ายจำเรียนจึงพาเด็กตัวเล็กๆ คนนั้นกลับบ้านและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้ปกครองของเด็กฟัง ผู้ปกครองของเด็กตัวเล็กๆ คนนั้นรู้สึกขอบคุณอ้ายจำเรียนมากที่ช่วยเหลือลูกของตนเอง

เรื่องราวของอ้ายจำเรียนที่ช่วยเหลือเด็กตัวเล็กๆ คนนั้นแพร่กระจายไปทั่วโรงเรียน ทุกคนต่างชื่นชมในความกล้าหาญและความมีน้ำใจของเขา อ้ายจำเรียนกลายเป็นที่รักของเพื่อนๆ และคุณครูทุกคน

และนับจากวันนั้นเป็นต้นมา อ้ายจำเรียนก็ยังคงเป็นหัวหน้าห้องชั้นเรียนดีเด่นที่คอยช่วยเหลือเพื่อนๆ และทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดเสมอมา
-----
Q160
นิทานเด็กชายดีเด่น
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายคนหนึ่งชื่ออ้ายจำ เขาเป็นเด็กที่เรียนเก่งมากและตั้งใจเรียนเสมอ อ้ายจำชอบอ่านหนังสือและทำการบ้านทุกวัน เขาไม่เคยขาดเรียนหรือมาสายเลย

วันหนึ่ง ครูของอ้ายจำประกาศว่าจะมีการประกวดนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน อ้ายจำตัดสินใจเข้าร่วมประกวด เขาตั้งใจเรียนหนักมากขึ้นและทบทวนบทเรียนทุกวัน

ในวันประกวด อ้ายจำตอบคำถามได้อย่างถูกต้องทั้งหมด เขาได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนและได้รับเกียรติบัตรจากผู้อำนวยการโรงเรียน

อ้ายจำรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากที่ได้รับรางวัลนี้ เขาตั้งใจจะเรียนหนักต่อไปและเป็นนักเรียนที่ดีตลอดไป
-----
Q159
นิทานความรักของน้องแอน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มรูปงามนามว่า อ้ายจำเรียน เขาเป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั่วทั้งหมู่บ้าน แต่หัวใจของเขากลับมอบให้กับน้อแอน หญิงสาวแสนสวยและอ่อนหวาน

น้อแอนเป็นลูกสาวของกำนันใหญ่แห่งหมู่บ้าน เธอทั้งฉลาดและมีน้ำใจ แต่ก็มีหนุ่มๆ มากมายหมายปองเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เธอกลับไม่สนใจใครนอกจากอ้ายจำเรียน

ความรักของทั้งคู่เบ่งบานอย่างรวดเร็ว พวกเขาแอบพบกันในทุ่งนาหลังหมู่บ้าน และแลกเปลี่ยนคำสัญญาว่าจะรักกันตลอดไป

แต่ความรักของพวกเขาก็ไม่ได้ราบรื่นนัก กำนันใหญ่ไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของลูกสาวกับชายหนุ่มยากจน เขาจึงสั่งห้ามน้อแอนพบกับอ้ายจำเรียน

อ้ายจำเรียนเสียใจมาก แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ เขาทำงานหนักเพื่อหาเงินมาสู่ขอแต่งงานกับน้อแอน ในขณะเดียวกัน น้อแอนก็พยายามเกลี้ยกล่อมพ่อของเธอ แต่ก็ไม่เป็นผล

ในที่สุด กำนันใหญ่ก็ยอมใจอ่อนเมื่อเห็นความรักอันบริสุทธิ์ของทั้งคู่ เขาจึงยินยอมให้ทั้งสองแต่งงานกัน

อ้ายจำเรียนและน้อแอนแต่งงานกันอย่างมีความสุข พวกเขามีลูกชายและลูกสาวด้วยกัน และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป
-----
Q156
นิทานพ่อมดปราบผีปอบ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพ่อมดผู้ทรงพลังอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พ่อมดผู้นี้มีชื่อว่า อาจารย์คง ท่านมีชื่อเสียงในเรื่องความสามารถในการปราบผีปอบและวิญญาณชั่วร้ายต่างๆ

วันหนึ่ง ชาวบ้านในหมู่บ้านได้มาหาอาจารย์คงด้วยความตื่นตระหนก พวกเขากล่าวว่ามีผีปอบตนหนึ่งกำลังอาละวาดอยู่ในหมู่บ้าน ผีปอบตนนี้ได้ฆ่าผู้คนไปหลายรายแล้ว และทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวจนไม่กล้าออกจากบ้านยามค่ำคืน

อาจารย์คงรับปากว่าจะช่วยเหลือชาวบ้าน ท่านเตรียมเครื่องรางของขลังและอาวุธต่างๆ แล้วออกเดินทางไปยังบ้านของผีปอบ

เมื่ออาจารย์คงมาถึงบ้านของผีปอบ ท่านก็พบว่าผีปอบตนนั้นเป็นหญิงสาวที่สวยงามมาก แต่ดวงตาของนางกลับแฝงไปด้วยความชั่วร้าย

อาจารย์คงไม่รีรอที่จะเผชิญหน้ากับผีปอบ ท่านร่ายมนตร์และปล่อยเครื่องรางของขลังใส่ผีปอบ ผีปอบโกรธมาก นางพุ่งเข้าใส่อาจารย์คงและพยายามจะทำร้ายท่าน

แต่ด้วยความสามารถของอาจารย์คง ท่านจึงสามารถต่อสู้กับผีปอบได้อย่างสูสี ผีปอบพยายามจะใช้มนตร์ดำต่างๆ เพื่อทำร้ายอาจารย์คง แต่ท่านก็สามารถต้านทานได้ทั้งหมด

ในที่สุด อาจารย์คงก็สามารถปราบผีปอบได้สำเร็จ ท่านใช้ดาบอาคมแทงเข้าที่หัวใจของผีปอบ ผีปอบร้องด้วยความเจ็บปวด แล้วก็สลายกลายเป็นผุยผงไป

ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างดีใจมากที่อาจารย์คงสามารถปราบผีปอบได้สำเร็จ พวกเขากราบขอบคุณอาจารย์คงและยกย่องท่านเป็นวีรบุรุษของหมู่บ้าน

ตั้งแต่นั้นมา อาจารย์คงก็กลายเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในหมู่บ้าน ท่านใช้ความสามารถของท่านในการช่วยเหลือผู้คนและปราบปรามสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ทำให้หมู่บ้านแห่งนั้นสงบสุขและปลอดภัย
-----
Q155
นิทานพ่อมดใจดี
ในหมู่บ้านเวทมนตร์อันไกลโพ้น มีพ่อมดหนุ่มผู้ใจดีชื่อ "อ้ายจำ" อ้ายจำเป็นที่รักของชาวบ้านทุกคนเพราะเขา总是ใช้เวทมนตร์ของเขาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำกำลังเดินผ่านป่า เขาได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กหญิง เขาตามเสียงไปจนพบเด็กหญิงตัวเล็กๆ นั่งร้องไห้อยู่ข้างต้นไม้ที่สูงชัน เด็กหญิงตัวเล็กๆ ปีนขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อเก็บลูกนก แต่เธอลงมาไม่ได้

อ้ายจำใช้เวทมนตร์ของเขาสร้างบันไดขึ้นไปบนต้นไม้และช่วยเด็กหญิงลงมาได้อย่างปลอดภัย เด็กหญิงตัวเล็กๆ ขอบคุณอ้ายจำและวิ่งกลับบ้านไป

ในวันรุ่งขึ้น แม่ของเด็กหญิงตัวเล็กๆ มาหาอ้ายจำที่บ้านของเขาเพื่อขอบคุณเขาที่ช่วยลูกสาวของเธอไว้ อ้ายจำรู้สึกมีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น เขาใช้เวทมนตร์ของเขาเพื่อช่วยเหลือผู้คนในหมู่บ้านเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาคนป่วย การซ่อมแซมบ้านที่เสียหาย หรือการช่วยเหลือชาวนาในการเก็บเกี่ยวพืชผล

ชาวบ้านในหมู่บ้านเวทมนตร์รักและเคารพอ้ายจำมาก พวกเขารู้ว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาเขาได้เสมอหากพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ
-----
Q154
ในดินแดนอันไกลโพ้น มีหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า "เวทมนตร์" ซึ่งเป็นที่อาศัยของพ่อมดและแม่มดมากมาย หนึ่งในนั้นคือ "อ้ายจำ" พ่อมดหนุ่มผู้มีพลังเวทมนตร์อันยิ่งใหญ่

วันหนึ่ง น้องสาวของอ้ายจำชื่อ "เฟ่" ถูกแม่มดใจร้ายลักพาตัวไป อ้ายจำจึงออกเดินทางไปช่วยน้องสาวของเขาโดยไม่ลังเล เขาเดินทางผ่านป่าทึบและภูเขาสูง จนกระทั่งมาถึงปราสาทของแม่มด

อ้ายจำใช้เวทมนตร์ของเขาต่อสู้กับแม่มดอย่างกล้าหาญ ในที่สุด เขาก็สามารถเอาชนะแม่มดและช่วยเฟ่ได้สำเร็จ ขณะที่อ้ายจำและเฟ่กำลังเดินทางกลับบ้าน พวกเขาก็เริ่มรู้สึกถึงความรักที่มีต่อกัน

เมื่อพวกเขากลับถึงหมู่บ้านเวทมนตร์ ชาวบ้านก็ต้อนรับพวกเขากลับมาด้วยความยินดี อ้ายจำและเฟ่แต่งงานกันและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป
-----
Q153

นิทานอ้ายจำเรียนเมียมีชู้
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มรูปงามนามว่า จำเรียน เขาเป็นคนขยันหมั่นเพียรและรักการเรียนมาก วันหนึ่ง ขณะที่จำเรียนกำลังตั้งใจอ่านหนังสืออยู่นั้น หญิงสาวนางหนึ่งก็เดินเข้ามาหา นางมีรูปโฉมงดงามและมีกิริยามารยาทที่อ่อนหวาน จำเรียนตกหลุมรักนางตั้งแต่แรกเห็น และไม่นานนักทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน

หลังจากแต่งงานแล้ว จำเรียนก็ยังคงมุมานะในการเรียน ส่วนภรรยาของเขาก็คอยดูแลเอาใจใส่อย่างดี ชีวิตของทั้งคู่มีความสุขมาก แต่แล้ววันหนึ่ง ภรรยาของจำเรียนก็เริ่มเปลี่ยนไป นางเริ่มเย็นชาและห่างเหินกับเขา จำเรียนพยายามถามไถ่ แต่ภรรยาก็ไม่ยอมบอกอะไร จนกระทั่งวันหนึ่ง จำเรียนได้แอบตามภรรยาไป และก็พบว่านางแอบไปมีความสัมพันธ์ลับกับชายอื่น

จำเรียนเสียใจมาก เขาไม่คิดว่าภรรยาที่เขารักจะทรยศหักหลังเขาได้เช่นนี้ จำเรียนตัดสินใจหย่าขาดจากภรรยา และมุ่งมั่นในการเรียนต่อ จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาและได้งานที่ดี

หลายปีต่อมา จำเรียนได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า บัวลอย นางเป็นหญิงสาวที่เรียบร้อยและมีจิตใจดี จำเรียนตกหลุมรักนางและทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน บัวลอยเป็นภรรยาที่ดีมาก นางคอยดูแลเอาใจใส่จำเรียนเป็นอย่างดี และไม่เคยทำให้จำเรียนต้องเสียใจเลย จำเรียนและบัวลอยใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา
-----
Q151

นิทานเฟินเย็นชากับอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มชื่ออ้ายจำเรียน เขาเป็นคนขยันและซื่อสัตย์ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อเฟิน หญิงสาวที่เขารักและคบหาดูใจกันมาอย่างยาวนาน ได้ทอดทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดี

อ้ายจำเรียนเสียใจมาก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเฟินถึงทำเช่นนี้ เขาพยายามตามหาเธอ แต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้ยินข่าวว่าเฟินได้แต่งงานกับชายหนุ่มที่ร่ำรวยกว่าเขาไปแล้ว

อ้ายจำเรียนรู้สึกเจ็บปวดและสิ้นหวัง เขากลับไปที่บ้านเกิดของเขาและใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว เขาทำงานหนักเพื่อลืมความเจ็บปวด แต่ก็ไม่สามารถทำได้

หลายปีผ่านไป อ้ายจำเรียนกลายเป็นชายชราที่เหงาและเศร้าหมอง เขาอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆ และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนึกถึงเฟิน

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังนั่งอยู่หน้ากระท่อมของเขา เขาเห็นหญิงชราคนหนึ่งเดินผ่านมา หญิงชรามีใบหน้าที่คุ้นเคย แต่เขาก็จำไม่ได้ว่าเธอเป็นใคร

"คุณคือใคร?" อ้ายจำเรียนถาม

"ฉันคือเฟิน" หญิงชรากล่าว

อ้ายจำเรียนตกใจมาก เขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขาจำได้ทันทีว่าเธอคือหญิงสาวที่เขาเคยรักและสูญเสียไป

"เฟิน เธอมาทำไม?" อ้ายจำเรียนถามด้วยเสียงสั่นเครือ

"ฉันมาเพื่อขอโทษ" เฟินกล่าว "ฉันรู้ว่าฉันทำผิดกับคุณ ฉันทิ้งคุณไปโดยไม่บอกลา ฉันขอโทษจริงๆ"

อ้ายจำเรียนมองหน้าเฟิน เขาเห็นความจริงใจในดวงตาของเธอ เขาไม่โกรธเธอแล้ว เขาเข้าใจว่าเธอมีเหตุผลของเธอ

"ไม่เป็นไร" อ้ายจำเรียนกล่าว "ฉันให้อภัยคุณแล้ว"

เฟินยิ้มให้เขา "ขอบคุณ" เธอกล่าว

อ้ายจำเรียนและเฟินนั่งคุยกันเป็นเวลานาน พวกเขาเล่าให้กันฟังถึงชีวิตของพวกเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อ้ายจำเรียนได้รู้ว่าเฟินได้แต่งงานกับชายหนุ่มที่ร่ำรวย แต่ชีวิตของเธอไม่ได้มีความสุขอย่างที่เธอคิด เธอคิดถึงอ้ายจำเรียนทุกวัน และเธอก็เสียใจที่ได้ทิ้งเขาไป

เมื่อถึงเวลาที่เฟินต้องกลับไป อ้ายจำเรียนรู้สึกเศร้า แต่เขาก็รู้ว่าเธอต้องไป เขาโอบกอดเธอและกล่าวว่า "ฉันดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้ง"

เฟินโอบกอดเขาและกล่าวว่า "ฉันก็เช่นกัน"

เฟินเดินจากไป และอ้ายจำเรียนก็มองตามเธอจนลับสายตา เขาไม่รู้ว่าเขาจะได้พบเธออีกครั้งหรือไม่ แต่เขาก็มีความสุขที่ได้ให้อภัยเธอและได้รู้ว่าเธอยังคิดถึงเขาอยู่
-----
Q148
นิทานอ้ายจำเรียนเมียทิ้ง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มชื่อจำเรียน เขาเป็นคนขยันและซื่อสัตย์ แต่โชคร้ายที่เขาแต่งงานกับภรรยาที่ขี้เกียจและไม่ซื่อสัตย์

วันหนึ่ง จำเรียนออกไปทำงานในไร่ ขณะที่เขาไม่อยู่ ภรรยาของเขาก็แอบพาชู้รักเข้ามาในบ้าน พวกเขาหัวเราะและพูดคุยกันอย่างมีความสุข โดยไม่รู้ว่าจำเรียนได้แอบกลับเข้ามาในบ้าน

จำเรียนโกรธมากที่เห็นภรรยาของเขากำลังนอกใจ เขาจึงแอบเข้าไปในห้องครัวและหยิบมีดขึ้นมา จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องนอนและแทงภรรยาของเขาจนตาย

หลังจากนั้น จำเรียนก็หนีออกจากบ้านและไปซ่อนตัวในป่า เขาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและเศร้าโศกไปจนสิ้นชีวิต
-----
Q147

นิทานความฝันของอ้ายจำเรียน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่ออ้ายจำเรียน เขาเป็นคนขยันขันแข็งและใฝ่ฝันที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต แต่โชคชะตากลับเล่นตลกกับเขา เขาเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน และต้องทำงานหนักตั้งแต่เด็กเพื่อช่วยเหลือครอบครัว

คืนหนึ่ง อ้ายจำเรียนฝันว่าเขากำลังเดินอยู่ในป่าใหญ่ เขารู้สึกหลงทางและกลัว แต่แล้วเขาก็เห็นแสงสว่างอยู่ข้างหน้า เขาเดินไปตามแสงนั้นจนกระทั่งมาถึงถ้ำแห่งหนึ่ง

ภายในถ้ำ อ้ายจำเรียนพบกับชายชราผู้มีหนวดเครายาวสีขาว ชายชราบอกกับเขาว่าเขาคือเทพแห่งความฝัน และสามารถช่วยให้ความฝันของอ้ายจำเรียนเป็นจริงได้ แต่มีข้อแม้ว่าอ้ายจำเรียนต้องผ่านการทดสอบสามอย่าง

การทดสอบแรกคือการทดสอบความอดทน อ้ายจำเรียนต้องนั่งสมาธิเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงโดยไม่ขยับตัว เขาผ่านการทดสอบนี้ได้อย่างง่ายดาย

การทดสอบที่สองคือการทดสอบความกล้าหาญ อ้ายจำเรียนต้องเดินผ่านป่าที่มีสัตว์ร้ายดุร้าย เขาผ่านการทดสอบนี้ได้ด้วยความกล้าหาญและความมุ่งมั่น

การทดสอบสุดท้ายคือการทดสอบความเมตตา อ้ายจำเรียนต้องช่วยเหลือคนแปลกหน้าที่กำลังลำบาก เขาผ่านการทดสอบนี้ได้ด้วยความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจ

เมื่ออ้ายจำเรียนผ่านการทดสอบทั้งสามแล้ว เทพแห่งความฝันก็มอบพรให้กับเขา เขาบอกกับอ้ายจำเรียนว่าความฝันของเขาจะกลายเป็นจริง แต่เขาต้องทำงานหนักและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค

อ้ายจำเรียนตื่นขึ้นจากความฝันและรู้สึกมีพลัง เขาตัดสินใจที่จะทำงานหนักและไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบาก เขาทำงานอย่างขยันขันแข็งและในที่สุดความฝันของเขาก็เป็นจริง เขาประสบความสำเร็จในชีวิตและมีชีวิตที่มีความสุข
-----
Q146

นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนไปดาวอังคาร
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีเด็กชายชื่ออ้ายจำเรียน เขาเป็นเด็กที่ฉลาดและใฝ่รู้มาก อ้ายจำเรียนชอบอ่านหนังสือและเรียนรู้เกี่ยวกับดวงดาวและอวกาศเป็นอย่างมาก

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเดินทางไปอวกาศ เขาก็ได้พบกับยานอวกาศลำหนึ่งจอดอยู่ที่สนามหลังบ้านของเขา อ้ายจำเรียนตื่นเต้นมาก เขาเดินเข้าไปใกล้ยานอวกาศและพบว่าประตูเปิดอยู่

อ้ายจำเรียนตัดสินใจเข้าไปในยานอวกาศและพบว่าภายในนั้นมีสิ่งมีชีวิตต่างดาวตัวเล็กๆ สีเขียวอยู่สองตัว สิ่งมีชีวิตต่างดาวตัวหนึ่งชื่อว่ากัปตันซาร์ก และอีกตัวหนึ่งชื่อว่าดร.ซิลวา

กัปตันซาร์กและดร.ซิลวาเล่าให้อ้ายจำเรียนฟังว่าพวกเขามาจากดาวอังคาร และกำลังมองหาเด็กที่ฉลาดและกล้าหาญเพื่อไปสำรวจดาวอังคารกับพวกเขา อ้ายจำเรียนตื่นเต้นมาก เขาตกลงที่จะไปกับพวกเขา

ยานอวกาศพาอ้ายจำเรียนเดินทางไปยังดาวอังคาร ซึ่งเป็นดาวเคราะห์สีแดงที่มีภูเขาไฟและหุบเขาที่น่าทึ่ง อ้ายจำเรียนได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับดาวอังคารและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ที่นั่น

อ้ายจำเรียนได้พบกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวหลายชนิดบนดาวอังคาร รวมถึงมนุษย์ต่างดาวที่เป็นมิตรและเป็นศัตรู อ้ายจำเรียนได้ใช้ความฉลาดและความกล้าหาญของเขาเพื่อเอาชนะความท้าทายและช่วยเหลือเพื่อนใหม่ของเขา

หลังจากใช้เวลาหลายเดือนบนดาวอังคาร อ้ายจำเรียนก็ตัดสินใจที่จะกลับบ้าน เขาคิดถึงครอบครัวและเพื่อนๆ ของเขา ยานอวกาศพาอ้ายจำเรียนกลับมายังโลก และเขาก็ได้เล่าเรื่องราวการผจญภัยของเขาให้ทุกคนฟัง

ตั้งแต่นั้นมา อ้ายจำเรียนก็กลายเป็นฮีโร่ของหมู่บ้าน เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นเด็กที่กล้าหาญและฉลาด และเรื่องราวของเขาได้กลายเป็นตำนานที่เล่าขานกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
-----
Q135

นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนแชมป์ตอกเสาเข็ม
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มชื่ออ้ายจำเรียน เขาเป็นเด็กที่ฉลาดและขยันเรียนมาก จนได้เป็นหัวห้องแชมป์มาตลอด

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาก็ได้ยินเสียงคนกลุ่มหนึ่งกำลังคุยกันเรื่องการตอกเสาเข็มเพื่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ

อ้ายจำเรียนสนใจเรื่องนี้มาก จึงเดินเข้าไปถามว่า "พวกพี่กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่ครับ"

"พวกเราคุยกันเรื่องการตอกเสาเข็มเพื่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ" ชายคนหนึ่งตอบ

"แล้วพวกพี่รู้วิธีตอกเสาเข็มไหมครับ" อ้ายจำเรียนถามต่อ

"พวกเราไม่รู้หรอก" ชายอีกคนตอบ "แต่เราได้ยินมาว่ามีช่างตอกเสาเข็มเก่งๆ อยู่ในหมู่บ้านข้างๆ"

อ้ายจำเรียนดีใจมาก จึงรีบวิ่งไปหาช่างตอกเสาเข็มคนนั้นทันที

เมื่อไปถึงหมู่บ้านข้างๆ อ้ายจำเรียนก็ได้พบกับช่างตอกเสาเข็มชื่อลุงคำ ลุงคำเป็นช่างที่มีประสบการณ์มาก และยินดีที่จะสอนวิชาตอกเสาเข็มให้อ้ายจำเรียน

อ้ายจำเรียนเรียนรู้วิธีตอกเสาเข็มจากลุงคำอย่างตั้งใจ เมื่อเรียนจบแล้ว เขาก็กลับมาที่หมู่บ้านของตัวเองและเริ่มตอกเสาเข็มเพื่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ

อ้ายจำเรียนตอกเสาเข็มได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ชาวบ้านต่างก็ชื่นชมในความสามารถของเขา เมื่อสะพานสร้างเสร็จ ชาวบ้านก็ได้ใช้สะพานข้ามแม่น้ำได้อย่างสะดวกสบาย

ตั้งแต่นั้นมา อ้ายจำเรียนก็ได้ชื่อว่าเป็น "หัวห้องแชมป์ตอกเสาเข็ม" และเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน
-----
Q138

นิทานเรื่องอ้ายจำเรียนตอกเสาเข็มในป่าอ้อย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กชายชื่ออ้ายจำเรียน เป็นเด็กที่เรียนเก่งและขยันหมั่นเพียรมาก จนได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าห้องของโรงเรียนประถมในหมู่บ้าน

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังเดินกลับบ้านจากโรงเรียน เขาได้ผ่านป่าอ้อยแห่งหนึ่ง ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากในป่าอ้อย

อ้ายจำเรียนรีบวิ่งเข้าไปในป่าอ้อยและพบว่ามีชายชราคนหนึ่งกำลังพยายามตอกเสาเข็มเพื่อสร้างบ้าน แต่ไม่สามารถตอกเสาเข็มลงไปในดินได้

อ้ายจำเรียนเห็นดังนั้น จึงอาสารช่วยชายชราตอกเสาเข็ม ชายชราดีใจมากและขอบคุณอ้ายจำเรียนที่ช่วยเหลือ

อ้ายจำเรียนใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เรียนมาจากโรงเรียน นำมาประยุกต์ใช้ในการตอกเสาเข็ม โดยเขาใช้หลักการของแรงโน้มถ่วงและแรงเสียดทาน

อ้ายจำเรียนเริ่มต้นด้วยการขุดหลุมลึกประมาณ 1 เมตร แล้วนำเสาเข็มมาวางลงในหลุม จากนั้นเขาก็ใช้ค้อนตอกเสาเข็มลงไปในดินทีละน้อยๆ

อ้ายจำเรียนตอกเสาเข็มไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเสาเข็มจมลงไปในดินจนมิดหลุม ชายชราดีใจมากที่อ้ายจำเรียนสามารถตอกเสาเข็มลงไปในดินได้สำเร็จ

ชายชราจึงถามอ้ายจำเรียนว่า "เจ้าหนู เจ้าชื่ออะไร"

อ้ายจำเรียนตอบว่า "ผมชื่ออ้ายจำเรียนครับ"

ชายชราจึงกล่าวว่า "เจ้าเป็นเด็กที่เก่งและฉลาดมาก ขอให้เจ้าจงเจริญๆ เถิด"

หลังจากนั้น อ้ายจำเรียนก็ลาชายชราและเดินกลับบ้านไป เมื่อถึงบ้าน เขาก็เล่าเรื่องที่เขาช่วยชายชราตอกเสาเข็มให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่ของอ้ายจำเรียนดีใจมากที่ลูกชายของตนเป็นเด็กที่เก่งและมีน้ำใจ

ตั้งแต่นั้นมา อ้ายจำเรียนก็ยิ่งตั้งใจเรียนมากขึ้น และกลายเป็นเด็กที่เก่งและฉลาดที่สุดในหมู่บ้าน
-----
Q139

นิทานเรื่องหนูอยากเข้าป่าอ้อย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กหญิงคนหนึ่งชื่ออ้ายจำเรียน เธออาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ในชนบท เธอเป็นเด็กหญิงที่ขยันขันแข็งและชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ วันหนึ่ง เธอได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับป่าอ้อยอันกว้างใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน เธออยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับป่าอ้อยมาก จึงตัดสินใจออกเดินทางไปสำรวจ

อ้ายจำเรียนเดินผ่านทุ่งนาและป่าไม้จนกระทั่งมาถึงป่าอ้อย เธอประหลาดใจกับขนาดและความงามของป่าอ้อย เธอเดินไปตามทางเดินแคบๆ ที่ทอดตัวผ่านต้นอ้อยสูงตระหง่าน ต้นอ้อยพลิ้วไหวในสายลมราวกับกำลังเต้นรำ เธอได้ยินเสียงนกร้องเพลงและเสียงแมลงจิ้งหรีดร้องเพลง

ขณะที่อ้ายจำเรียนเดินลึกเข้าไปในป่าอ้อย เธอสังเกตเห็นกระท่อมเล็กๆ หลังหนึ่งซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นอ้อย เธอเดินเข้าไปใกล้กระท่อมและเคาะประตู เบื้องหลังประตู เธอได้ยินเสียงผู้หญิงชรา

"เข้ามาสิลูก" หญิงชราพูด

อ้ายจำเรียนเปิดประตูและก้าวเข้าไปในกระท่อม เธอพบหญิงชราผมหงอกนั่งอยู่บนเก้าอี้โยก หญิงชรากำลังปั่นด้ายด้วยวงล้อหมุน

"สวัสดีค่ะ" อ้ายจำเรียนกล่าว "ฉันชื่ออ้ายจำเรียน ฉันมาจากหมู่บ้านข้างๆ"

"ยินดีต้อนรับลูก" หญิงชรากล่าว "เข้ามานั่งสิ"

อ้ายจำเรียนนั่งลงบนเก้าอี้ข้างหญิงชรา เธอเล่าให้หญิงชราฟังว่าเธอมาที่ป่าอ้อยเพื่อสำรวจ หญิงชราฟังอย่างตั้งใจ เมื่ออ้ายจำเรียนเล่าจบ หญิงชราก็ก้มลงมองพื้น

"ป่าอ้อยแห่งนี้เป็นสถานที่อันตรายลูก" หญิงชรากล่าว "มีสัตว์ร้ายและสิ่งอันตรายอื่นๆ มากมายซ่อนตัวอยู่ในป่าแห่งนี้"

"แต่ฉันไม่กลัวค่ะ" อ้ายจำเรียนกล่าว "ฉันอยากสำรวจป่าอ้อยแห่งนี้"

หญิงชราถอนหายใจ "ถ้าอย่างนั้นก็จงระวังตัวให้มากที่สุด" หญิงชรากล่าว "และจงจำไว้ว่า ป่าอ้อยแห่งนี้มีเวทมนตร์ซ่อนอยู่"

อ้ายจำเรียนขอบคุณหญิงชราสำหรับคำเตือน จากนั้นเธอก็ออกจากกระท่อมและเดินลึกเข้าไปในป่าอ้อย เธอเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงใจกลางป่า เธอหยุดและมองไปรอบๆ

ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบในพุ่มไม้ข้างๆ เธอ เธอหันไปมองและเห็นเสือโคร่งตัวใหญ่กำลังเดินออกมาจากพุ่มไม้ เสือโคร่งตัวใหญ่คำรามและพุ่งเข้าหาอ้ายจำเรียน

อ้ายจำเรียนตกใจกลัว เธอหันหลังและวิ่งหนี เธอวิ่งสุดแรงเท่าที่จะทำได้ เสือโคร่งวิ่งไล่ตามเธออย่างกระชั้นชิด เธอวิ่งผ่านต้นอ้อยและหนาม เธอวิ่งจนเหนื่อยและหายใจไม่ทัน

ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังจะหมดแรง เธอก็เห็นกระท่อมเล็กๆ หลังหนึ่งอยู่ข้างหน้า เธอวิ่งไปที่กระท่อมและเปิดประตูเข้าไป เธอวิ่งเข้าไปในกระท่อมและล็อกประตู เสือโคร่งพยายามจะเข้ามาในกระท่อม แต่ก็ทำไม่ได้

อ้ายจำเรียนนั่งลงบนพื้นและหายใจแรง เธอดีใจที่เธอหนีจากเสือโคร่งมาได้ เธอมองไปรอบๆ กระท่อมและสังเกตเห็นหญิงชราคนเดิมนั่งอยู่บนเก้าอี้โยก

"เจ้าหนีอะไรมาลูก" หญิงชรากล่าว

"เสือโคร่งค่ะ" อ้ายจำเรียนกล่าว "มันไล่ตามฉันมา"

"เจ้าโชคดีมากที่หนีมาได้" หญิงชรากล่าว "เสือโคร่งเป็นสัตว์อันตรายมาก"

อ้ายจำเรียนพยักหน้าเห็นด้วย เธอขอบคุณหญิงชราสำหรับความช่วยเหลือ จากนั้นเธอก็ออกจากกระท่อมและเดินกลับหมู่บ้าน

เมื่ออ้ายจำเรียนกลับถึงบ้าน เธอเล่าเรื่องราวการผจญภัยของเธอให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่ของเธอดีใจที่เธอปลอดภัย แต่ก็เตือนเธอว่าอย่ากลับไปที่ป่าอ้อยอีก

อ้ายจำเรียนจำคำเตือนของพ่อแม่เธอ เธอไม่เคยกลับไปที่ป่าอ้อยอีกเลย แต่เธอก็ไม่เคยลืมการผจญภัยของเธอ เธอเล่าเรื่องราวการผจญภัยของเธอให้ลูกๆ และหลานๆ ของเธอฟัง และเรื่องราวของเธอก็ถูกเล่าต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
-----
Q140

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วในการเดินทางไปบนดาวอังคารกับพวกเขา อ้ายจำเรียนตื่นเต้นมาก เขาตกลงที่จะไปกับพวกเขา

ยานอวกาศพาอ้ายจำเรียนเดินทางไปยังดาวอังคาร ซึ่งเป็นดาวเคราะห์สีแดงที่มีภูเขาไฟและหุบเขาที่น่าทึ่ง อ้ายจำเรียนได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับดาวอังคารและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ที่นั่น

อ้ายจำเรียนได้พบกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวหลายชนิดบนดาวอังคาร รวมถึงมนุษย์ต่างดาวที่เป็นมิตรและเป็นศัตรู อ้ายจำเรียนได้ใช้ความฉลาดและความกล้าหาญของเขาเพื่อเอาชนะความท้าทายและช่วยเหลือเพื่อนใหม่ของเขา

หลังจากใช้เวลาหลายเดือนบนดาวอังคาร อ้ายจำเรียนก็ตัดสินใจที่จะกลับบ้าน เขาคิดถึงครอบครัวและเพื่อนๆ ของเขา ยานอวกาศพาอ้ายจำเรียนกลับมายังโลก และเขาก็ได้เล่าเรื่องราวการผจญภัยของเขาให้ทุกคนฟัง

ตั้งแต่นั้นมา อ้ายจำเรียนก็กลายเป็นฮีโร่ของหมู่บ้าน เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นเด็กที่กล้าหาญและฉลาด และเรื่องราวของเขาได้กลายเป็นตำนานที่เล่าขานกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
-----
Q141
นิทานอ้ายจำเรียนมือปราบ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กหนุ่มชื่ออ้ายจำเรียน เป็นชาวบ้านธรรมดาๆ แต่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นมือปราบ เมื่อได้ยินข่าวว่ามีการรับสมัครมือปราบในเมืองหลวง อ้ายจำเรียนจึงตัดสินใจเดินทางไปสมัครทันที

ระหว่างทาง อ้ายจำเรียนได้พบกับนักรบผู้ชำนาญการต่อสู้มากมาย ซึ่งเขาได้ขอฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อเรียนวิชากับนักรบเหล่านั้น ด้วยความมุ่งมั่นและความอดทนของอ้ายจำเรียน ทำให้เขาสามารถเรียนรู้วิชาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อเดินทางมาถึงเมืองหลวง อ้ายจำเรียนได้เข้าร่วมการทดสอบเพื่อคัดเลือกมือปราบ ด้วยทักษะการต่อสู้ที่เหนือชั้น อ้ายจำเรียนจึงสามารถผ่านการทดสอบได้อย่างสบาย และได้เข้ารับการฝึกฝนเป็นมือปราบอย่างเต็มตัว

หลังจากผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก อ้ายจำเรียนก็ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ โดยเขาได้ปราบปรามโจรผู้ร้ายมากมาย ทำให้ประชาชนในเมืองหลวงต่างรู้สึกปลอดภัยและเคารพนับถือในตัวเขา

ชื่อเสียงของอ้ายจำเรียนในฐานะมือปราบผู้เก่งกาจแพร่กระจายไปทั่วทั้งแผ่นดิน จนกระทั่งถึงหูของโจรผู้ร้ายกลุ่มหนึ่งที่หมายจะปล้นเมืองหลวง โจรกลุ่มนี้มีฝีมือเก่งกาจและโหดเหี้ยมมาก

อ้ายจำเรียนได้รับมอบหมายให้ไปปราบโจรกลุ่มนี้ เขาจึงเดินทางไปยังถ้ำที่โจรอาศัยอยู่ เมื่อไปถึงถ้ำ อ้ายจำเรียนก็ได้พบกับโจรจำนวนมากที่กำลังเตรียมการปล้นเมืองหลวง

อ้ายจำเรียนไม่รอช้า รีบเข้าต่อสู้กับโจรทันที ด้วยวิชาต่อสู้ที่เหนือชั้น อ้ายจำเรียนสามารถเอาชนะโจรได้ทีละคน จนในที่สุดก็สามารถปราบโจรกลุ่มนี้ได้สำเร็จ

หลังจากปราบโจรกลุ่มนี้ได้ อ้ายจำเรียนก็ได้รับการยกย่องจากประชาชนและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ามือปราบแห่งเมืองหลวง อ้ายจำเรียนได้ทำหน้าที่ของตนอย่างซื่อสัตย์และยุติธรรม จนเป็นที่รักและเคารพของประชาชนทั้งเมือง
-----
Q143

นิทานอ้ายจำเรียนมือปราบยาบ้าในโรงเรียน
ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง มีนักเรียนชายคนหนึ่งชื่ออ้ายจำเรียน เขามักจะถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนเพราะรูปร่างที่เล็กและผอม แต่สิ่งที่เพื่อนๆ ไม่รู้ก็คือ อ้ายจำเรียนมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือการเป็นมือปราบยาบ้า

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังเดินกลับบ้าน เขาเห็นกลุ่มนักเรียนชายกำลังรุมแกล้งนักเรียนหญิงคนหนึ่ง เขาไม่ลังเลที่จะเข้าไปช่วยเหลือ แม้ว่าตัวเองจะตัวเล็กกว่ามากก็ตาม กลุ่มนักเรียนชายเห็นดังนั้นก็โกรธมาก พวกเขาหันมาทำร้ายอ้ายจำเรียน แต่ด้วยความว่องไวและไหวพริบ อ้ายจำเรียนก็สามารถหลบหลีกการโจมตีได้อย่างคล่องแคล่ว

หลังจากเหตุการณ์นั้น อ้ายจำเรียนก็กลายเป็นที่รู้จักในโรงเรียนในฐานะนักเรียนที่กล้าหาญและไม่ยอมแพ้ต่อความอยุติธรรม ครูและนักเรียนต่างก็ชื่นชมในความกล้าหาญของเขา และเริ่มเรียกเขาว่า "มือปราบยาบ้า"

อ้ายจำเรียนใช้ชื่อนี้เป็นแรงบันดาลใจในการต่อสู้กับยาบ้าในโรงเรียน เขาเริ่มสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนและคอยสอดส่องหาสิ่งผิดปกติ วันหนึ่ง เขาเห็นนักเรียนชายคนหนึ่งแอบขายยาบ้าให้กับนักเรียนคนอื่นๆ อ้ายจำเรียนจึงรีบแจ้งให้ครูทราบ

ครูและตำรวจเข้ามาจับกุมนักเรียนชายคนนั้นได้ทันควัน ทำให้โรงเรียนปลอดจากยาบ้าไปอีกครั้ง อ้ายจำเรียนได้รับการยกย่องจากครูและนักเรียนทั้งโรงเรียน เขาได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่น และกลายเป็นแบบอย่างให้กับนักเรียนคนอื่นๆ

ตั้งแต่นั้นมา อ้ายจำเรียนก็ยังคงทำหน้าที่เป็นมือปราบยาบ้าในโรงเรียน เขาคอยเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้ยาบ้าแพร่ระบาดเข้ามาในโรงเรียนอีก และเมื่อใดที่มีนักเรียนคนไหนคิดจะลองยาบ้า อ้ายจำเรียนก็จะคอยให้คำปรึกษาและเตือนสติพวกเขาเสมอ

ด้วยความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของอ้ายจำเรียน โรงเรียนแห่งนี้จึงปลอดจากยาบ้า และนักเรียนทุกคนก็สามารถเรียนหนังสือได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย
-----
Q144

นิทานอ้ายจำเนียนต่อต้านสารเสพติดและยาบ้าในโรงเรียน
นิทานอ้ายจำเนียนต่อต้านสารเสพติดและยาบ้าในโรงเรียน

ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง มีเด็กนักเรียนชื่อจำเนียน เป็นเด็กที่เรียนดีและมีจิตใจดีงาม วันหนึ่ง จำเนียนสังเกตเห็นว่าเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งชื่อสมชาย มีอาการแปลกๆ เช่น พูดจาไม่รู้เรื่อง ตาแดงก่ำ และมีพฤติกรรมก้าวร้าว

จำเนียนรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน จึงแอบตามไปดู และพบว่าสมชายแอบเสพยาบ้าในห้องน้ำ จำเนียนตกใจมากและรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องรีบบอกครู

จำเนียนรีบไปหาครูประจำชั้นและเล่าเรื่องที่เห็นทั้งหมดให้ครูฟัง ครูตกใจมากและขอบคุณจำเนียนที่กล้าหาญที่จะบอกความจริง ครูจึงรีบพาสมชายไปพบแพทย์และแจ้งผู้ปกครอง

แพทย์ตรวจพบว่าสมชายติดยาบ้ามาแล้วระยะหนึ่ง และต้องเข้ารับการบำบัดอย่างเร่งด่วน ผู้ปกครองของสมชายเสียใจมากที่ลูกชายติดยา แต่ก็ขอบคุณจำเนียนที่ช่วยชีวิตลูกชายไว้

หลังจากนั้น จำเนียนก็กลายเป็นฮีโร่ของโรงเรียน เพราะความกล้าหาญและจิตใจดีงามของเขา จำเนียนได้รับรางวัลจากโรงเรียนและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อนๆ ในการต่อต้านยาเสพติด

ตั้งแต่นั้นมา โรงเรียนก็เข้มงวดเรื่องยาเสพติดมากขึ้น และมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กนักเรียนทุกคนตระหนักถึงอันตรายของยาเสพติด และห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้
-----
Q145

นิทานเด็กชายอ้ายจำเรียนขี้เหล้า
ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มชื่ออ้ายจำที่ชอบดื่มสุราเป็นประจำ ทำให้ผลการเรียนของเขาตกต่ำลงอย่างมาก คุณครูและเพื่อนๆ พยายามตักเตือนเขา แต่ก็ไม่เป็นผล

วันหนึ่ง อ้ายจำเมาสุราจนเผลอหลับในห้องเรียน คุณครูจึงให้เพื่อนๆ ช่วยกันพาเขาไปที่ห้องพยาบาล เมื่ออ้ายจำฟื้นขึ้นมา เขาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล และมีเพื่อนๆ มานั่งล้อมรอบอยู่

"อ้ายจำ แกดื่มสุราทำไม" เพื่อนคนหนึ่งถาม

"ก็...ก็สนุกดีนี่" อ้ายจำตอบเสียงอ่อยๆ

"สนุกอะไรกันเล่า แกดูสิว่าแกเป็นยังไง" เพื่อนอีกคนพูดพลางชี้ไปที่กระจก

อ้ายจำมองไปในกระจก เขาเห็นตัวเองที่ดูโทรมและอิดโรย ใบหน้าของเขามีรอยหมองคล้ำ และดวงตาของเขาก็ไร้แวว

"ฉัน...ฉันเป็นแบบนี้เหรอ" อ้ายจำถามด้วยความตกใจ

"ใช่ แกเป็นแบบนี้แหละ" เพื่อนๆ ตอบ

อ้ายจำรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยรู้เลยว่าสุราจะทำให้เขาดูแย่ขนาดนี้

"ฉัน...ฉันจะเลิกดื่ม" อ้ายจำพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

เพื่อนๆ ต่างก็ดีใจที่อ้ายจำตัดสินใจเลิกดื่มสุรา พวกเขาช่วยกันหาข้อมูลเกี่ยวกับโทษของการดื่มสุรา และวิธีการเลิกดื่มสุราให้กับอ้ายจำ

อ้ายจำตั้งใจเลิกดื่มสุราอย่างจริงจัง เขาไปเข้าร่วมกลุ่มช่วยเหลือผู้ติดสุรา และค่อยๆ ลดปริมาณการดื่มสุราลงทีละน้อย

ในที่สุด อ้ายจำก็สามารถเลิกดื่มสุราได้สำเร็จ ผลการเรียนของเขาดีขึ้นอย่างมาก และเขาก็กลายเป็นเด็กหนุ่มที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข
-----
Q147
นิทานเรื่องจิ้งจ้อก3ตัว
กาลครั้งหนึ่ง ในป่าทึบที่อยู่ระหว่างภูเขาสองลูก มีสุนัขจิ้งจอกจอมซนสามตัวอาศัยอยู่ ชื่อฟินน์ ฟิโอน่า และเฟลิกซ์ สุนัขจิ้งจอกเหล่านี้เป็นที่รู้จักทั่วทั้งป่าในเรื่องของความขี้เล่นและความอยากรู้อยากเห็นที่ไม่รู้จักพอ พวกเขาท่องไปในป่า สำรวจทุกซอกทุกมุม และพบกับปัญหาทุกประเภท,
บ่ายวันหนึ่งที่อากาศสดใส ขณะที่พวกเขากำลังสนุกสนานกันอยู่ใกล้สระน้ำอันเงียบสงบที่ซ่อนอยู่ลึกเข้าไปในป่า ฟิโอน่าก็มีความคิดอันยอดเยี่ยม “มาดูกันว่าใครจะกระโดดข้ามสระน้ำได้ไกลที่สุด!” เธออุทาน ดวงตาของเธอเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น,
Finn และ Felix เห็นด้วยอย่างกระตือรือร้น และพวกเขาก็มายืนเรียงกันที่ริมสระน้ำโดยไม่ต้องกังวลใจ พร้อมที่จะโชว์ความสามารถในการกระโดดของพวกเขา ฟินน์ซึ่งเป็นพี่คนโตและกล้าหาญที่สุดในสามคนจึงตัดสินใจไปก่อน ด้วยการออกวิ่ง เขาก็กระโดดขึ้นไปในอากาศ ขนสีแดงเงางามของเขาเปล่งประกายท่ามกลางแสงแดด แต่อนิจจา เขาตัดสินการกระโดดผิดและตกลงไปกลางสระน้ำ,
ฟิโอน่าและเฟลิกซ์ระเบิดเสียงหัวเราะให้กับความโชคร้ายของฟินน์ แต่ความสนุกสนานของพวกเขานั้นอยู่ได้ไม่นานเมื่อฟิโอน่าตัดสินใจรับหน้าที่ต่อไป ด้วยสีหน้ามุ่งมั่น เธอจึงวิ่งไปที่ขอบสระน้ำและกระโดดขึ้นไปในอากาศด้วยพลังทั้งหมดของเธอ อย่างไรก็ตาม เธอต้องตกใจมากเพราะพลาดเป้าหมายและตกลงมาโดยมีน้ำสาดอยู่ข้างๆ Finn,
ตอนนี้ถึงคราวของ Felix และแม้จะได้เห็นความพยายามที่ล้มเหลวของพี่น้อง แต่เขาก็ยังมุ่งมั่นที่จะเอาชนะพวกเขาทั้งสอง ด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ เขาถอยหลังไปสองสามก้าว ขยายระยะทาง จากนั้นพุ่งไปที่ขอบสระน้ำด้วยความเร็วเต็มพิกัด เขากระโดดขึ้นไปในอากาศด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น แต่ในขณะที่เขากำลังจะเคลียร์บ่อน้ำ เท้าของเขาก็ไปติดกิ่งไม้เร่ร่อน ทำให้เขาเสียการทรงตัวและดิ่งลงไปในน้ำพร้อมกับเสียงกระเซ็นที่ดังกึกก้อง,
สุนัขจิ้งจอกทั้งสามตัวโผล่ออกมาจากบ่อน้ำที่เปียกโชก ขนของพวกมันหยดลงด้วยน้ำ และอัตตาของพวกมันก็ฟกช้ำเล็กน้อย แต่แทนที่จะรู้สึกท้อแท้ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับความไร้สาระของสถานการณ์ “นั่นไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เลย” ฟินน์หัวเราะเบาๆ แล้วสะบัดน้ำจากขนของเขา,
ฟิโอน่าพยักหน้าเห็นด้วย ดวงตาของเธอเป็นประกายอย่างสนุกสนาน “บางทีเราควรทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงน้อยลงตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” เธอแนะนำพร้อมมองดูพี่น้องของเธออย่างขี้เล่น,
เฟลิกซ์ซึ่งเคยเป็นคนมองโลกในแง่ดี ยิ้มอย่างเขินอาย "ตกลง แต่อย่างน้อยเราก็สามารถคลายร้อนในวันที่อากาศร้อนนี้ได้!" เขาอุทาน และใช้หางสะบัดหยดน้ำไปทุกทิศทาง,
ดังนั้น สุนัขจิ้งจอกทั้งสามจึงเดินย่ำเท้ากลับบ้าน ขนของพวกมันยังคงชื้นอยู่ แต่วิญญาณของพวกมันก็ผ่อนคลายขึ้นด้วยความสนิทสนมกันและเสียงหัวเราะที่พวกมันมีร่วมกัน แม้ว่าความพยายามที่จะกระโดดข้ามสระน้ำจะจบลงด้วยภัยพิบัติที่เปียกชื้น พวกเขาก็รู้ว่าตราบใดที่ยังมีกันและกัน พวกเขาสามารถฝ่าฟันพายุใดๆ ที่เข้ามาในป่ามหัศจรรย์และป่ามหัศจรรย์ที่พวกเขาเรียกว่าบ้านได้,


นิทานเรื่องชายแก่กับงูพิษ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายแก่คนหนึ่งอาศัยอยู่ในกระท่อมกลางป่า วันหนึ่ง while เก็บฟืนในป่า ชายแก่พบงูพิษตัวหนึ่งถูกบ่วงแร้วรัดจนแน่น งูพิษร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ชายแก่รู้สึกสงสารมัน จึงค่อย ๆ แก้บ่วงแร้วออกให้อย่างระมัดระวัง,
งูพิษรู้สึกขอบคุณชายแก่สำหรับการช่วยเหลือมัน แต่ชายแก่เตือนงูว่า "เจ้าเป็นงูพิษ ถึงแม้ว่าฉันจะช่วยเจ้าวันนี้ แต่เจ้าก็อาจกัดฉันในอนาคต",
งูพิษตอบว่า "ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายท่าน ข้ารู้สึกขอบคุณท่านสำหรับการช่วยเหลือ ข้าจะไม่มีวันลืมบุญคุณของท่าน",
ชายแก่เห็นความจริงใจในคำพูดของงูพิษ จึงปล่อยมันไป
หลายปีต่อมา ชายแก่เดินผ่านป่าอีกครั้ง เขาถูกโจมตีโดยกลุ่มโจร ชายแก่พยายามต่อสู้ แต่เขาแก่และอ่อนแอ เขาถูกโจรทำร้ายจนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
ทันใดนั้น งูพิษตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้น มันพุ่งเข้าโจมตีโจรและกัดพวกมันจนได้รับบาดเจ็บ โจรกลัวงูพิษจึงหนีไป,
ชายแก่ลุกขึ้นยืนด้วยความประหลาดใจ เขาจำได้ว่างูพิษตัวนี้คือตัวเดียวกับที่เขาช่วยไว้เมื่อหลายปีก่อน,
คติเตือนใจ,
การช่วยเหลือผู้อื่น: การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดี แม้ว่าบุคคลนั้นจะดูไม่น่าไว้ใจก็ตาม
บุญคุณต้องทดแทน: การตอบแทนบุญคุณเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือควรจดจำและตอบแทนผู้ที่ช่วยเหลือเขา
อย่าตัดสินคนจากภายนอก: ไม่ควรตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก บางครั้งคนที่ดูไม่น่าไว้ใจอาจเป็นคนที่ดีและสามารถช่วยเหลือเราได้

นิทานเรื่องแมวสามสีพิทักโลก
ณ บ้านหลังน้อยในชานเมือง แมวเหมียวสามสีนามว่า "มณี" กำลังนอนอาบแดดอย่างสบายอารมณ์ มณีมีขนสีขาว ดวงตาสีฟ้าสดใส และหางยาวที่ปลายหางมีสีดำ น้ำตาล และส้ม เธอไม่ใช่แมวธรรมดา มณีมีพลังพิเศษสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์สาวผมยาวสีดำขลับ ดวงตาสีฟ้าใส และหางยาวสีสันสดใส
มณีอาศัยอยู่กับคุณยายใจดี คุณยายไม่เคยรู้เรื่องพลังพิเศษของมณี มณีเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เธอใช้ชีวิตอย่างแมวทั่วไป เล่นซน กิน นอน อาบแดด และเล่นกับคุณยาย,
วันหนึ่ง มณีได้รับจดหมายลับจากองค์กรพิทักษ์โลก จดหมายนั้นส่งมาโดยนกฮูกสีขาว นกฮูกบอกมณีว่าเธอถูกเลือกให้เป็นผู้พิทักษ์โลกคนใหม่
มณีรู้สึกตื่นเต้นและกังวลในเวลาเดียวกัน เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะเป็นผู้พิทักษ์โลก แต่เธอก็รู้ว่าเธอต้องรับผิดชอบภารกิจนี้
นกฮูกพามณีไปยังฐานทัพลับขององค์กรพิทักษ์โลก ที่นั่นเธอได้พบกับ "ราชาสิงโต" หัวหน้าองค์กร ราชาสิงโตบอกมณีว่าโลกกำลังตกอยู่ในอันตราย เหล่าวายร้ายกำลังวางแผนร้ายเพื่อยึดครองโลก,
มณีเริ่มฝึกฝนอย่างเข้มข้น เรียนรู้วิธีใช้พลังพิเศษ ต่อสู้ และทำงานเป็นทีม เธอฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้พร้อมสำหรับภารกิจพิทักษ์โลก
มณีได้เรียนรู้วิธีควบคุมพลังพิเศษ เธอสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์สาวได้ทุกเมื่อ เธอยังฝึกฝนการต่อสู้ เรียนรู้วิธีใช้ท่าต่างๆ และอาวุธต่างๆ
มณีได้เพื่อนใหม่จากการฝึกฝน เพื่อนของเธอมี "เจ้ากระรอกน้อย" ที่มีความคล่องแคล่วว่องไว "นกฮูกน้อย" ที่มีความฉลาดหลักแหลม และ "หมาป่าสีขาว" ที่มีความแข็งแรง,
มณีและเพื่อนๆ วางแผนขัดขวางแผนร้ายของเหล่าวายร้าย เหล่าวายร้ายต้องการปลุกพลังปีศาจร้ายเพื่อยึดครองโลก
มณีและเพื่อนๆ ต้องรีบหาทางหยุดยั้งเหล่าวายร้ายก่อนที่จะสายเกินไป,
มณีและเพื่อนๆ ต่อสู้กับเหล่าวายร้ายอย่างดุเดือด ในที่สุดพวกเขาก็เอาชนะเหล่าวายร้ายและหยุดยั้งพลังปีศาจร้ายได้สำเร็จ
โลกกลับมาสงบสุขอีกครั้ง มณีและเพื่อนๆ ได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษ,
มณีลาจากเพื่อนๆ กลับมาใช้ชีวิตปกติที่บ้าน เธอยังคงฝึกฝนพลังพิเศษ เผื่อไว้ว่าวันหนึ่งโลกต้องการเธออีกครั้ง
มณีรู้ว่าเธอจะไม่มีวันลืมภารกิจพิทักษ์โลก เธอจะจดจำความกล้าหาญ มิตรภาพ และความเสียสละที่เกิดขึ้นในภารกิจครั้งนี้

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม