นิทานในวันที่1/05/2567

นิทานเรื่องลิงไหว้พระอาทิตย์
ในสมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุผู้ชอบหลอกลวงรูปหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...
     กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นฤาษีบำเพ็ญเพียรอยู่ในป่าหิมพานต์เป็นเวลานานหลายปี มีคณะฤาษีเป็นบริวารหลายร้อยตน วันหนึ่ง ได้ลงจากเขา เข้าเมืองมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แถบชายแดน ชาวบ้านมีศรัทธาได้สร้างศาลาถวายหลังหนึ่ง ในเวลาที่คณะฤาษีไปภิกขาจาร จะมีลิงโทนตัวหนึ่งมาที่ศาลาของพวกฤาษีทำการเทน้ำทิ้ง ทุบหม้อ ทำลายสิ่งของและถ่ายอุจจาระไว้ที่เตาไฟเป็นประจำ เมื่อออกพรรษาแล้วคณะฤาษีจึงบอกลาชาวบ้านจะกลับเข้าป่าหิมพานต์เหมือนเดิม พวกชาวบ้านจึงนิมนต์ให้อยู่ต่ออีกหนึ่งวันเพื่อถวายอาหาร

     ครั้งหนึ่งถึงเวลาเช้า ชาวบ้านก็นำข้าวปลาอาหารและผลไม้ไปที่อาศรมของฤาษี ลิงโทนตัวนั้นเห็นเช่นนั้นก็คิดจะลวงชาวบ้านเพื่อที่จะได้อาหารบ้าง จึงทำทีเป็นผู้ทรงศีล บำเพ็ญตบะ ยืนไหว้พระอาทิตย์อยู่ในที่ไม่ไกลจากอาศรมฤาษีนั้น พวกชาวบ้านเห็นมันแล้วก็พูดสรรเสริญว่า

"ท่านทั้งหลายจงดู ลิงอยู่ใกล้ผู้ทรงศีลก็เป็นผู้ทรงศีลด้วย ตั้งมั่นอยู่ในศีล ยืนไหว้พระอาทิตย์อยู่น่้าสรรเสริญจริง ๆ"

ฤาษีโพธิ์สัตว์เห็นพวกชาวบ้านสรรเสริญลิงนั้นจึงพูดขึ้นว่า "พวกท่านไม่ทราบพฤติกรรมของมัน จึงเลื่อมใสในสิ่งไม่เป็นเรื่องเป็นราว" แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
"ท่านทั้งหลายไม่รู้จักปกติของมัน เพราะไม่รู้จักจึงพากันสรรเสริญ ลิงตัวนี้มันเผาโรงไฟ และคนโทน้ำ ๒ ลูกก็ถูกมันทำลาย"
พวกชาวบ้านเมื่อทราบว่ามันเป็นลิงหลอกลวง จึงขว้างก้อนหินและท่อนไม้ไล่มันหนีไป แล้วพากัน ถวายอาหารแก่คณะฤาษี พอฉันเสร็จคณะฤาษีก็ออกเดินทางเข้าป่าหิมพานต์ปฏิบัติธรรมตามเดิม


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : คนพาลถึงแม้จะอยู่ใกล้บัณฑิตผู้ทรงศีล ก็ยังเป็นคนพาลอยู่นั่นเอง


สวัสดีครับเพื่อนๆอยากจะสนับสนุนนิทานและคำกลอนของอ้ายจำเรียน แต่งโดยใช้เอไอช่วยแต่งให้บางเรื่องอ่านจะขวิดจะขัด อ้ายจำเรียนต้องโทษด้วยนะครับ อยากให้กำลังเล็กๆน้อยๆด้วยการโอนเงินได้ที่
 พร้อมเพย์เบอร์👉0892718015
ทรูมันนี่วอเลทเบอร์👉0892718015
           นาย จำเรียน จันทร์รักษา
          ขอบคุณมากครับ
สุดท้ายนี้อ้ายจำเรียนไม่มีอะไรให้นอกจากอวยพรให้
อ้ายจำเรียนขอให้น้องๆคนที่ใจดีกับอ้ายจำเรียนและใจดีมีความแมตตาต่อผู้อื่นทุกคนสุขสันต์ทุกวันไม่เจ็บไม่ป่วย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ขอให้พระคุ้มครองคุณและครอบครัว ขอให้สุขสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนา ขอให้การเรียนการงานการซื้อขายและธุรกิจ ราบรื่นสดใสปราศจากอุปสรรคทั้งปวง ขอให้สวยหล่อกันทุกคน ขอให้มีความสุขในการตอกกับแฟนราบรื่น จนถึงสวรรค์วิมานกันทุกคนนะครับ


นิทานอีสป เรื่อง ช้างเกเร
ผู้แต่ง : อีสป

นิทานอีสป เรื่อง ช้างเกเร , ช้างเกเร , นิทานอีสป , อีสป , นิทานสอนใจ , นิทานอีสปสอนใจ , นิทาน , aesop fables , aesop , พุทธภาษิต , นิทานสั้น , นิทานสั้นพร้อมข้อคิด , นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า , พุทธพจน์ , นิทานพื้นบ้าน , นิทานเด็ก , นิทานสอนเด็ก , นิทานการ์ตูน , การ์ตูน , การ์ตูนธรรมะ , การ์ตูนสี่สี , นิทานสี่สี , สัตว์น่ารัก , นิทานสัตว์ , การ์ตูนสัตว์ , การ์ตูนไทย , ธรรมะ , ธรรมะออนไลน์ , พุทธประวัติ , การ์ตูนเด็กดี , ศาสนาพุทธ , พระพุทธศาสนา , สื่อธรรมะ , ธรรมกาย , วัดพระธรรมกาย , สื่อสีขาว , Tale , cartoon , กัลยาณมิตร , นิทานธรรมะออนไลน์ , การ์ตูนเด็ก , ภาพการ์ตูนสวย , การ์ตูนคุณธรรม , รักการอ่าน , บันทึกรักการอ่าน , อีสป , นิทานอีสป รวมนิทานอีสปพร้อมภาพประกอบ ข้อคิดสอนใจ , fairy tale , อีสป , อีสบ


        มีช้างตัวหนึ่งเที่ยวเดินเอางวงดึงกิ่งไม้และใบไม้มาเหยียบย่ำ แล้วใช้แรงอันมหาศาลโยกต้นไม้ไปมาจนต้นไม้ใหญ่น้อยหักโค่นลงตลอดสองข้างทางที่มันเดินผ่าน


        พอมันเดินมาถึงต้นไม้ต้นหนึ่ง ซึ่งพ่อนกและแม่นกกำลังช่วยกันเลี้ยงดูลูกในรัง...มันใช้งวงรัดและโยกต้นไม้ต้นนี้จนลูกนกตกลงมาตายทั้งรัง โดยไม่ฟังเสียงอ้อนวอนของพ่อนกและแม่นกเลย


        พอมันเดินผ่านต้นไม้ซึ่งมีฝูงผึ้งฝูงหนึ่งทำรังอยู่...มันก็ใช้งวงดึงรังผึ้งมาเพื่อจะเหยียบย่ำ


        ทันใดนั้นเองฝูงผึ้งจำนวนนับร้อยก็กรูกันเข้าต่อยที่ตาของช้างพร้อม ๆ กันจนตาบอด  ช้างเกเรเดินโซซัดโซเซไปมาอย่างน่าสงสาร...


        แต่ฝูงเม่นซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดร่วมใจกันลงโทษช้างใจร้ายโดยพากันสลัดขนทิ่มแทงหนังช้างซ้ำเข้าไปอีกจนช้างตาบอดได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสมัน เดินสะเปะสะปะไปตลอดทางจนกระทั้งตกหน้าผาตาย


 


:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

นิทานอ้ายจำเรียนตอกกับน้องดาวในป่าอ้อย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ มีเด็กชายชื่อจำเรียนและเด็กหญิงชื่อดาว ทั้งคู่เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ วันหนึ่ง ขณะที่ทั้งคู่กำลังเล่นซ่อนหากันอยู่ในป่าอ้อย จำเรียนก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากด้านหลัง

"แคร่กๆๆ"

จำเรียนหันไปมองก็เห็นเงาดำๆ กำลังวิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว จำเรียนตกใจมาก รีบวิ่งหนีสุดชีวิต แต่เงาดำนั้นก็วิ่งตามมาติดๆ จำเรียนวิ่งไปจนสุดป่าอ้อยก็ไปเจอกับน้องดาวพอดี

"น้องดาว ช่วยด้วย มีอะไรวิ่งไล่ตามมา!" จำเรียนร้องบอก

น้องดาวหันไปมองก็เห็นเงาดำนั้นกำลังวิ่งเข้ามาหา เงาดำนั้นมีรูปร่างใหญ่โตและมีเขี้ยวที่แหลมคม

"อ๊ากกกก" น้องดาวกรีดร้องด้วยความกลัว

จำเรียนกับน้องดาววิ่งหนีสุดชีวิต แต่เงาดำนั้นก็วิ่งตามมาไม่ลดละ ทั้งคู่วิ่งจนเหนื่อยหอบ แต่ก็ยังไม่สามารถหนีเงาดำนั้นได้

ในที่สุด เงาดำนั้นก็วิ่งมาทันจำเรียนและน้องดาว จำเรียนกับน้องดาวตกใจกลัวมาก รีบวิ่งหนีไปคนละทาง แต่เงาดำนั้นก็วิ่งตามน้องดาวไป

จำเรียนหันไปมองก็เห็นน้องดาวถูกเงาดำนั้นจับตัวไป จำเรียนรีบวิ่งตามไปช่วยน้องดาว แต่ก็ไม่ทันแล้ว เงาดำนั้นได้คาบตัวน้องดาววิ่งหายไปในความมืด

จำเรียนเสียใจมากที่ไม่สามารถช่วยน้องดาวได้ จำเรียนวิ่งกลับบ้านไปร้องไห้ฟูมฟาย พ่อแม่ของจำเรียนเห็นลูกชายร้องไห้ก็ตกใจมาก จึงรีบถามว่าเกิดอะไรขึ้น จำเรียนก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พ่อแม่ฟัง

พ่อแม่ของจำเรียนได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นก็ตกใจมาก รีบออกตามหาน้องดาว แต่ก็ไม่พบ พ่อแม่ของจำเรียนจึงไปแจ้งความกับตำรวจ ตำรวจก็ได้ออกตามหาน้องดาว แต่ก็ไม่พบเช่นกัน

จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายวัน ตำรวจก็ยังไม่สามารถหาน้องดาวพบ พ่อแม่ของจำเรียนจึงเริ่มหมดหวัง แต่จำเรียนยังไม่หมดหวัง จำเรียนยังคงออกตามหาน้องดาวทุกวัน

วันหนึ่ง จำเรียนได้ยินข่าวว่ามีคนพบร่างของเด็กหญิงคนหนึ่งในป่าอ้อย จำเรียนรีบไปดูก็พบว่าเป็นร่างของน้องดาว จำเรียนเสียใจมากที่น้องดาวเสียชีวิต แต่จำเรียนก็ดีใจที่ได้พบร่างของน้องดาว

จำเรียนได้จัดงานศพให้น้องดาวอย่างสมเกียรติ และจำเรียนก็ได้สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ลืมน้องดาวไปตลอดชีวิต
-----

นิทานอ้ายจำเรียนปลอมตัวเป็นยาจกขอทานถูกแฟนเก่าน้องพลอยดูถูกว่าเป็นคนขอทาน
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มรูปงามนามว่า อ้ายจำเรียน เขาเป็นคนขยันและฉลาด แต่โชคชะตาเล่นตลกทำให้เขาต้องตกอับ กลายเป็นยาจกขอทานที่ผู้คนรังเกียจ

วันหนึ่ง ขณะที่อ้ายจำเรียนกำลังขอทานอยู่ริมถนน เขาก็ได้พบกับแฟนเก่าของน้องสาวเขา นามว่า พลอย เธอเป็นหญิงสาวที่สวยงามและร่ำรวย แต่กลับหยิ่งยโสและดูถูกคนอื่น

พลอยมองอ้ายจำเรียนด้วยสายตาเหยียดหยาม "นี่แกเป็นยาจกงั้นเหรอ" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย "ฉันไม่น่าเชื่อเลยว่าคนที่เคยเป็นแฟนกับน้องสาวฉันจะตกต่ำได้ขนาดนี้"

อ้ายจำเรียนรู้สึกเจ็บปวดที่ถูกดูถูก แต่เขาก็อดทนอดกลั้น "ฉันอาจจะเป็นยาจก แต่ฉันก็ยังเป็นคนเหมือนกัน" เขากล่าว "ฉันไม่เคยทำร้ายใคร และฉันก็ไม่สมควรที่จะถูกดูถูก"

พลอยหัวเราะเยาะ "คนอย่างแกจะมาพูดเรื่องความถูกต้องได้ยังไง" เธอกล่าว "แกเป็นแค่ยาจกที่ไร้ค่า ไม่มีใครต้องการแก"

อ้ายจำเรียนรู้สึกโกรธและเสียใจ แต่เขาก็ยังคงสงบนิ่ง "สักวันหนึ่ง ฉันจะพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าฉันไม่ใช่ยาจกไร้ค่า" เขากล่าว

พลอยหัวเราะเยาะอีกครั้ง "ฉันรอคอยที่จะเห็นนะ" เธอกล่าว จากนั้นเธอก็เดินจากไป

อ้ายจำเรียนมองตามพลอยไปด้วยสายตาเศร้าสร้อย เขาตัดสินใจว่าจะพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าเขามีค่ามากกว่าที่เธอคิด เขาจึงเริ่มทำงานหนักและเก็บหอมรอมริบเงินเพื่อไถ่ถอนตัวเองจากความยากจน
-----
Q202


นิทานท่านประธานบริษัทมีนามว่าอ้ายจำเรียนปลอมตัวเป็นขอทานทดลองใจหญิงสาวแฟนเก่าถึงกับดูถูกเหยียดหยามน้ำใจ


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีท่านประธานบริษัทหนุ่มรูปงามนามว่า อ้ายจำเรียน ท่านได้แอบหลงรักหญิงสาวคนหนึ่งมานานแล้ว แต่ด้วยความที่ฐานะของทั้งสองต่างกันมาก ท่านจึงไม่กล้าที่จะสารภาพรักออกไป

วันหนึ่ง ท่านประธานบริษัทได้ตัดสินใจปลอมตัวเป็นขอทาน แล้วไปทดลองใจหญิงสาวคนนั้น โดยแกล้งทำเป็นขอทานเงินจากเธอ หญิงสาวเห็นท่านประธานบริษัทในสภาพขอทานก็ถึงกับดูถูกเหยียดหยาม ท่านประธานบริษัทได้ยินคำพูดของหญิงสาวก็รู้สึกเสียใจมาก แต่ก็ยังคงทำเป็นขอทานต่อไป

หลังจากนั้นไม่นาน ท่านประธานบริษัทก็ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง หญิงสาวถึงกับตกใจและรู้สึกละอายใจที่ได้ดูถูกเหยียดหยามท่านประธานบริษัทไป ท่านประธานบริษัทได้อธิบายให้หญิงสาวฟังว่าที่ท่านทำไปทั้งหมดก็เพื่อทดลองใจเธอเท่านั้น หญิงสาวรู้สึกซาบซึ้งใจในความรักของท่านประธานบริษัทมาก และทั้งสองก็ได้ตกลงคบหากันในที่สุด
-----
Q203

นิทานเรื่องลูกชายท่านประธานบริษัทตอกดีจำกัดมีนามว่าอ้ายจำเรียนถูกสลับลูกคนรับใช้ตั้งแต่แรกเกิดลูกชายท่านประธานถูกสลับเป็นลูกคนรับใช้ลูกคนรับใช้สลับเป็นลูกท่านประธาน

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในบริษัทตอกดีจำกัดอันยิ่งใหญ่ มีท่านประธานผู้มั่งคั่งและทรงอิทธิพลนามว่า ท่านประธานตอก ท่านประธานมีโอรสที่เพิ่งประสูติใหม่นามว่า อ้ายจำเรียน ซึ่งเป็นที่รักและหวงแหนของทั้งท่านประธานและภริยา

ในขณะเดียวกันนั้น คนรับใช้ในบ้านของท่านประธานนามว่า นางบัว ก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายเช่นกัน ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อพยาบาลที่รับผิดชอบการดูแลทารกทั้งสองเผลอหลับไป ทำให้นางบัวสลับลูกของตนกับอ้ายจำเรียนโดยไม่รู้ตัว

เมื่อท่านประธานและภริยารับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ก็โศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความรักและความเมตตา ท่านทั้งสองจึงตัดสินใจเลี้ยงดูลูกของนางบัวราวกับเป็นลูกแท้ๆ ของตนเอง ขณะเดียวกันก็สืบหาลูกชายที่แท้จริงอย่างไม่ลดละ

เวลาผ่านไปหลายปี อ้ายจำเรียนเติบโตขึ้นมาเป็นหนุ่มน้อยที่ฉลาดและมีน้ำใจ ส่วนลูกชายของนางบัวที่ถูกสลับตัวไปนั้น กลับกลายเป็นเด็กเกเรและไม่เอาไหน ท่านประธานและภริยาจึงเริ่มสงสัยว่าลูกชายที่ตนเลี้ยงดูมานั้นอาจไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของตน

วันหนึ่ง ท่านประธานได้จัดงานเลี้ยงใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดของอ้ายจำเรียน แขกเหรื่อมากมายต่างมาร่วมงาน รวมถึงนางบัวและลูกชายของนางด้วย ขณะที่งานเลี้ยงกำลังดำเนินไป ท่านประธานสังเกตเห็นว่าลูกชายของนางบัวมีลักษณะคล้ายคลึงกับตนเองมาก จึงเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง

หลังจากงานเลี้ยง ท่านประธานจึงเรียกนางบัวมาสอบถามความจริง นางบัวรู้สึกผิดและเสียใจเป็นอย่างมาก จึงสารภาพเรื่องที่สลับลูกกันตั้งแต่แรกเกิด ท่านประธานและภริยาดีใจจนน้ำตาไหลที่ได้พบลูกชายที่แท้จริงของตน

ในที่สุด อ้ายจำเรียนก็ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงของตน ส่วนลูกชายของนางบัวก็ได้รับการเลี้ยงดูจากนางบัวและสามีด้วยความรักและความอบอุ่นเช่นเดิม

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้โชคชะตาจะเล่นตลกกับเราอย่างไร แต่ความรักและความเมตตาจะช่วยให้เราผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้เสมอ
-----
Q204

นิทานเซน
"เรื่องราวของเซนเป็นเรื่องเล่าและอุปมาที่แสดงให้เห็นถึงคำสอนและการปฏิบัติของศาสนาพุทธเซน เรื่องราวมักเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด สถานการณ์ที่ขัดแย้ง และการตอบสนองที่ไม่ธรรมดา ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อท้าทายสมมติฐานของผู้ฟังและกระตุ้นให้พวกเขาคิดอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความเชื่อและการกระทำของตนเอง เรื่องราวเซนที่รู้จักกันดีบางเรื่อง ได้แก่:

1. ชายที่พูดว่าใช่: ชายคนหนึ่งไปที่วัดพุทธเพื่อเข้าร่วมการปฏิบัติธรรมแบบเงียบและถามพระว่าจะหาความสงบได้อย่างไร พระแนะนำให้เขากล่าวว่า "ใช่" กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะการต่อต้านสิ่งที่เป็นสาเหตุของความทุกข์

2. หญิงสาวที่แม่น้ำ: Tanzan และ Ekido พบหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่ไม่สามารถข้ามทางแยกที่เต็มไปด้วยโคลนได้ Tanzan อุ้มเธอข้ามไป และต่อมา Ekido ก็วิพากวิจารณ์เขาที่ละเมิดกฎของสงฆ์ Tanzan ตอบว่าเขาปล่อยหญิงสาวไว้ที่นั่นแล้ว และ Ekido ก็ตระหนักว่าเขายังคงแบกเธอไว้ในความคิดของเขา

3. ถ้วยชา: ชายผู้มีการศึกษาไปเยี่ยมอาจารย์เซนและขัดจังหวะเขาด้วยความคิดเห็นของตนเอง อาจารย์เสิร์ฟชาให้เขา โดยเทลงในถ้วยของเขาจนล้น แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการล้างจิตใจก่อนที่จะเรียนรู้

4. เทียนสี่เล่ม: พระสี่รูปนั่งสมาธิเงียบๆ เป็นเวลาสองสัปดาห์ แต่เมื่อเทียนเล่มแรกดับลง พวกเขาก็โต้เถียงกันเรื่องการทำลายความเงียบ พระรูปที่สี่หัวเราะ ชี้ให้เห็นว่าพวกเขายังคงแบกภาระความคิดเห็นของตนเองอยู่

5. เสือและสตรอว์เบอร์รี: อาจารย์เซนเผชิญหน้ากับเสือ และขณะที่ห้อยโหนอยู่บนเถาวัลย์ เขาสังเกตเห็นสตรอว์เบอร์รีและเพลิดเพลินกับมัน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการค้นหาความสุขในปัจจุบัน

เรื่องราวเหล่านี้ รวมถึงเรื่องราวอื่นๆ อีกมากมาย ใช้เพื่อสอนหลักการของเซน เช่น การไม่ยึดติด การไม่แบ่งแยก และความสำคัญของการมีสติและการมีอยู่
-----
Q222
นิทานอ้ายจำเรียนปลอมตัวเป็นคนยากจน

ในยามค่ำคืนที่ดวงดาวระยิบระยับ ท่านประธานบริษัทตอกดีผู้ทรงเกียรติอย่าง "อ้ายจำเรียน" ได้ปลอมตัวเป็นคนยากจนตกงาน เดินทางไปยังย่านที่แออัดและยากไร้

ขณะที่อ้ายจำเรียนเดินผ่านไปตามถนนสายแคบๆ สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ริมทาง เธอคือ "นวล" แฟนเก่าของเขาที่เคยจากกันไปเมื่อหลายปีก่อน

หัวใจของอ้ายจำเรียนเต้นระรัวเมื่อเห็นนวลอีกครั้ง เธอเปลี่ยนไปมากจากเมื่อก่อน ใบหน้าที่เคยสดใสบัดนี้ดูหมองเศร้า และดวงตาที่เคยเปล่งประกายก็ไร้ซึ่งชีวิตชีวา

อ้ายจำเรียนเดินเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ และเรียกชื่อของเธอออกมาเบาๆ "นวล"

นวลเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าเป็นอ้ายจำเรียน เธอก็รีบลุกขึ้นยืนและถอยหลังไปสองสามก้าว

"คุณเป็นใคร" เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"ฉันจำเรียนไง นวล" อ้ายจำเรียนตอบ "จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ"

นวลจ้องหน้าอ้ายจำเรียนอย่างพินิจพิจารณา ก่อนที่เธอจะจำได้ว่าเขาคือใคร "จำเรียน" เธออุทาน "คุณเป็นจำเรียนจริงๆเหรอ"

"ใช่ ฉันเอง" อ้ายจำเรียนยืนยัน "ฉันมาหาเธอ"

"มาหาฉันทำไม" นวลถาม "เราเลิกกันไปนานแล้ว"

"ฉันรู้" อ้ายจำเรียนกล่าว "แต่ฉันคิดถึงเธอ ฉันอยากรู้ว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง"

นวลถอนหายใจ "ฉันไม่สบายดีนัก" เธอสารภาพ "ฉันแต่งงานแล้ว แต่สามีฉันไม่ดีกับฉัน เขาชอบดื่มเหล้าและทำร้ายฉัน"

อ้ายจำเรียนรู้สึกโกรธและเสียใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น "ฉันจะไม่ยอมให้เขาทำร้ายเธอ" เขากล่าว "ฉันจะช่วยเธอ"

นวลมองอ้ายจำเรียนด้วยความสงสัย "คุณจะช่วยฉันได้ยังไง" เธอถาม

"ฉันเป็นประธานบริษัทตอกดี" อ้ายจำเรียนเปิดเผย "ฉันมีอำนาจที่จะไล่สามีเธอออกจากงาน"

นวลตกใจมากที่ได้ยินเช่นนั้น "คุณเป็นประธานบริษัทตอกดีเหรอ" เธอถาม "แต่ทำไมคุณถึงปลอมตัวเป็นคนจน"

"ฉันอยากรู้ว่าชีวิตคนจนเป็นอย่างไร" อ้ายจำเรียนตอบ "และฉันก็อยากช่วยเหลือคนที่ลำบาก"

นวลรู้สึกซาบซึ้งใจในความเมตตาของอ้ายจำเรียน "ขอบคุณค่ะ" เธอพูด "คุณใจดีมาก"

อ้ายจำเรียนยิ้มให้เธอ "ไม่เป็นไร" เขากล่าว "ฉันยินดีที่จะช่วยเหลือเธอ"

และแล้วอ้ายจำเรียนก็ไล่สามีของนวลออกจากงาน และช่วยให้นวลได้งานใหม่ในบริษัทตอกดี นวลรู้สึกมีความสุขและขอบคุณอ้ายจำเรียนมากที่ช่วยเหลือเธอในยามยาก
-----
Q223

นิทานท่านประธานปลอมตัวเป็นคนงานก่อสร้าง


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีท่านประธานบริษัทหนุ่มรูปงามนามว่า "คุณภพ" ผู้มากความสามารถและมีจิตใจดีงาม ท่านแอบหลงรักหญิงสาวนามว่า "คุณแพร" มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความที่คุณภพเป็นหนุ่มขี้อาย จึงไม่กล้าที่จะสารภาพรักกับคุณแพรตรงๆ

หลังจากเรียนจบ คุณภพได้ทำงานและก่อตั้งบริษัทของตัวเองจนประสบความสำเร็จอย่างมาก กลายเป็นท่านประธานบริษัทหนุ่มไฟแรงที่สาวๆ หลายคนหมายปอง แต่ในใจของท่านประธานหนุ่มยังคงมีเพียงคุณแพรคนเดียว

วันหนึ่ง คุณภพได้ข่าวว่าคุณแพรได้เลิกรากับแฟนหนุ่มมาสักระยะแล้ว ท่านประธานหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะใช้โอกาสนี้สารภาพรักกับคุณแพร แต่เพื่อที่จะพิสูจน์ความจริงใจของตนเอง คุณภพจึงวางแผนปลอมตัวเป็นคนงานก่อสร้างนามว่า "อ้ายจำเรียน"

คุณภพสวมเสื้อผ้าเก่าๆ สวมหมวกนิรภัย และถือปูนซีเมนต์เหมือนกับคนงานก่อสร้างทั่วไป ท่านประธานหนุ่มแอบไปสมัครงานที่บริษัทก่อสร้างที่คุณแพรทำงานอยู่ และด้วยความขยันและอดทนของคุณภพ ทำให้เขาได้รับการว่าจ้างให้ทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง

คุณภพทำงานอย่างหนักทุกวัน โดยไม่เคยบ่นหรือท้อถอย ท่านประธานหนุ่มคอยสังเกตคุณแพรอยู่ห่างๆ และคอยช่วยเหลือเธออย่างลับๆ โดยที่คุณแพรไม่รู้ตัว

วันหนึ่ง ขณะที่คุณแพรกำลังยกของหนักอยู่ คุณภพก็รีบเข้าไปช่วยเหลือเธอไว้ทัน คุณแพรหันกลับมามองด้วยความตกใจ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเพียงคนงานก่อสร้าง เธอก็ยิ้มขอบคุณและเดินจากไป

คุณภพรู้สึกดีใจที่ได้ช่วยเหลือคุณแพร แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเศร้าใจที่เธอจำเขาไม่ได้ ท่านประธานหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะสารภาพความจริงกับคุณแพร

เย็นวันนั้น คุณภพนัดพบคุณแพรที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ท่านประธานหนุ่มถอดหมวกนิรภัยและเสื้อผ้าคนงานก่อสร้างออก เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของคุณภพ

คุณแพรตกใจมากเมื่อเห็นว่าคนงานก่อสร้างที่เธอเคยช่วยเหลือไว้คือคุณภพ ท่านประธานบริษัทหนุ่มที่เธอแอบชอบมาตั้งแต่สมัยเรียน

คุณภพสารภาพรักกับคุณแพรด้วยความจริงใจ ท่านประธานหนุ่มบอกกับเธอว่าที่เขาปลอมตัวเป็นคนงานก่อสร้างก็เพื่อที่จะพิสูจน์ความจริงใจของตนเอง และเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอ

คุณแพรฟังคำสารภาพของคุณภพด้วยความซาบซึ้งใจ เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าท่านประธานบริษัทหนุ่มรูปงามจะแอบหลงรักเธอมาตลอด

ในที่สุด คุณแพรก็ตอบตกลงที่จะคบหากับคุณภพ ทั้งสองคนรักกันมาก และใช้ชีวิตคู่ด้วยความสุขตลอดไป
-----
Q226

นิทานอ้ายจำเรียนผิดหวังความรักกับน้องดาว

ในห้วงเวลาที่ดวงดาวส่องประกายระยิบระยับ ท่านประธานบริษัทตอกดีผู้ทรงเกียรติอย่าง "อ้ายจำเรียน" ได้พบกับหญิงสาวนามว่า "น้องดาว" น้องดาวเป็นหญิงสาวที่งดงามและมีเสน่ห์ อ้ายจำเรียนตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น และทั้งสองก็ได้คบหากันอย่างหวานชื่น

แต่แล้ววันหนึ่ง น้องดาวก็ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ อ้ายจำเรียนตามหาเธอจนทั่วทุกหนแห่ง แต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ เขาเสียใจและผิดหวังเป็นอย่างมาก ความรักที่เคยหวานชื่นกลายเป็นความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ในใจ

อ้ายจำเรียนพยายามลืมน้องดาว แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เขาคิดถึงเธอทุกวันและทุกคืน จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้รับจดหมายจากน้องดาว

ในจดหมาย น้องดาวเล่าว่าเธอได้แต่งงานกับชายอื่นไปแล้ว และเธอขอโทษที่ทำให้เขาต้องเจ็บปวด อ้ายจำเรียนรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมน้องดาวถึงทิ้งเขาไป

อ้ายจำเรียนเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมออกไปไหน เขาจมอยู่กับความเศร้าและความผิดหวังเป็นเวลานาน จนกระทั่งวันหนึ่ง เพื่อนสนิทของเขาได้มาเยี่ยมและปลอบโยนเขา

เพื่อนของอ้ายจำเรียนบอกกับเขาว่า "จำเรียน แกต้องเข้มแข็งไว้ ความรักไม่ได้มีแค่คนเดียวบนโลกนี้ แกยังมีคนที่รักแกและต้องการแกอยู่"

คำพูดของเพื่อนทำให้สติของอ้ายจำเรียนค่อยๆ กลับคืนมา เขาเริ่มออกไปพบปะผู้คนและทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความเศร้า

ค่อยๆ ทีละน้อย อ้ายจำเรียนก็เริ่มทำใจได้ เขาเข้าใจว่าน้องดาวไม่ได้รักเขาแล้ว และเขาต้องเคารพการตัดสินใจของเธอ

ในที่สุด อ้ายจำเรียนก็สามารถก้าวต่อไปได้ เขาพบรักใหม่กับหญิงสาวที่รักและเข้าใจเขาอย่างแท้จริง และเขาก็ได้เรียนรู้ว่าความรักที่แท้จริงนั้นไม่ใช่การครอบครอง แต่เป็นการปล่อยให้คนที่เรารักได้เป็นตัวของตัวเอง
-----
Q227

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม