คำบูชาพระ, คำอาราธนาศีล 5, สมาทานศีล ๕


นมัสการสักการะพระรัตนตรัย

อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ

คำนมัสการพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมา สัมพุทโธภะคะวา พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ(กราบ)
พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์ดับเพลิงกิเลส
เพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
ข้าพเจ้าขออภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน (กราบ)
สะวาขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ(กราบ)
พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า,
ตรัสไว้ดีแล้ว , ข้าพเจ้าขอนมัสการ พระธรรม (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ(กราบ)
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า,
ปฏิบัติดีแล้ว ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสงฆ์ (กราบ)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คำขอขมาพระรัตนตรัย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ (ว่า 3 จบ)
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
(ถ้าหลายคนว่า … ขะมะตุโน ภันเต ฯลฯ)

หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดีด้วยทางกายก็ดี หรือวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี และมีเจตนาก็ดี ไม่มีเจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คำอาราธนาศีล 5
มะยังภันเต วิสุงวิสุง รักขะนะธายะ ติสะระเน นะสะหะ ปัญจะ ศีลานิยาจามะ
(ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีล 5 พร้อมกับสรณะ 3)
ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุงวิสุง รักขะนะธายะ ติสะระเน นะสะหะ ปัญจะ ศีลานิยาจามะ
(ท่านผู้เจริญ แม้นในวาระที่ 2 ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีล 5 พร้อมกับสรณะ 3)
ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุงวิสุง รักขะนะธายะ ติสะระเน นะสะหะ ปัญจะ ศีลานิยาจามะ
(ท่านผู้เจริญ แม้นในวาระที่ 3 ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีล 5 พร้อมกับสรณะ 3)

(ถ้าคนเดียวเปลี่ยนจากคำว่า "มะยัง" เป็น "อะหัง" และ "ยาจามะ" เป็น "ยาจามิ")

สมาทานศีล๕
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ
(ว่า ๓ จบ)
(ขอนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ไกลจากกิเลสควรแก่การกราบไหว้บูชา
เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง ฯ)
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
(ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก)
ทุติยัมปิ    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
(แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก)
ตะติยัมปิ   พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ   ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ   สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
(แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก)
ปาณา ติปาตา เวระมณี สิกขา ปะทังสะมาธิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเองและไม่ใช่ให้ผู้อื่นฆ่า)
อทินนา ทาณา เวระมณี สิกขา ปะทังสะมาธิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการลัก ,ฉ้อ ของผู้อื่นด้วยตนเอง และไม่ใช่ให้ผู้อื่นลัก ฉ้อ)
กาเม สุมิฉา จารา เวระมณี สิกขา ปะทังสะมาธิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม)
มุสา วาทา เวระมณี สิกขา ปะทังสะมาธิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการพูดเท็จ คำไม่เป็นจริง และคำล่อลวง อำพรางผู้อื่น)
สุราเมระยะ มัชชะปะมา ทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สมาธิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มสุรา เมรัย เครื่องดองของทำใจให้คลั่งไคล้ต่างๆ)
อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ(3 ครั้ง)
(ข้าพเจ้าขอทรงไว้ซึ่งศีลทั้งห้าประการด้วยจิตตั้งมั่น)(3 ครั้ง)
(พระสวดรับรองว่า)
ศีเลนะสุขคติงยันติ 
(ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ถึงความสุข) (ผู้ขอพึงรับ สาธุ )
ศีเลนะโภคะสัมปะทา 
(ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ได้มาซึ่ง โภคทรัพย์) (ผู้ขอพึงรับ สาธุ )
ศีเลนะนิพพุติงยันติ 
(และศีลนั้นยัง จะเป็นเหตุให้ได้ไปถึง นิพพาน คือความดับเย็นจากกิเลศ เครื่องเศร้าหมอง ทั้งปวง)
ตัสสมา ศีลัง วิโสทะเย 
(ศีล จึงเป็นสิ่งที่วิเศษนักที่เธอทั้งหลายพึงยึดถือเป็นหลัก ประจำชีวิต ประจำจิตใจ ปฏิบัติ ให้ได้ ดังนี้ แล) (ผู้ขอพึงรับ สาธุ )


บัดนี้ข้าพเจ้า... ตั้งใจรักษาศีลแล้ว, บัดนี้ข้าพเจ้า... คือผู้มีศีล,
ข้าพเจ้าผู้มีศีล ละอาย ต่อการทำความชั่ว กลัว ต่อผลของบาปกรรม,
ข้าพเจ้าผู้มีศีล มีหิริโอตตัปปะ, มีกายเป็นมนุษย์ มีใจเป็นเทวดา,
เป็นมนุสสเทโว เข้าถึงความเป็นสหาย กับเหล่าเทวดาทั้งหลาย,
ขอ เทพ พรหม เทวดาทั้งหลาย ผู้เป็นสหายของข้าพเจ้า ร่วมโมทนาบุญ
และ เมตตา ปกป้อง คุ้มครองรักษา ข้าพเจ้า ด้วยเทอญ.........

พระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า

“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ
อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ

ข้าพุทธจำเรียน จันทร์รักษาขออัญเชิญคุณแห่งพระพุทธเจ้าอันวิเศษ คุณแห่งกระแสพระนิพพานอันประเสริฐ ซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสรรเสริญแล้ว จงเป็นมหาวิภูษิตาภรณ์ประดับด้วยมงกุฎทิพย์และเครื่องทรงแห่งพระเจ้ามหาจักรพรรดิครอบคลุมข้าพุทธจำเรียนจันทร์รักษาตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ

นมัสการหัวใจพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์

โอม มานี ปัทเม หุม

ลูกขอนอบน้อมเอาพระรัตนตรัยและดวงใจของพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์มาไว้ในดวงใจของลูกก็คือ มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ คือ มีพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะเป็นที่พึ่งอันสูงสุด และมีจิตเป็นมหาเมตตากรุณาดุจดั่งพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์เจ้าลูกขอชำระล้างจิตเป็นบาปอกุศลกรรม153กรรมเอาออกจากจิตกายวาจาของลูกดัวยการของดละเว้นขาดจากบาปอกุศลกรรม153กรรมทั้งปวงดัวย

การท่องมนต์ภาวนาว่าโอม มณี ปัทเม หูม ด้วยตลอดเวลาทุกลมหายใจเข้าออก





บทสวดมหากรุณาธาราณีสูตร

นะโมรัตนตรายายะ นะโมอายะชานะ สักการา เปโรชานะ
โยกะระชายะ ตัททะกาทายะ อะระหะเต สังยาสัง พุทธายะ
นะโมสังวา กัตทะกาเตเต อะระหะตาเต สังยาสัง พุทธเตเต
นะโมอะยะอวโลเกเต โชระยะพุทธิสัตวายะ มหาสัตวายา
มหากรุณิกายะ กายะทา โอม ธารา ธาระ ถิริถิรี ธุรู ธุรู อิติเว
อิติชาเล ชาเล กุระชาเล กุระชาเล กุสสุเม กุสสุมา วาเร อิมิมิริชชิติ
โชกะระมะ ปะระยะโช ฮา



ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม